5 ต.ค. 2020 เวลา 15:12 • ประวัติศาสตร์
#ชายผู้ส่งความตายผ่านไปรษณีย์
#unabomber
 
1 ในบุคคลที่สร้างความหวาดผวาให้ชาวอเมริกัน เป็นเวลายาวนานถึง 17 ปี ชายผู้ที่ขบวนการยุติธรรมต้องการตัวมากที่สุดก่อนเหตุการ์ณ 911 1 ในการระดมกำลังตามล่าของ Fbi ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ พบกับเรื่องราวของอัฉริยะ ผู้ส่งความตายผ่านไปรษณีย์ เท็ด คาซินสกี Unabomber
เด็กอัจฉริยะผู้มีไอคิวสูงถึง 167 อาจฟังดูเป็นเรื่องที่ดีสำหรับใครหลายๆคน แต่สำหรับ ธีโอดอร์ จอห์น คาซินสกี ( Theodore John Kacsynski) เค้าเข้ามาหาวิทยาลัยฮาวาร์ดในสาขาคณิตศาสตร์ด้วยวัยเพียง 16 ปี นั่นทำให้เค้าเป็นเด็กหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดในมหาลัย บวกกับอาการของภาวะภูมิแพ้รุนแรง ทำให้เค้าดูแปลกแยก และได้การต้อนรับที่ไม่ดีนักจากเพื่อนฝูง 1 ในสาเหตุที่ทำให้ เท็ด เป็นโรคหวาดกลัวสังคม และทำให้เค้าเป็นเด็กนอกคอก ในสายตาเพื่อนๆ
ระหว่างที่เค้าอยู่ที่ฮาร์วาร์ด เค้าเข้าร่วมการทดลองของ เฮนรีย์ เมอร์เรย์ (Henry Murey) ศาสตราจาร์ยทางด้านจิตวิทยา ที่มีเนื้อหาการทดลองเกี่ยวกับการควบคุมความคิดคน หรือ เทคนิค Oss ภายใต้การดูแลของ Cia ผลลัพของการทดลองนี้ยังถูกเก็บเป็นความลับตราบจนทุกวันนี้ และ ยังเป็นที่ถกเถียงกันของนักจิตวิทยาทั่วโลก โดยมีเพียงคำใบ้จากเท็ด ที่ทิ้งไว้ว่า Lawful หรือ ซื่อสัตย์ต่อกฎหมาย แต่ไม่ว่าผลของการทดลองจะเป็นอย่างไร ที่แน่ๆการทดลองนี้ เป็นการจุดชนวนให้ เท็ด คาซินสกี รับรู้ถึงความอันตรายของเทคโนโลยี ซึ่งนำไปสู่การก่อร้ายตามอุดมคติของเค้า
ต่อมาในปี 1962 เท็ด คาซินสกี ในวัยเพียง 25 ปี ก็จบการศึกษาระดับปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และได้รับตำแห่ง ผู้ช่วยศาสตราจาร์ยในมหาวิทยลัยเบริกเลย์ แต่ในเวลาไม่นานเค้าก็ยื่นใบลาออก และย้ายกลับไปอยู่ที่เมือง ลอมบาร์ด รัฐ อิลลินอย เพื่อเข้าทำงานกับน้องชายของเค้า เดวิด ที่ในเวลานั้น เป็นเจ้าของโรงงานแห่งหนึ่ง
ที่โรงงานของเดวิด เท็ด ได้รู้จักกับความรักเป็นครั้งแรก กับ หญิงสาวผู้เป็นเพื่อร่วมงานกับเค้า เค้าเขียนจดหมายหลายฉบับที่ระบายความในใจถึงเธอ แต่หญิงสาวกลับไม่สนใจและปฎิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยดี เท็ด คาซินสกี ที่ผิดหวังในความรัก จึงเขียนบทกวี ด่าทอหญิงสาวต่างๆนาๆ และปิดไว้รอบๆโรงงาน ทำให้เดวิดไม่พอใจ และ เตือนเท็ดอยู่หลายครั้ง เมื่อเท็ดไม่ยอมหยุดการกระทำดังกล่าว เดวิดจึงต้องขอให้พี่ชายออกจากงาน และนั่นทำให้เท็ด รู้สึกแตกแยกจากสังคม
ปี1971 เท็ดย้ายเข้าไปอยู่ในกระท่อม ขนาด 3x3.5 เมตร ที่เค้าสร้างขึ้นเองในป่าเขต รัฐมอนทานา ที่นี่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก แม้กระทั่งน้ำประปา หรือ ไฟฟ้า นี่อาจเป็นขั้นตอนแรกของแผนก่อการร้ายของเค้า เพราะหากตำรวจต้องการหาตัวเค้า นั่นเปรียบเสมือนการหาเข็มขนาด 10x12 บนกองหญ้าขนาด 4 ล้านตารางไมล์ ความเกลียดชังของเท็ดเริ่มก่อตัวขึ้นที่นี่ จนกระทั่งประทุออกมาในที่สุด
ระเบิดชุดแรกของเค้า เกิดขึ้นที่ มหาวิทยลัยนอร์ธเวสเทริน ในวันที่ 25 พฤษภาคม ปี1978 มีตำรวจรายหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บจากรอยไฟไหม้ไปทั่วร่างกาย และราวๆ 1 ปีต่อมา มีนักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดที่เท็ด เอาไปวางด้วยตัวเอง ในระหว่างการเดินทางไปเยี่ยมพ่อแม่เป็นครั้งสุดท้าย และหลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเท็ด และครอบครัวก็เหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ เพราะ เท็ด คิดว่าพ่อและแม่เป็นต้นเหตุ ของรอยแผลในใจเค้า
ในการปฎิบัติการของเท็ด คาซินสกี เค้ายึดกฎ3ข้อ นั่นคือ
ปฏิบัตการด้วยตัวเอง
ไม่บอกใคร และ
ไม่ทิ้งหลักฐานอะไรที่จะนำไปสู่ตัวเค้าได้เลย
การก่อวินาศกรรมของเค้าที่ผ่านมา เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนที่ใหญ่กว่า นั่นคือการทำให้โลกอุตสหกรรม สิโรราบต่อความคิดแบบโลกในอุดมคติ โลกที่มีเสรีภาพ และไร้ซึ่งการรุกรานของเทคโนโลยี และเครื่องจักร ซึ่งในอนาคตจะเป็นศัตรูต่อสังคมมนุษย์
ในปี 1979 ที่กระท่อมของเท็ด เค้าสังเกตุเห็นเครื่องบินที่บินผ่านหลังคามากขึ้นในทุกๆปีถึงแม้เค้าจะอยู่กลางป่าทึบ นั่นทำให้เค้าตัดสินใจประกาศสงครามกับสังคมเทคโนโลยี และในไม่ช้าเค้าก็ทำให้คนทั้งประเทษหวาดกลัว 15 พฤษภาคม ปี1979 เครื่องบินโดยสาร American airline เที่ยวบิน 444 พร้อมผู้โดยสาร 72 คน บินออกจากสนามบิน ชิคาโก มุ่งหน้าสู่ สนามบิน วอชิงตัน ที่ห้องเก็บสัมภาระ มีระเบิดของเท็ด ซุกซ่อนอยู่ และมันถูกตั้งเวลาให้ระเบิดเมื่อเครื่องบินขึ้นสู่ความสูง 30,000 ฟุต โชคยังดีที่ระเบิดของเท็ดมีปัญหา และ ระเบิดก่อนความสูงที่ควรจะเป็น ทำให้เครื่องบินลงจอดฉุกเฉินได้ทันเวลา และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่นี้เปรียบเสมือนคำขู่ของเท็ด และโชว์ศักยภาพว่าเค้าสามารถระเบิดเครื่องบินกลางเวหาได้จริงๆ
การโจมตีของเท็ดในครั้งนี้ เป็นเหตุให้Fbi เข้ามาเกี่ยวข้อง และ ตั้งฉายาให้เค้าว่า Unabomber ตามอักษรตัวหน้าของเหตุวินาศกรรมที่ผ่านมา ทั้งนี้ Fbi ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้มากมาย และได้สร้างโปรไฟล์ของ Unabomber ว่าเค้า เป็น ชายธรรมดาๆ ที่จบการศึกษาระดับชั้นมัธยม เป็นมนุษย์เงินเดือนที่ผลิตระเบิดในโรงรถ ทำงานในตอนกลางวัน และ ผลิตระเบิดในตอนกลางคืน แต่ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียง1ในแผนการ ที่เท็ดต้องการให้ Fbi เชื่อแบบนั้น
ปี 1985 ฮิวจ์ สคัรตตัน เจ้าของร้านขายคอมพิวเตอร์ ในเมืองซาคราแมนโต้ รัฐแคลิฟอร์เนีย สังเกตุเห็นกองไม้ที่มีตะปูตอกไปทั่ว อยู่บริเวณหน้าร้านของเค้า เค้าเดินตรงไปที่มันเพื่อหวังจะกำจัดมัน แต่ทันทีที่เค้าก้มลง ระเบิดใต้กองไม้ก็ระเบิดออก ตะปูนับร้อยพุ่งตรงเข้าบริเวณหน้าอดของ ฮิวจ์ สครัจตัน และเสียชีวิตในทันที
ต่อมาในปี 1987 เท็ด คาซินสกี พยามที่จะใช้รูปแบบเดิม กับร้านคอมพิวเตอร์อีกแห่งหนึ่ง และแรงระเบิดทำให้เจ้าของร้านบาดเจ็บสาหัส แต่ในครั้งนี้ พนักงานหญิงของร้าน เห็นเท็ดเข้าระหว่างวางระเบิด ทั้งสองคนเห็นหน้ากันและกัน ด้วยระยะห่างกันเพียง 5-6ฟุต ทำให้พนักงานหญิงจำหน้าเค้าได้เป็นอย่างดี และในที่สุด Fbi ก็ได้เบาะแสชิ้นสำคัญหลังจากที่ตามล่า Unabomber มา 9 ปี นั่นก็คือภาพเสก็ตใบหน้าของชายในเสื้อฮู้ดและแว่นตาดำ พวกเค้าค่อนข้างแน่ใจว่าเข้าไกล้ตัว Unabomber มากขึ้นทุกที และคงจับมือก่อวินาศกรรมรายนี้ได้ในไม่ช้า โดยหารู้เลยไม่ว่า นี้คืออีกครั้งที่ เท็ด คาซินสกี ประสบความสำเร็จ
หลักฐานทุกอย่างที่ Fbi มี ถูกออกแบบมาเพื่อให้ Fbi ไขว่เขว รวมถึงรูปสเก็ตที่เขาใช้กระดาษชำระโป๊ะไปที่แก้ม เพื่ออำพรางใบหน้า ทำให้รูปที่ Fbi ได้ไป ยากที่จะสาวถึงตัวเค้า
เดือนมิถุนายน ปี 1993 หลังจากที่ เท็ด คาซินสกี พักการก่อวินาศกรรมไปราว 7 ปี แผนการของเค้าก็พัฒนาขึ้นอีกระดับ ระเบิดมีความร้ายแรงมากขึ้น เค้าจดบันทึกแผนการของเค้าอย่างละเอียด ไม่ใช่แค่วิธีทำระเบิด แต่ยังมีวิธีหยุดระเบิดนั้นอีกด้วย และเป็นครั้งแรกที่เค้าเริ่มการส่งความตายผ่านไปรษณีย์
เค้าส่งระเบิดสองชุดไปให้ ชาร์ล เอปสไตน์ (Charles Epstein) นักวิจัยด้านยีน และ เดวิด เกเลิร์นเตอร์ (David Gelernter) ผู้เชี่ยวชาญด้นคอมพิวเตอร์ โชคยังดีที่เหยื่อทั้งสองรายนี้ ได้รับบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น
ปี 1994 เค้าส่งระเบิดให้ โธมัส มอสเซอร์ (Thommas) ผู้บริหารวงการโฆษณา และ กิลเบิร์ต เบรนต์ มอร์เรย์ (Gilbert Brent Murrey) ล็อบบี้ยิสต์อุตสหกรรมไม้แปรรูป เหยื่อทั้งสองรายมีความเกี่ยวข้องกับอุตสหกรรมป่าไม้ โดย เท็ด คาซินสกี มองว่าเป็นตัวบ่อนทำลายธรรมชาติ และในที่สุดเค้าก็ตัดสินใจเปิดเผยตัวตนมากขึ้น
เค้าสลักอักษรย่อ Fc บนวัตถุระเบิด ซึ่งมารู้ภายหลังว่ามาจาก Freedom Club ก่อนจะบันทึกตัวหนังสือ 35,000 คำ บอกเล่าเกี่ยวกับทัศนคติที่เค้ามีต่อโลก การต่อต้านเทคโนโลยี
ปี 1996 เท็ด คาซินสกี เรียกร้องให้ Newyork Times และ Washington Post ตีพิมพ์บทความของเค้าในหัวข้อ "สังคมอุตสหกรรมและอนาคต" โดยยื่นข้อเสนอว่าจะหยุดวางระเบิด
บทความของเค้าเปิดเผยทัศนคติที่มีต่อโลกของเค้า อย่างกล้าหาญ เกี่ยวกับภัยของเทคโนโลยีในโลกอนาคต ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้ามากเท่าไหร่ มนุษย์ก็จะยิ่งถูกกลืนไป ทางออกที่ดีที่สุดคือการหวนคืนสู่ธรรมชาติ บทความเหล่านี้ถูกเขียนขึ้นก่อนยุค Social Media หลายสิบปี ยุคที่คำทำนายของ เท็ด คาซินสกี เป็นจริง
แต่ Fbi กลับไม่ได้สนใจ เนื้อความในบทความนั้นเลย พวกเค้ากดดันให้หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์ความบทความของเท็ด เพื่อจะหาเบาะแสในการสาวไปถึงตัว Unabomber ทุกฝ่ายช่วยกันในการในการวิเคราะห์ภาษาของนักก่ออาชญกรรมรายนี้
ในไม่นานความจริงก็ถูกเปิดเผย น้องสะใภ้ของเท็ด หรือ ภรรยาของเดวิด ได้ตัดสินใจนำจดหมายฉบับหนึ่งออกมาเปิดเผยต่อทนาย หลังจากเก็บงำความสงสัยนี้มานาน ก่อนที่ทนายจะนำจดหมายนี้ไปให้ นักสืบเอกชนรายหนึ่งที่ทำคดีนี้ เพื่อเทียบเคียงลายมือ เมื่อหลักฐานมากพอ พวกเค้าจึงบุกเข้าจับกุม Unabomber ที่กระท่อมกลางป่าลึก ตามคำให้การของเดวิดและภรรยา
เท็ด คาซินสกี ถูกตัดสินประหารชีวิต สำหรับผลงานการก่อการร้ายมา 17 ปี ครอบครัวของเค้าให้การต่อศาลว่า เค้ามีสภาพจิตที่ไม่ปกติ ทำให้เกิดการตรวจสอบสภาพจิตจากจิตแพทย์ แพทย์ลงความเห็นว่า เท็ด คาซินสกี เป็นโรคจิตประเภท หวาดระแวง ทนายจึงใช้อาการทางจิตของเท็ด ในการโต้แย้งต่อคำตัดสินของศาล
เท็ด คาซินสกี ขอเปลี่ยนทนาย เพื่อจะยืนยันว่าการก่อการร้ายของเค้า ไม่ได้เกิดจากสภาพจิตที่ฝั่นเฟือน แต่ศาลก็ปฎิเสธคำร้อง กระทั้งในวันที่ 22 มกราคม ปี1998 ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต 8 ครั้ง สำหรับมือวางระเบิดคนนี้
เท็ด คาซินสกี ต้องเข้าไปชีวิตในเรือนจำ เอดีเอกซ์ ฟอร์เลนซ์ ในระหว่างที่เค้าอยู่ข้างใน เค้าเขียนจดหมายถึงบุคคลที่ยังคงเป็นความลับถึง 400 ฉบับและ ใช้ชีวิตในห้องขังขนาด 3.6 × 3.6 ซึ่งเป็นขนาดที่ไกล้เคียงกับกระท่อมกลางป่าของเค้านั่นเอง
โฆษณา