1 ต.ค. 2020 เวลา 02:06 • นิยาย เรื่องสั้น
ชีวิตข้าพเจ้า ตอนที่ 35
....ขยันไม่อดตาย 2
มีไส้เผือก เลือกเอา หัวใหญ่สด
ปอกเปลือกหมด ล้างน้ำ แล้วก็หั่น
ต้มให้สุก จนเปื่อย ยกลงพลัน
รอให้เย็น เครื่องปั่น จนละลาย
วางบนเตา ตั้งไฟ หรี่อ่อนอ่อน
พอเริ่มร้อน ขยันคน จนน้ำหาย
ส่วนผสม มีเนย น้ำตาลทราย
เราจะได้ ไส้รสชาด ที่หวานมัน
ไส้ถั่วดำ แช่น้ำ ถั่วไว้ก่อน
ให้เม็ดอ่อน ต้มเปื่อย แล้วมาปั่น
เติมน้ำตาล ใส่เนย เพิ่มหวานมัน
ต่อจากนั้น ตั้งไฟ แล้วนั่งคน
อีกหนึ่งไส้ หวานอร่อย สังขยา
ทำให้ตาม ตำรา อย่าสับสน
เตรียมหม้อใหญ่ เทใส่ กระทิข้น
น้ำตาลป่น น้ำเปล่า ผสมเติม
แป้งสาลี ตักตวง เตรียมวางไว้
นำไข่ไก่ กะจำนวน มาใส่เพิ่ม
ตั้งไฟอ่อน ตักเนย ใส่เหมือนเดิม
แล้วก็เริ่ม คนจนเหนียว ก็เสร็จงาน
ไส้ตักใส่ เสร็จสับ รวบจับจีบ
สองนิ้วหนีบ โป้งชี้กลาง นางประสาน
จีบช้าช้า ค่อยทำ ก็ชำนาญ
อีกไม่นาน ก็เก่ง ใช้เวลา
เรียงซาลาเปา ใส่กระดาษ ซึ้งรออยู่
นั่งพักดู ครบชั่วโมง เมื่อไหร่หนา
รอเรื่อยไป จนแป้งขึ้น ถนัดตา
ยกซึ้งนึ่ง ลงมา ตั้งเตาไฟ
วางนึ่งบน น้ำต้ม ที่เดือดพล่าน
เวลาผ่าน สิบนาที ก็ยกได้
หยิบจากซึ้ง ผึ่งลม วางเรียงราย
พัดลมส่าย ซ้ายขวา คลายให้เย็น
ตอนจะขาย ใส่ซึ้ง อุ่นให้ร้อน
ใช้ไฟอ่อน กรุ่นไอ ลอยให้เห็น
ขับรถไป คอยระวัง น้ำกระเด็น
น้ำกะเซ็น โดนหลัง ร้อนตกใจ
ออกขายพร้อม เครื่องดื่ม หลายชนิด
ลูกค้าติด รสอร่อย กว่าเจ้าไหน
นั่งคอยมอง พ่อค้า มาเมื่อไร
จะซื้อไป ฝากที่บ้าน ให้ชิมดู
พ่อค้าซาลาเปา
ความมุ่งมั่น ตั้งใจ ไม่ยอมแพ้
ให้แน่วแน่ จะสู้ไป ให้โลกรู้
เป็นคนดี ใครก็รัก คนเชิดชู
ตัวไม่อยู่ ชื่อเลื่องลือ มิเสื่อมคลาย
ชีวิตข้าพเจ้า ตอนที่ 36
...จบบทละครชีวิต ทุกคนต้องเจอ
สายลมพัด ไม่เท่าไหร่ ก็พ้นผ่าน
แสงแดดร้อน ไม่นาน ก็จางหาย
สุขและทุกข์ วนเวียน อยู่รอบกาย
เกิดแล้วคลาย ก็ต้องหาย ไปตามวัน
ทุกสิ่งแท้ ไม่หยุด อยู่กับที่
สรรพสิ่ง ย่อมมี เปลี่ยนแปรผัน
จากเด็กน้อย เติบใหญ่ ไปตามกัน
สิ่งเหล่านั้น เป็นตาม เวลากาล
วันเวลา ผ่านไป ไม่มีหยุด
ทั้งยังฉุด อายุขัย วัยสังขาร
พาร่างกาย เต่งตึง เหยี่ยวหย่อนยาน
ผ่านยามกาล ยากสมาน ผิวผ่องพรรณ
ถึงวันนี้ ต้องหยุด สะดุดคิด
ทำสิ่งใด ตรองจิต อย่าหุนหัน
พลาดพลั้งไป ชีวิต พัลวัน
สุขเคยฝัน บั้นปลาย ก็หายไป
อยู่อย่างไร ให้มี แต่ความสุข
อย่าสนุก จนทุกข์ หมดสดใส
ลดละเลิก สิ่งกัด เกาะกินใจ
ปล่อยวางไป ด้วยสติ และปัญญา
หยุดละทิ้ง สิ่งหมอง ในชีวิต
พาดวงจิต ห่างกิเลส และตัณหา
ใช้ความดี ชุบชีวิต นำชีวา
ยิ่งใหญ่กว่า การให้ทาน คืออภัย
อย่ายอมให้ ความโลภ เผาดวงจิต
ใคร่ครวญคิด อย่ายึดติด กับสิ่งไหน
ทุกนี้สิ่ง ในโลก ใช่ของใคร
ทุกสิ่งไป ในโลกนี้ ใช่ของเรา
หากมีสุข เมื่อใด ให้เผื่อแผ่
พบเพื่อนทุกข์ ช่วยแก้ คลายให้เขา
ตามกำลัง ที่มี ช่วยบรรเทา
โลกนี้เล่า ก็จะสวย แสนโสภา
มองทางไหน ก็จะมี แต่รอยยิ้ม
ทุกทุกคน จะเต็มปริ่ม ความหรรษา
อยู่แห่งใด ทุกข์หาย สบายอุรา
ทั่วพสุธา มากมิตร มอบไมตรี
แต่ท้ายสุด มนุษย์ ทุกทุกคน
ที่ดิ้นรน อยู่บน โลกใบนี้
ก็ต้องลา จากลับ ดับชีวี
หมดหน้าที่ สิ้นทุกอย่าง ที่สร้างมา
จบบทบาท ละครโลก ดั่งความฝัน
เตือนสติ ให้มั่น หมั่นตรองหนา
ทำสิ่งใด บุญกรรม จะนำพา
ทุกชีวา ต้องแดดิ้น สิ้นทั้งปวง
ไม่เหลือแม้ เนื้อหนัง ทั้งมังสา
อีกทรัพย์สิน เงินตรา ที่เคยหวง
ใช่ของจริง สิ่งเหล่านั้น ล้วนหลอกลวง
ทรัพย์ทั้งปวง ติดตัวไป ไม่ได้เลย
เหลือคงไว้ คือดีชั่ว ที่ตัวก่อ
ความจริงหนอ จะถูกขุด ผุดเฉลย
คำแซ่ซ้อง สาปแช่ง รึชมเชย
ถูกเอื้อนเอ่ย ความดีชั่ว ทั่วธานิน
ทำให้ดี ตอนที่ มีชีวิต
ครวญใคร่คิด อย่ายึดติด ในทรัพย์สิน
ตัดเกลาใจ ละทิ้ง สิ่งมลทิน
เป็นอาจิณ สร้างกุศล บุญสุนทาน
ผลความดี พาใจ ให้สูงส่ง
คราปลดปลง ร่างสละ ละสังขาร
บุญจะนำ สู่สรวง ห้วงวิมาน
สุขสำราญ บนสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์.
....จบบริบูรณ์
@บทกลอนแสนดี
โฆษณา