6 ต.ค. 2020 เวลา 08:55 • ประวัติศาสตร์
ตำนานฆาตกรตัวตลก Pogo The Crown
วันที่ 17 มีนาคม ปี1942 คือวันที่เด็กน้อย John wayne gacy (จอห์น เวย์น กาซี่) บุตรชายคนที่สองของครอบครัว กาซี่ ได้ลืมตาดูโลก เด็กน้อยเติบโตมาโดยได้รับความอบอุ่นจากแม่ แต่ในทางกลับกัน เนื่องจากบุคลิกและนิสัยของเค้า ควรจะเป็นบุคลิกของเด็กผู้หญิงมากกว่า นั่นทำให้พ่อของเค้า ซึ่งเป็นถึงทหารผ่านศึก ผิดหวังในตัวลูกชายคนนี้มาก และถึงแม้ จอห์น เวย์น กาซี่ จะทำทุกวิถีทางเพื่ยงเพี่อหวังว่าผู้เป็นพ่อ จะสนใจและรักเค้าบ้าง แต่สิ่งที่เค้าได้รับตอบแทนจากผู้เป็นพ่อ คือคำด่าทอ คำดูถูกเหยียดหยามต่างๆนาๆ และหนักไปถึงขั้น การใช้ความรุนแรงต่างๆนาๆ ที่แย่ไปกว่านั้น กาซี่ เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศถึงสองครั้ง ในครั้งแรกเค้าถูกกระทำโดยเด็กผู้หญิงในกระแวกบ้านที่อายุมากกว่า เค้าเล่าเรื่องนี้ให้พ่อแม่ของเค้าฟัง แต่ผลที่ได้คือพ่อแม่ของเค้าทะเลาะกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ นั่นทำให้กาซี่ไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องอะไรให้พ่อแม่ของเค้าฟังอีก จนกระทั่งในครั้งที่สอง เค้าถูกข่มขืนโดยเพื่อนของพ่อ แต่เค้าเลือกจะเก็บงำความเจ็บปวดนี่ไว้คนเดียว และนี่คือจุดเริ่มต้นของปีศาจที่ก่อตัวขึ้นในตัวเด็กน้อย
เมื่อกาซี่เติบโตขึ้น เค้าเลือกที่จะสร้างชีวิตของตัวเองขึ้นมาใหม่ และได้พบรักกับ มารีน ไมเยอร์ ทั้งสองแต่งงานและมีลูกด้วยกัน2คน เค้าได้คุมกิจการร้านขายไก่ทอดเคนตักกี้ ที่ได้รับส่วนแบ่งมาจากพ่อของภรรยา ในเวลานั้นกาซี่ถือว่าเป็นคนที่ได้รับความนับหน้าถือตา ในแวดวงการกุศลมากเป็นอันดับต้นๆ เค้าสร้างสถานที่สำหรับสังสรรค์ส่วนตัวในห้องใต้ดิน และชวนพนักงานผู้ชายของเค้ามาปาร์ตี้อยู่เสมอๆ ชีวิตของเค้าดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ แต่นั่นไม่ได้ช่วยบั่นทอนความเจ็บช้ำและความต้องการภายในตัวเค้าได้เลย  และในที่สุด ปีศาจภายในตัวเค้าก็เผยออกมาจนได้
เดือนสิงหาคม ปี1967 เหยื่อรายแรกของเค้าเป็นเด็กชาย อายุเพียง 15 ปี ลูกชายของเพื่อนเค้า เค้าล่อลวงเหยื่อด้วยการนำหนังโป๊มาให้ดู ก่อนจะ มอมเหล้า และเริ่มทำการล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนจะปล่อยตัวเด็กชายกลับบ้านไป เรื่องราวผ่านไปโดยที่เด็กชายไม่กล้าที่จะบอกใคร จนกระทั่งเค้าได้รับข่าวจากพ่อของเค้า ว่ากาซี่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เด็กชายมองเห็นว่าถ้ากาซี่เป็นใหญ่ไปมากกว่านี้ ปีศาจตัวนี้จะชั่วร้ายได้มากแค่ไหน เค้าจึงตัดสินใจบอกพ่อของเค้า ถึงพฤติกรรมของกาซี่ในการล่อลวงเด็กไปกระทำการอนาจาร และ ยังมีเด็กอีกหลายคนที่โดนในลักษณะเดียวกันนี้ นอกจากนี้พนักงานหลายคนในร้านของเค้าพร้อมใจกันที่จะเข้าร่วมเป็นพยานในคดีนี้ 1 ในพนักงานของกาซี่ ให้การกับตำรวจว่า เค้าเป็น 1 ในเหยื่อที่โดนล่วงละเมิด กราซี่ทำร้ายร่างกายเค้าจนหมดสติ ก่อนจะเริ่มสำเร็จความใคร่ และหลังจากวันนั้นเค้าก็โดนไล่ออก จากหลักฐานและพยานที่แน่นหนาในครั้งนี้ทำให้ในที่สุด กราซี่ก็ถูกตำรวจจับกุม และศาลตัดสินให้จำคุกเค้าเป็นเวลา 10 ปี ในปี 1968
แต่โชคชะตากลับเหมือนเล่นตลก เมื่อกาซี่ถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อเวลาผ่านไปเพียง 18 เดือน ในวันที่ 18 มิถุนายน ปี 1970 ช่วงเวลาในคุกของเค้า ไม่ได้ช่วยขัดเกลาจิตใจที่มืดมนแม่แต่น้อย และบทเรียนเดียวที่เค้าได้รับจากคุกคือควรจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย และไม่มีหลักฐานหลงเหลือ
เมื่อเค้าออกมาจากคุก มารีน ภรรยาของเค้าก็ฟ้องหย่า และไม่ให้กาซี่ได้เจอหน้าลูกอีกเลย 
เค้าตัดสินใจเดินทางกลับไปหาแม่ของเค้า และพบว่าผู้เป็นพ่อ ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่เค้าอยู่ในคุก กาซี่ เสียใจอย่างมาก เพราะคิดว่าตัวเค้าเป็นต้นเหตุ และ เป็นดั่งรอยมลทินในชีวิตพ่อของเค้า แม่ของกาซี่ช่วยหางานพ่อครัวให้เค้าทำ จากวิชาที่ได้เรียนมาตอนอยู่ในคุก และในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1971 กาซี่ก็ถูกจับกุมอีกครั้งในข้อหาลักพาตัว และ ข่มขืน แต่ในครั้งนี้เค้าก็รอดจากคุกมาได้ เพราะเด็กที่ถูกกระทำ ไม่ยอมให้การกับตำรวจ
เค้าแต่งงานใหม่อีกครั้งกับแม่หม้ายลูกติด แครอล ฮอบ และด้วยเงินช่วยเหลือจากแม่ของกาซี่ ทำให้เค้ามีเรือนหอหลังใหม่ สำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เค้าชวนแม่ของเค้า และแม่ยายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ก่อนที่เวลาจะผ่านไปไม่นาน กาซี่ก็ทะเลาะกันอย่างรุนแรงกับแม่ของเค้าและไล่แม่ของเค้าออกจากบ้านไป ต้นรักระหว่างกาซี่ และ แครอล ที่ยังไม่ทันจะไปได้ดีนัก ก็ดูเหมือนจะเริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆ เพราะกาซี่นั้นชอบชวนเด็กผู้ชายมาสังสรรค์ที่บ้าน และ บางครั้งก็ค้างที่บ้านของเค้าด้วย ปัญหาเรื้อรังนี้ ทำให้แครอลตัดสินใจหย่าในที่สุด ถึงแม้ชีวิตรักของเค้าจะไม่ได้ยืดยาว แต่กลับกันในด้านของการงาน เค้ากลับไปใด้ดีในทุกๆด้าน แถมยังเป็นนักสังคม และเป็นหัวเรือในการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ในรัฐอิลลินอย แถมยังเป็นหัวคะแนนให้พักการเมืองอีกด้วย และช่วงเวลานี้เองครับ ที่ทำให้เค้าได้รู้จักกับสมาคมตัวตลก Jolly Joker และเริ่มแต่งตัวเป็นตัวตลก Pogo the crown ออกไปสร้างสีสันตามงานเลี้ยงต่างๆ และ เยี่ยมเยียนเด็กตามโรงพยาบาล แน่นอนครับว่าการแต่งตัวเป็นตัวตลก จะได้รับความสนใจจากเด็กๆ และเค้าก็ทำไปโดยมีความต้องการอื่นแอบแฝงอย่างแน่นอน และหลังจากนี้เองครับ ที่ปีศาจในตัวของชายร่างอ้วนจะแผงฤทธิอย่างเต็มกำลัง
วันที่ 2 มกราคม ปี1972 ในระหว่างที่กาซี่กำลังขับรถกลับบ้านด้วยความเมาอย่างนัก เค้าก็พบกับเด็กวัยรุ่นคนนึง และพาเด็กคนนั้นกลับไปสนองความใคร่ของตนเอง ก่อนที่ในรุ่งเช้าเค้าจะตื่นมาและพบว่า เด็กหนุ่มคนนั้น กำลังถือมีดและมองตรงมายังเค้า กาซี่ที่คาดว่าในตอนนั้นจิตคงจะไม่ปกติเท่าไหร่ จึงพุ่งตรงเข้าไปเพื่อแย่งมีด ก่อนจะกระหน่ำแทง จนเด็กหนุ่มคนนั้นเสียชีวิต หลังจากที่ฝังศพแล้ว กาซี่ กลับพบอาหารเช้าที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดีในห้องครัว นั่นเป็นเพราะจริงๆแล้ว เด็กคนนั้นถือมีดเพียงเพราะกำลังจัดเตรียมอาหารไว้ให้เค้า
วันที่ 31 กรกฎาคม 1972 เหยื่อรายต่อมาของเค้าก็คือ พนักงานบริษัทของเค้าเอง เค้าฝังร่างของพนักงานคนนั้นและเทคอนกรีตทับ หลังจากนั้น กาซี่ ก็ยังคงฆ่า เพื่อสนองตัณหาเรื่อยมา จนกระทั่งในปี คศ.1977 กาซี่ ฆ่าคนไปแล้วทั้งหมด 9 ศพ แต่โชคยังดีที่มีเหยื่อของเค้าสามารถรอดชีวิตมาได้ 2 ราย
โรเบิร์ต คอนเนลลี่ เด็กหนุ่มวัย 19 ที่ถูกกาซี่ใช้ปืนขู่บังคับจากป้ายรถเมล์ เมื่อถึงบ้านของฆาตกรอำมหิตรายนี้ โรเบิร์ตก็ถูกจับกรอกเหล้า ก่อนจะข่มขืนเค้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเช้าและปล่อยตัวเค้าไป
โรเบิรต์ วิ่งตรงไปที่สถานีตำรวจที่ไกล้ที่สุดในทันที แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ไม่มีตำรวจคนไหน ในสถานีเชื่อคำให้การของเค้าเลย เนื่องมาจากบุกคลิกภาพต่างๆที่ดูไม่น่าเชื่อถือของ โรเบิร์ต และ ผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นถึงนักธุรกิจใจบุญของเมือง
รายต่อมาคือ เจฟ ริคนาวด์ วัย 26 ปี เค้าตื่นขึ้นมาในบ้านหลังหนึ่ง หลังจากที่โดนโปะด้วยยาสลบคลอโรฟอร์ม ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ใบหน้าของเค้าเป็นแผล ก่อนจะพบว่าตนเองถูกมัดอยู่กับไม้กระดานในสภาพร่างกายที่เปลือยเปล่า และนอกจากาซี่ที่อยู่ในบ้าน ยังมีคนอื่นๆอีกด้วย เจฟ โดนกระทำอนาจารลักษณะคล้ายคลึงกับเหยื่อรายอื่นๆ ก่อนที่กราซี่จะปล่อยเค้าออกมา
เจฟ ตัดสินใจเข้าแจ้งตำรวจในทันที แต่เรื่องก็ดูเหมือนจะไม่ง่ายนัก เพราะนอกจากคำให้การของเจฟ ก็ไม่มีหลักฐานอื่นใด ที่จะสามารถมัดตัวกาซี่ได้เลยเจฟตัดสินใจจ้างทนาย แต่เรื่องก็จบลงง่ายๆเมื่อเค้าได้รับเงินชดเชยจากกาซี่ 100,000 บาท
ยังคงมีเด็กหนุ่มในเมืองที่หายสาบสูญไปอย่างต่อเนื่อง พวกเขาคงจะประสบชะตาเดียวกัน แต่ไม่ได้โชคดีเหมือนโรเบิร์ตและเจฟ กราซี่ยังคงผยองความวิปริตอย่างสบายใจ เค้าฆ่าคนไปเท่าไหร่ไม่มีใครรู้จำนวนที่แน่ชัด แต่ที่รู้แน่ๆคือทุกครั้งที่เค้าฆ่า ปีศาจตนนี้ก็จะยิ่งร้ายกาจขึ้น
17 เมษายน 1978 ร็อบ พิตซ์ เด็กหนุ่มธรรมดาๆที่ทำงาน Part-time อยู่ที่ร้านขายยา เค้าจะเดินทางกลับบ้านทุกวันตอน 3 ทุ่ม แต่ในวันนี้กาซี่ได้แวะมาที่ร้านแห่งนี้ เพื่อพูดคุยกับเพื่อนของเค้าซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายยา ก่อนจะเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มหน้าดี ร็อบ กำลังยุ่งอยู่กับการทำงาน  กาซี่รู้สึกชอบพลอเด็กคนนี้เป็นอย่างมาก แต่ปีศาจก็ยังคงซุ่มอยู่ในเงามืดด้วยความใจเย็น ค่อยๆคิดหาวิธีที่จะจัดการกับเหยื่อผู้โชคร้าย เค้าออกจากร้านขายยาไป แต่ทำทีเป็นลืมของไว้ในร้าน เพื่อรอเวลาสบโอกาศที่เด็กหนุ่มจะอยู่ในร้านคนเดียว
แม่ของร็อบร้อนใจเป็นอย่างมากเมื่อเวลาล่วงเลยจากเวลาปกติที่ร็อบจะกลับบ้านมานานแล้ว เธอโทรสอบถามทุกคนเท่าที่จะนึกออก จนกระทั่งเธอโทรหาเภสัชกรที่ร้านยานั้น จึงได้ความว่าร็อบออกไปกับกาซี่ และให้เบอร์ติดต่อกาซี่มา แต่ก็ไม่เป็นผลไม่มีใครรับสายของเธอ พ่อและแม่ของร็อบจึงรีบเข้าแจ้งความในทันทีด้วยความร้อนใจ แต่กลับถูกปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ว่ายังไม่ครบ 24 ชม.
กระทั่งเช้า พ่อและแม่ของร็อบจึงเข้าขอพบตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ตำรวจเริ่มได้กลิ่นของอะไรบางอย่างหลังจากที่มีผู้เข้าแจ้งความในกรณีคล้ายกันนี่ถึงสามครั้ง พวกเขารุดหน้าไปที่บ้านของกาซี่ทันที หลังจากที่เข้าตรวจค้น พวกเขาพบหนังสือและวิดิโอโป๊มากมาย อีกทั้งยังมี อวัยวะเพศชายเทียม กระดานไม้ที่ใช้สำหรับขึงผืด แต่ก็ไม่มีวี่แววของร็อบ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อซะทีเดียวว่ากราซี่ไม่มีส่วนรู้เห็นในการหายตัวไปของร็อบ พวกเขาจึงส่งคนไปสกดรอยตามกราซี่ตลอดเวลา
กาซี่เครียดอย่างหนัก เมื่อความอดทนมาถึงจุดสิ้นสุด กราซี่ดื่มอย่างหนักและตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทนายของเค้าฟัง ก่อนจะตัดสินใจเดินทางไปหาคนที่เค้าไว้ใจหลายราย เพื่อระบายความในใจและความเลวทรามของปีศาจ แต่เค้าคิดผิด
1 ในคนที่กาซี่เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง โทรไปแจ้งความกับตำรวจและในครั้งนี้ตำรวจมีหลักฐานมากพอที่จะมัดตัวชายวิปริตร่างอ้วนคนนี้
12 ธันวาคม 1978 กาซี่ถูกจับกุมที่บ้านของเค้าข้อหาฆาตกรรม ตำรวจขุดพื้นรอบบริเวณบ้านเพื่อหาร่องรอย ก่อนจะพบว่าใต้บ้านของกาซี่เป็นบ่อบำบัดน้ำเสียเก่า เมื่อขุดลงไปลึกมากพอ โครงกระดูกมากมายก็ลอยขึ้นมา หลายต่อหลายวันที่ตำรวจเร่งขุดเพื่อหาศพเพิ่ม มีศพที่ถูกค้นเจอเพิ่มขึ้นมากมาย แต่ก็ไม่พบศพของ ร็อบ พิตซ์ มีหลักฐานเพียงชิ้นเดียวคือหมวกของร็อบ
จอห์น เวย์น กาซี่ ใช้ชีวิตในคุกเหมือนคนเสียสติ และชอบหลงคิดว่าตัวเองเป็นตัวตลก เค้าชอบวาดรูปใบหน้าของตัวเองที่สวมชุดตัวตลก จนนักข่าวให้ฉายาเค้าว่า ฆาตกรตัวตลก แห่งชิคาโก้  จนกระทั่งปี 1994 กาซี่ก็ถูกประหารชีวิต และปิดตำนานฆาตกรตัวตลกแห่งชิคาโก้ ปีศาจถูกส่งคืนสู่ขุมนรก จอห์น เวย์น กาซี่
โฆษณา