7 ต.ค. 2020 เวลา 03:00 • ปรัชญา
8 เคล็ดลับ
รู้จักหาเงิน แม้ไม่ได้ทำงาน
1
เคล็ดลับที่ 1
### แม้ในยามหลับ เงินก็ต้องงอกเงย ###
ตราบใดที่คุณยังคงฝากชีวิตไว้กกับเงินเดือนบริษัท คุณก็คงเป็นผู้กำหนดรายได้ให้ตัวเองไม่ได้ ดังนั้นเพื่อการสร้างอิสรภาพทางการเงิน คุณจึงจำเป็นต้องสร้างรายได้ทางอื่นเพิ่ม นอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับจากบริษัท
ยังมีรายได้ซึ่งเรามีสิทธิ์ได้รับโดยไม่ต้องทำงานอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนในหุ้น ตั๋วแลกเงิน กองทุนต่าง ๆ อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีรายได้รูปแบบอื่น ๆ อีก เช่น ค่าลิขสิทธิ์จากการเขียนหนังสือ ค่าลิขสิทธิ์จากการคิดค้นสินค้าบางอย่าง ค่าส่วนแบ่งจากการเป็นนายหน้า ค่าโฆษณาจากสื่อออนไลน์ ส่วนแบ่งจากการทำธุรกิจออนไลน์ ฯลฯ
ทั้งหมดนี้คือหนทางที่จะช่วยให้เรามีเงินรายได้จากแหล่งอื่น ๆ นอกเหนือจากเงินเดือน อีกทั้งยังเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การมีอิสรภาพทางการเงินได้ในที่สุด
เคล็ดลับที่ 2
### อย่าเก็บเงินไว้เพียงสกุลเดียว ###
1
ตัวอย่างที่เห็นกันบ่อยที่สุดก็คือ การซื้ออพาร์ตเมนต์สักแห่ง แล้วเปิดให้คนเช่า เพียงเท่านี้ก็มีรายได้จากการให้เช่าอพาร์ตเมนต์เข้ามาทุกเดือน ซึ่งจะเป็นรายได้ในรูปแบบเงินสดแน่นอน
สิ่งหนึ่งที่อยากให้ระลึกไว้เสมอก็คือ เงินหรือหุ้นมีโอกาสกลายเป็นเพียงเศษกระดาษได้ทุกเมื่อ ขึ้นอยู่กับทิศทางของเศรษฐกิจโลก สำหรับสกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกคงต้องยกให้กับดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นนอกจากการลงทุนในกองทุนหรืออสังหาริมทรัพย์แล้ว อยากแนะนำให้ฝากเงินจำนวนหนึ่งเป็นสกุลเงินสหรัฐไว้ด้วย ส่วนประกันชีวิตก็พยายามเปลี่ยนมาซื้อกับบริษัทสัญชาติอเมริกัน เพราะว่าต่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นทั่วโลกจนค่าเงินของทุกประเทศตกต่ำหมด ดอลลาร์สหรัฐก็จะยังคงมูลค่าอยู่เสมอ
นอกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว ธนาคารของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีความปลอดภัยและมั่นใจได้มากที่สุดแต่ไหนแต่ไรมา
ดังนั้นหากเป็นไปได้จึงควรแบ่งเงินทุนที่มีอยู่ไปลงทุนในต่างประเทศสัก 50 เปอร์เซ็นต์
1
เคล็ดลับที่ 3
### รายได้ควรแปรผกผันกับเวลาทำงาน ###
เราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงต่อ 1 วัน และมีแค่ 365 วันต่อ 1 ปี ดังนั้นต่อให้พยายามทำงานเพิ่มรายได้สักแค่ไหนก็ทำได้มากที่สุดเท่าที่เวลาจำกัดเท่านั้น จะทำมากไปกว่านั้นไม่ได้ พูดอีกอย่างก็คือ ยิ่งทำงานเพิ่มมากเท่าไหร่ในเวลาเท่าเดิม ประสิทธิภาพของงานก็จะยิ่งแย่ลงเท่านั้น ซึ่งความขัดแย้งนี้ มหาเศรษฐีทุกคนล้วนเคยประสบมาแล้ว
1
เคล็ดลับที่ 4
2
### มหาเศรษฐีจะไม่ลงทุนกับบ้านหรือรถส่วนตัว ###
สาเหตุที่เหล่ามหาเศรษฐีมักไม่ใช้เงินกับบ้านมากมายนักก็เพราะว่า บ้านไม่ได้ก่อให้เกิดเม็ดเงินเพิ่มขึ้นนั่นเอง แม้เรามักได้ยินคนพูดกันบ่อย ๆ ว่า “บ้านคือทรัพย์สมบัติอย่างหนึ่ง” แต่ตราบใดที่ยังผ่อนไม่หมด บ้านหลังนั้นก็จะยังถือว่าเป็นทรพย์สินของธนาคาร
2
ส่วนบรรดามหาเศรษฐีทั้งหลายนั้น แม้จะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มากมายสำหรับการลงทุน แต่หลายคนกลับเลือกที่จะเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่หรือพักที่โรงแรมแทน เพราะพวกเขาพิจารณาแล้วว่าไม่คุ้มค่าที่จะต้องลงทุนมากมายเพื่อสร้างบ้านอยู่อาศัย
มหาเศรษฐีบางคนแม้จะร่ำรวยแค่ไหนแต่ก็ยังขับรถคันเก่าซึ่งผลิตในประเทศ ส่วนบางคนใช้วิธีเช่ารถขับแทนที่จะซื้อรถเป็นของตัวเอง เพราะเหตุผลง่าย ๆ ว่า การอยากได้คฤหาสน์หรือรถหรู ๆ นั้นเป็นไปเพียงเพื่อตอบสนองความอยากของตัวเองเท่านั้น ซึ่งความพึงพอใจในวัตถุที่ได้มาเพราะความอยากมักมีช่วงเวลาจำกัด ไม่นานนักก็จะมีความต้องการในสิ่งใหม่เกิดขึ้นอีก ทำให้กลายเป็นวังวนไม่รู้จบ เพราะฉะนั้นหากคิดจะเป็นมหาเศรษฐีที่มีความสุข ก็ต้องบอกลาความอยากเหล่านั้นให้ได้เสียก่อน
1
เคล็ดลับที่ 5
### ลงทุนเต็มที่กับรองเท้าและกระเป๋า ###
จะเห็นได้ว่ามหาเศรษฐีทั้งหลายไม่ได้ซื้อของแบรนด์เนมหรู ๆ เพื่ออวดบารมี หรือสนองความอยากของตัวเองแต่อย่างใด แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือ คุณค่าที่มีมูลค่าสูงกว่าราคานั่นเอง
อีกเรื่องหนึ่งที่น่าแปลกใจก็คือ มหาเศรษฐีส่วนมากไม่ได้เป็นเจ้าของบัตรเครดิตแบบแพลทินัมหรือแบล็กการ์ดอย่างที่เราเข้าใจกันแต่อย่างใด
1
เคล็ดลับที่ 6
### วางรากฐานชีวิตให้มั่นคง ###
มหาเศรษฐีที่มีความสุข จะคำนึงถึงสมดุลในการทำงานมากกว่าหาเงินให้ได้มาก ๆ เพียงอย่างเดียว
เมื่อทำงานจนเงินงอกเงยขึ้นระดับหนึ่งแล้ว พวกเขาก็จะปล่อยให้คนอื่นช่วยดูแลงานส่วนหนึ่งแทน เพื่อรักษาเวลาส่วนตัวของตนเองไว้ และใช้เวลาว่างไปกับกิจกรรมเช่น ดูแลสุขภาพด้วยการฟิตเนส จัดงานสังสรรค์พูดคุยกับกลุ่มคนที่ตนตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากสังคมด้วย เป็นต้น
เพียงเท่านี้ก็ได้ชื่อว่าสามารถรักษาสมดุลระหว่างเงิน เวลา สุขภาพ และสังคมได้แล้ว หรือถ้าหากเห็นว่าเงินมากพอแล้ว บรรดามหาเศรษฐีที่มีความสุขทั้งหลายก็จะนำเงินส่วนหนึ่งไปบริจาคเพื่อการกุศล
1
ดังนั้นหากมัวแต่คิดถึงแค่การทำให้เงินงอกเงยขึ้น โดยไม่ใส่ใจการรักษาสมดุลดังกล่าว สุดท้ายแล้วก็จะไม่มีทางก่อร่างสร้างตัวให้สูงขึ้นจากที่เป็นอยู่ได้
เคล็ดลับที่ 7
### อย่าเริ่มทำธุรกิจด้วยการกู้หนี้ยืมสิน ###
ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่มีใครเริ่มกิจการด้วยการกู้เงินก้อนโตมาใช้เลย แต่พวกเขาล้วนเริ่มทำธุรกิจจากจุดที่ไม่ต้องใช้เงินแทน
พฤติกรรมอีกอย่างที่เหล่ามหาเศรษฐีมักทำกันในช่วงก่อร่างสร้างตัวขณะที่ยังเป็นลูกน้องคนหนึ่งอยู่ก็คือ การตั้งนิติบุคคลของตัวเองขึ้นระหว่างที่ยังทำงานประจำและมีเงินเดือนมั่นคง โดยจะไม่มีการลาออกจากบริษัทจนกว่าจะมีเงินเก็บตามเป้าที่วางไว้ คือเป็นจำนวนเงินที่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตได้ 1-2 ปี โดยไม่ต้องทำงาน จากนั้นจึงจะเปิดกิจการเป็นของตัวเอง
แทบไม่มีมหาเศรษฐีคนไหนเลยที่เริ่มต้นทำธุรกิจจากการเป็นหนี้
เคล็ดลับที่ 8
### จงปฏิบัติต่อเงินด้วยความเคารพ ###
มหาเศรษฐีสำหรับพวกเขาเงินเป็นสิ่งที่ควรให้ความเคารพ ดังนั้นถ้าไม่นำเงินมาใช้ให้เกิดประโยชน์ พวกเขาก็จะรู้สึกผิดต่อเงิน
แม้แต่เวลาลงทุน มหาเศรษฐีก็ยังเลือกลงทุนกับธุรกิจที่สามารถนำเงินไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้น แทนที่จะลงทุนโดยปล่อยให้เงินนอนนิ่งอยู่เฉย ๆ ด้วยความคิดและพฤติกรรมเช่นนี้ ทำให้เงินมักกลับคืนมาหาพวกเขาอยู่ตลอด
แน่นอนว่าการยึดติดกับเงินเป็นสิ่งไม่ดี แต่หากไม่มีความเคารพต่อเงิน สุดท้ายแล้วคนคนนั้นก็จะขาดกระทั่งความเคารพต่อสิ่งรอบตัว จนกลายเป็นที่ชักนำความทุกข์เข้าสู่ตัวเองไปในที่สุด
1
>>> อ่านหนังสือพัฒนาตนเอง <<<
07.10.2020
โฆษณา