6 ต.ค. 2020 เวลา 02:51 • ปรัชญา
เมื่อปี 1960 มีชายชาวอินเดียคนหนึ่ง ชื่อว่า นายดาสราช แมนจิ (Dashrath Manjhi) ซึ่งทำอาชีพเป็นลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในเหมืองแร่
.
วันหนึ่งภรรยาของเขาประสบอุบัติเหตุลื่นล้มจนขาหัก ขณะที่กำลังเดินทางข้ามภูเขาเพื่อนำอาหารกลางวันมาให้
.
เเต่กว่าเขาจะนำตัวภรรยาไปถึงโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เขาก็ต้องเดินอ้อมภูเขาที่คั่นกลางระหว่างหมู่บ้านกับโรงพยาบาลเอาไว้ด้วยระยะทางถึง 55 กิโลเมตร
.
สุดท้ายภรรยาของเขาก็ต้องจบชีวิตลง เพียงเพราะไม่สามารถนำตัวภรรยาไปส่งโรงพยาบาลได้ทัน
.
ความเจ็บปวดของนายดาสราชครั้งนั้น ทำให้เขาตัดสินใจลงมือขุดภูเขาหินเป็นทางเดินในภูเขา ยาว 110 เมตร เเละ กว้าง 9.1 เมตร ด้วยมือเปล่ากับค้อนเพียงอันเดียว
.
ผ่านไป 10 ปี คนในหมู่บ้านที่ผ่านไปผ่านมาเห็นก็เริ่มคิดว่าเขาเป็นคนบ้า
.
แต่เพราะความเชื่ออันแรงกล้า สิ่งที่เขาพยายามทำมาก็สำเร็จในที่สุด โดยใช้เวลาทั้งหมด 22 ปี
.
สิ่งที่นายดาสราชทำนั้น สามารถช่วยเหลือคนในหมู่บ้านได้นับพันชีวิต เพราะมันช่วยลดระยะทางระหว่างหมู่บ้านกับโรงพยาบาลจากเดิม 55 กิโลเมตร ให้เหลือเพียง 15 กิโลเมตร เท่านั้น
.
นายดาสราชเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งด้วยวัย 73 ปีเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2007 โดยได้รับการจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติเทียบเท่าประมุขแห่งรัฐเลยทีเดียว
.
สุดท้ายภูเขาลูกนี้ได้ถูกยกย่องให้เป็นอนุสรณ์สถานเเห่งรักแท้ เเละมีการนำเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของชายคนนี้ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ที่มีชื่อว่า Manjhi-The Mountain Man ในเวลาต่อมา
.
เรื่องของนายดาสราช เเสดงให้เราเห็นว่า ความเชื่อนั้นมีพลังมหาศาลเเค่ไหน เพราะมันสามารถทำให้คนทำเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้…
.
อย่างที่หนังสือ คิดใหญ๋ ไม่คิดเล็ก เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ความเชื่อนั้นสามารถเคลื่อนได้แม้กระทั่งภูเขา ถ้าคุณเชื่อว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำมันได้จริงๆ” และสิ่งที่นายดาสราช ก็ไม่ผิดไปจากสิ่งที่หนังสือเล่มนี้กล่าวเอาไว้เลย
.
.
“เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม”
.
เเต่ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน ทักมาปรึกษาสมองไหลได้เลย
.
#ภูเขา #ความรัก #ความเชื่อ #สมองไหล
โฆษณา