#รีวิวหนังสือ Presentation Canvas : เปลี่ยนการขายเป็นการเล่าเรื่องให้โดนใจ
สำหรับนักการตลาดที่ดีสิ่งสำคัญคือต้องรู้จักการพูดจาให้คนรู้สึกคล้อยตาม แต่สิ่งเหล่านี้พูดง่ายทำยาก หลายคนมีประสบการณ์ไม่สู้ดีนัก และหลายคนเช่นกันที่ไม่มั่นใจในตัวเองเวลาที่ต้องไปพรีเซ็นต์เสนอขายสินค้าให้กับลูกค้า ปัญหาสำคัญคือเราไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เราถ่ายทอดลูกค้าจะมีอารมณ์ร่วมหรือมีความรู้สึกแบบเดียวกับที่เราต้องการหรือเปล่า หนังสือ Presentation Canvas เปลี่ยนการขายเป็นการเล่าเรื่องจะมาสอนเทคนิคว่าเราควรทำอย่างไรให้เรื่องการขายพูดได้ทำง่ายเหมือนการเล่าเรื่องธรรมดา
ผู้เขียน สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม
หนังสือที่ช่วยไกด์วิธีการทำ Presentation เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ฟังคล้อยตามและปิดการขายได้สำเร็จ ด้วยการทำ "Presentation Canvas" เครื่องมือที่ช่วยจัดระเบียบความคิดในการทำ Presentation ออกแบบโดยผู้เขียน จากประสบการณ์การทำ Presentation มานานกว่า 15 ปี ทดลองใช้มานานกว่า 4 ปี Training ให้กับองค์กรต่าง ๆ มากมาย และได้รับการตอบรับดีมาก โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก "Business Model Canvas"
1. Introduction
Presenntation = Persuasion : การนำเสนอคือ การโน้มน้าว โดยเริ่มจาก การคิดและเข้าใจว่าอยากจะพูดอะไร และผู้ฟังอยากฟังอะไร
กฎ 3 ข้อของการนำเสนอ
- ตัวคุณสำคัญที่สุด
- ผู้ฟังมีอำนาจมากที่สุด
- พรีเซ็นเทชั่นเป็นเพียงเครื่องมือ
How to Make a Good Presentation ใช้ความคิดวางแผน ลงมือทำ นำความคิดมาเขียน
Presentation Canvas มี 12 ช่อง แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนที่ 1 The Key : ผู้ฟัง • เป้าหมาย • เนื้อหา • สถานที่
ส่วนที่ 2 Storyline : ปัญหา • ทางแก้ • ประโยชน์ที่ผู้ฟังได้ • ผู้ฟังต้องทำ
ส่วนที่ 3 The Supporters : การเล่าเรื่อง • การเปรียบเทียบ • คำยืนยัน • การป้องกัน
2.The Key : หัวใจสำคัญ
- Objectives : เป้าหมาย หาเป้าหมายของตัวเองให้ได้
- Audiences : ผู้ฟัง ศึกษาผู้ฟัง ว่าสนใจฟังเรื่องอะไร
- Core Message : เนื้อหาหลัก หลักการในการนำเสนอ สั้นๆ ได้ใจความ
- Place : สถานที่
ผู้ฟังที่มีอำนาจตัดสินใจ 5 ประเภท
- Charismatics : กลุ่มคนที่หลงใหลความสดใหม่
- Thinkers : กลุ่มคนที่เป็นนักคิดวิเคราะห์
- Skeptics : กลุ่มผู้ที่มีความสงสัยอยู่เสมอ
- Followers : กลุ่มคนที่เชื่อในการตัดสินใจที่ผ่านมา
- Controller : กลุ่มคนที่เป็นนักบงการ
3.Storyline : เรื่องราวในการนำเสนอ
1.Problems : ปัญหา โฟกัสไปที่ปัญหาของลูกค้า
2.Solutions : ทางแก้ไขปัญหา นำเสนอสิ่งที่การแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้
3.Benefits : ประโยชน์ที่ผู้ฟังจะได้รับ สำคัญคือใครได้ผลประโยชน์
4.Call to Action : สิ่งที่ต้องทำ สิ่งที่ต้องการให้ผู้ฟังทำ หลังจบการนำเสนอ
Start with Whys เข้าถึงปัญหาของคนด้วยการถามว่า ทำไม
ทฤษฎี 5 Whys ถามถึงปัญหาไปเรื่อยๆ จนได้ข้อสรุปที่แท้จริง
"Persuasive Story Pattern" เทคนิคเล่าเรื่อง
-What is สิ่งที่เป็น พูดถึงปัญหา
-What Could สิ่งที่น่าจะเป็น พูดถึงวิธีแก้
-New Bliss ความสุข พูดถึงทางออก สิ่งที่ได้
4.The Supporters : ข้อมูลสนับสนุน
- Storytelling (การเล่าเรื่อง) : การเล่าเรื่องที่ดีจะนำมาซึ่งความเชื่อ
- Compare (การเปรียบเทียบ) : ทำให้ผู้ฟังเห็นภาพชัดขึ้น
- Testimonial (คำยืนยัน) : คำยืนยันจะเพิ่มความน่าเชื่อถือ
- Weakness (จุดอ่อน) : บอกข้อเสีย ลูกค้าจะรู้สึกถึงจริงใจ
องค์ประกอบของเรื่องราวที่น่าสนใจ
- Trust in the Teller (ความเชื่อในตัวผู้เล่าเรื่อง)
- Darma (ความดราม่า)
- Relatability (ความเชื่อมโยง)
- Immersion (การมีส่วนร่วม)
- Simplicity (ความเรียบง่าย)
- Agency (การต่อจุด)
- Familiarity (ความคุ้นเคย)
อัพเดทและติดตามข่าวสารได้ที่
Line : @thaifranchise
Twitter : @thaifranchise
Website : https://www.thaifranchisecenter.com
Instagram : http://instagram.com/thaifranchise
YouTube : http://youtube.com/user/ThaiFranchise
Blockdit : http://blockdit.com/thaifranchisecenter
- 8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
