6 ต.ค. 2020 เวลา 03:00 • ปรัชญา
7 เคล็ดลับ
เพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเอง
เคล็ดลับที่ 1
### อ่อนน้อมถ่อมตน ###
ความอ่อนน้อมถ่อมตนถือเป็นตัวแปรสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับการสร้างอิสรภาพทางสังคม ดังสุภาษิตญี่ปุ่นที่ว่า “จงอ่อนน้อมให้เหมือนรวงข้าวทองอร่าม” มหาเศรษฐีทุกคนล้วนเป็นผู้มีความอ่อนน้อมถ่อมตน นอกจากนี้พวกเขายังมีแนวคิดด้านบวกว่า “พระเจ้ามักส่งใครสักคนมาตอบคำถามของเราเสมอ” ดังนั้นแม้ว่าอีกฝ่ายจะมีสถานภาพด้อยกว่าหรืออายุน้อยกว่า พวกเขาก็พร้อมจะรับฟังอย่างตั้งใจ และหากมีข้อสงสัยก็จะขอให้อีกฝ่าย “สอน” โดยไม่ลังเล
สรุปคือ การอ่อนน้อมถ่อมตนและรู้จักขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ถือเป็นอีกหนึ่งกลเม็ดในการมัดใจคนได้เช่นกัน
เคล็ดลับที่ 2
### เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และมีน้ำใจ ###
เมื่อเกิดความรู้สึกทำนองว่า “ผมอุตส่าห์ลงทุนกับคุณไปต้องมากมาย ทำไมถึงไม่ทำให้ได้อย่างที่ผมต้องการ” จิตใจของคุณก็จะเต็มไปด้วยความขุ่นข้องขัดเคือง พานโมโหกระทั่งคนรอบข้าง จนทำให้ความสัมพันธ์ที่มีกับผู้อื่นย่ำแย่ลง มหาเศรษฐีที่มีความสุขจึงไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด
แม้จะไม่ได้หวังผล แต่เหล่ามหาเศรษฐีล้วนรู้ดีว่า ตามหลักเหตุและผล สิ่งที่ตัวเองทุ่มเทลงไปนั้นย่อมส่งผลดีกลับมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึางผลดีที่ว่าก็ไม่จำเป็นจะต้องมาจากฝ่ายผู้รับเท่านั้น แต่อาจมาในรูปของโอกาส มิตรภาพ หรือเสียงชื่นชมต่อ ๆ กันว่า “คนคนนั้นเป็นคนวิเศษจริง ๆ” ก็ได้
1
เคล็ดลับที่ 3
### ฝึกเป็นผู้ให้ ###
มหาเศรษฐีทุกคนต่างมีแนวคิดเหมือนกันว่า “คนเราต้องเป็นได้ทั้งผู้ให้และผู้รับ” โดยเริ่มจากการเป็นผู้ให้ก่อน จากนั้นจึงค่อยเป็นผู้รับ แต่ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีที่มีความสุขแล้ว แนวคิดดังกล่าวจะเปลี่ยนไป “พี่นี้มีแต่ให้… และให้”
ดังนั้นหากคุณมุ่งหวังจะพัฒนาตัวเองไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ก็ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองอยู่ในฐานะผู้รับอย่างเดียว แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นถึงมหาเศรษฐี แต่การเป็นผู้ให้ก่อนก็ถือเป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติ
เคล็ดลับที่ 4
### แลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างมีชั้นเชิง ###
ในความเป็นจริง ข้อมูลจะไม่เข้ามาหาเรา หากเราไม่เป็นฝ่ายให้อะไรบางอย่างแก่ผู้อื่นก่อน
เพื่อรวบรวข้อมูลที่ต้องการ คนระดับมหาเศรษฐีมักลงทุนมากเป็นพิเศษ เช่นพวกเขาจะไม่เลือกร้านอาหารทั่ว ๆ ไปเป็นที่นัดพบผู้อื่น แม้ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารกลางวันระหว่างตีกอล์ฟก็ตาม พวกเขาจะเลือกร้านอาหารที่เปิดบริการเฉพาะลูกค้าที่เป็นสมาชิกเท่านั้น อีกทั้งยังขอใช้ห้องส่วนตัวด้วย
เหตุผลที่ต้องเลือกสถานที่เป็นส่วนตัวเป็นพิเศษ ก็เพราะในการพบปะเช่นนี้ เหล่ามหาเศรษฐีมักจะแบ่งปันข้อมูลสำคัญ ๆ มากมายแก่แขกที่มาร่วมงานแบบไม่มีหวง เพื่อแลกกับการที่ตัวเองจะได้รับข้อมูลมีค่ากลับมา จึงมีเรื่องราวมากมายที่ไม่ควรให้คนทั่วไปรู้ ทำให้ต้องเลือกสถานที่ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครแอบฟังนั่นเอง
1
เคล็ดลับที่ 5
### รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ###
มหาเศรษฐีจำนวนไม่น้อยรักการดื่มไวน์ บางคนถึงขั้นมีโรงงานผลิตไวน์เป็นของตัวเองด้วยซ้ำ และหากคุณเผลอแสดงความรู้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ให้คนรักไวน์ตัวจริงเหล่านี้ฟัง นอกจจากจะถูกอีกฝ่ายย้อนว่า “พูดอะไรของคุณ!?” แล้ว ยังมีโอกาสทำให้เขาไว้วางใจในตัวคุณน้อยลงด้วย
1
การเรียนรู้เรื่องไวน์ดัง ๆ มารยาทในการดื่มไวน์ ฯลฯ จึงเป็นเรื่องจำเป็น เพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นความรู้ขั้นพื้นฐานสำหรับการเข้าสังคมกับมหาเศรษฐี อย่างไรก็ดีการเรียนรู้เกี่ยวกับไวน์เพื่อความสำเร็จก็อาจจะให้ผลลัพธ์ตรงกันข้ามได้เช่นกัน เพราะมหาเศรษฐีบางคนนั้นไม่ดื่มไวน์
1
สิ่งที่อยากบอกจากการยกตัวอย่างเหล่านี้ก็คือ การหาข้อมูลล่วงหน้าว่าอีกฝ่ายชอบอะไร แล้วศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนั้นเตรียมไว้เล็กน้อยถือเป็นเป็นเรื่องสำคัญ
1
เคล็ดลับที่ 6
### รู้จักเอาใจใส่รูปลักษณ์ภายนอก ###
เวลาพบใครสักคนพวกเขาจะดูที่ภาพลักษณ์อีกฝ่ายเป็นหลัก แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แค่เลือกใส่เสื้อผ้าที่ดูสะอาดสะอ้านและน่ามองก็พอ ส่วนทรงผมก็ห้ามปล่อยให้ฟูเป็นรังนก และหากเป็นผู้หญิงก็ควรแต่งหน้าแต่งตาให้สะอาดชวนมองสักนิด
1
สิ่งสำคัญที่มหาเศรษฐีที่มีความสุขมักมองหาก็คือพลัง หรือออร่า ที่เปล่งออกมาจากภายในของอีกฝ่ายนั่นเอง ด้วยเหตุนี้เครื่องประดับอย่างหนึ่งซึ่งสำคัญกว่าอะไรทั้งหมดที่คุณควรมีติดตัวไว้ก็คือ “ความยิ้มแย้มแจ่มใส”
คำว่า “ยิ้มแย้มแจ่งใส” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงลักษณะนิสัยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่หมายถึงการมองโลกในแง่บวกแม้ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์แย่ ๆ และเชื่อมั่นว่า “วันพรุ่งนี้จะต้องดีกว่านี้ ไม่ช้าก็เร็วเราต้องได้พบกับเรื่องดี ๆ แน่”
3
เคล็ดลับที่ 7
### กตัญญูรู้คุณ ###
ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา นักวิจัย หรือมหาเศรษฐี ทุกคนต่างคิดจากใจจริงว่า “แค่ลำพังตนเพียงคนเดียวคงไม่มีทางมาถึงจุดนี้ได้แน่”
1
ข้อแรก พวกเขาล้วนคิดว่าการที่ตัวเองประสบความสำเร็จได้นั้น เป็นเพราะว่ามีคนคอยช่วยเหลือ
อีกข้อคือ พวกเขาเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็นคอยให้การคุ้มครองและปกปักรักษา รวมทั้งช่วยบันดาลให้สิ่งที่เขาทำอยู่นั้นประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี ด้วยเหตุนี้มหาเศรษฐีจำนวนไม่น้อยจึงปฏิบัติตนเป็นศาสนิกที่เคร่งครัดในศาสนาที่ตนนับถือ และหลายคนก็ให้ความสำคัญกับบรรพบุรุษของตัวเองอย่างมาก
2
ความเคารพและระลึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษ รวมถึงพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดอย่างไม่เสื่อมคลายนี้เองคือ ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งของการสร้างอิสรภาพทางสังคมให้แก่ตัวเอง
>>> อ่านหนังสือพัฒนาตนเอง <<<
06.10.2020
1
โฆษณา