5 ต.ค. 2020 เวลา 06:10 • ยานยนต์
การเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ จะเรียกได้ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายถูก เว้นแต่ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายถูก แต่คู่กรณีไม่มีประกันภัย เราต้องเรียกร้อง ไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีที่สถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุเอง จะไม่สามารถเรียกร้องกับบริษัทประกันของเราได้
ทั้งนี้ เงื่อนไขในการตั้งเบิกต้องมีเอกสารแนบ เพื่อแสดงให้บริษัทประกันของคู่กรณีรับทราบ ถึงการจัดซ่อมและระยะเวลาในการจัดซ่อม โดยเอกสารในการเรียกร้องจำกัดว่าต้องเป็นของผู้ถือครองกรรมสิทธิ์รถตามกฎหมายเท่านั้น บุคคลที่ระบุชื่อเป็นผู้เอาประกันภัยไม่สามารถใช้เอกสารเรียกร้องแทนได้ แต่สามารถเป็นผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินการแทนผู้ถือครองกรรมสิทธิ์รถได้ เว้นเสียแต่ผู้เอาประกัน กับผู้ถือครองเป็นบุคคลคนเดียวกัน แนะนำว่าควรไปยื่นเอกสารที่บริษัทประกันของคู่กรณี เพราะหากเอกสารตกหล่นระหว่างทาง บริษัทประกันที่เราเรียกร้องจะไม่รับผิดชอบ ถ้ายังส่งไม่ถึงผู้รับปลายทาง
เอกสารที่ใช้ในการเบิกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเบื้องต้น ได้แก่
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน(ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์รถ)
- หน้าตารางสำเนากรมธรรม์ (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี) ติดอากรแสตมป์ 10 บาท ต่อคนต่อเรื่อง หรือ 30 บาท
(ในกรณีไม่ได้ไปติดต่อด้วยตนเอง)
- ใบเคลม จากเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย
- ใบเสนอราคาซ่อมแซมรถยนต์จากอู่ หรือศูนย์ (ถ้ามี)
- ใบรับรถ หรือใบเสร็จส่งมอบรถ เมื่อซ่อมแซมเสร็จแล้ว
- รูปถ่าย หลักฐานตอนซ่อมรถ
- สำเนาทะเบียนรถ
- หลักฐานค่าใช้จ่ายระหว่างการเอารถเข้าซ่อม เช่นใบเสร็จในการเช่าใช้รถ
นอกจากนี้ บริษัทประกันอาจมีการขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาค่าขาดประโยชน์เพิ่มเติมได้
ในกรณีที่รถยนต์จัดซ่อม นานเกินกว่าสองเดือนขึ้นไป อาจทำให้บริษัทประกันต่อรอง หรือลดจำนวนวันการจ่ายค่าชดเชยลงมา จึงอาจทำให้ผู้เสียหายไม่ได้การชดเชยค่าความเสียหายตามจริง #เพราะอะไรประกันถึงจ่ายไม่เต็ม? ก็เพราะว่าบริษัทประกันภัยนั้น ประกอบธุรกิจประกันภัย ซึ่งเป็นธุรกิจที่หวังผลกำไรตอบแทน จึงเป็นธรรมดาที่บริษัทต้องรักษาผลประโยชน์ขององค์กร ซึ่งต่างจากหน่วยงานของภาครัฐ คือสำนักงานกรมการประกันภัย หรือ คปภ. ที่คอยกำกับควบคุมดูแลบริษัทประกันภัย มีหน้าที่ เจรจาไกล่เกลี่ย ข้อร้องเรียนที่ผู้เสียหายยื่นเรื่องเข้ามาร้องเรียน เพราะโดนบริษัทประกันภัยเอารัด เอาเปรียบ
ในกรณีที่ คปภ. ไม่สามารถยุติการเจรจาไกล่เกลี่ยในเบื้องต้นได้ จึงต้องอาศัยเหตุแห่งสัญญาประกันภัย เสนอ ยุติข้อพิพาทนี้แก่อนุญาโตตุลาการ ให้เป็นผู้ตัดสินชี้ขาด ดังนั้น สำนักงานทนายตั้ม จึงเป็นคนกลางรับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย เรียกร้องความเสียหายตามจริง ไม่ว่าจะเป็น ค่าเดินทาง,ค่าดำเนินการ,ค่าเสียเวลา,ค่าเสื่อมราคา จากอุบัติเหตุ,ค่าขาดรายได้ระหว่างหยุดพักงาน ให้แก่ผู้เสียหาย เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมกลับคืนมา
หากต้องการสอบถามขั้นตอนรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมสามารถทักมาทางข้อความเพจเฟสบุ๊ค ซึ่งทนายตั้ม และแอดจะเป็นผู้ตอบไขข้อข้องใจให้ค่ะ
โฆษณา