6 ต.ค. 2020 เวลา 09:52 • ไลฟ์สไตล์
ช่วงนี้ข่าวความรุนแรงในโรงเรียน และตัวคุณครู มีมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ชวนให้นึกถึงการแก้ปัญหาล้อมคอกภายในบ้านเราเองก่อน เพราะภายนอกบ้านอย่างเช่นที่โรงเรียน มันอาจเกินความควบคุมของเรา (ยกเว้นพ่อแม่จะทำ Home School เองซะเลย รู้แล้วรู้รอด)
คำกล่าวว่า "หากพ่อแม่ไม่ลงโทษลูกอย่างเหมาะสม (ในสถานการณ์ที่เหมาะสม) ลูกเราอาจโดนคนอื่นหรือสังคมลงโทษอย่างรุนแรงมากกว่าที่เราจะนึกถึง" นั้นไม่ได้เกินความจริง เช่น จากข่าวดังลูกคนรวยตระกูลไฮโซหนีคดี ก็ยังคงมีให้เห็นกันอยู่
ว่าจะเขียนกฎข้อที่ 2 ผมขอข้ามมาที่กฎข้อที่ 5 ก่อน “อย่าให้ลูกทำสิ่งที่จะทำให้คุณไม่ชอบพวกเขา” จาก หนังสือ “12 Rules for Life” ของ Jodan B. Peterson นักจิตวิทยาคลินิกชาวแคนาดา และศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชาจิตวิทยา ที่มหาวิทยาลัยโทรอนโต ที่กล่าวถึงการดูแลเด็กตัวเล็กไว้ได้อย่างน่าสนใจ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่ามนุษย์เราเกิดมาพร้อมๆ กับสัญชาตญาณบางอย่างที่รุนแรงตามธรรมชาติที่วิวัฒนาการนับจากสายพันธุ์โฮโม เออร์กัสเตอร์ สายพันธุ์โฮโม อิเร็กตัส จนถึงบรรพบุรุษของเรา “โฮโมเซเปียนส์”
และพบว่าเด็กตัวเล็กก็แสดงอาการที่รุนแรงตามสัญชาตญาณ เช่น ร้องไห้ งอแง กระทึบเท้า เพราะต้องการความรักจากพ่อแม่ ซึ่งหลายเหตุการณ์พ่อแม่เข้าใจ แต่กับคนอื่น อาจไม่เข้าใจ ซึ่งเด็กต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมด้วย มนุษย์เป็นสัตว์สังคม
ดังนั้นเด็กๆที่เอาแต่ใจนั้น ต้องได้รับการอบรม
อีกทั้งพ่อแม่สมัยใหม่ (ส่วนใหญ่) มักนิยมไม่ลงโทษลูกด้วยการตี หรือดุว่าเมื่อลูกทำผิด (แต่อาจใช้วิธีอื่น) ซึ่งถ้าพ่อแม่ไม่ลงโทษลูกอย่างเหมาะสม (ในสถานการณ์ที่เหมาะสม) ลูกเราอาจโดนคนอื่นหรือสังคมลงโทษอย่างรุนแรงมากกว่าที่เราจะนึกถึง
ดังนั้นจากกฎข้อที่ 5 “อย่าให้ลูกทำสิ่งที่จะทำให้คุณไม่ชอบพวกเขา” Jodan B. Peterson ได้มีข้อแนะนำ 5 ข้อ
1) ต้องฝึกวินัยด้วยกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน
2) มีกฎเกณฑ์ให้น้อยที่สุด
3) พ่อแม่ต้องมาเป็นคู่ เพราะทุกคนมีความเป็นบุคคลอันตรายทั้งนั้น (เมื่อพ่อร้อนแม่ต้องเย็น เมื่อแม่ร้อนพ่อต้องเย็น) เพื่อช่วยเหลือห้ามปรามกัน
4) เมื่อลูกยอมสงบลง จงรีบคืนดีและให้อภัย (พ่อแม่อย่างอนต่อ) เพราะต้องมีจุดสิ้นสุดการลงโทษ (จงระวังความเจ้าคิดเจ้าแค้นของตัวพ่อแม่เอง)
5) พ่อแม่เป็นตัวแทนของโลกความจริง เพื่อสอนให้ลูกเข้าสู่สังคม(ในยุคศตวรรตที่ 21) ได้ดี ข้อนี้ทำให้นึกถึง EF (Executive Functions) ซึ่งเป็นทักษะทางความคิดที่จำเป็นในยุคอนาคต ที่เด็กยุคอัลฟ่าควรต้องมี
ผู้เขียนเขียนบทนี้ได้ดีมากครับ เพราะเด็กเล็กๆ ก็เหมือนคนตาบอดคลำหากำแพง เด็กไม่รู้หรอกครับว่าสิ่งต่างๆควรทำได้แค่ไหน ร้องไห้โวยวายได้ดังแค่ไหน วิ่งเล่นไปไกลแค่ไหนถึงต้องหยุด อะไรที่อันตรายหรือไม่อันตราย ฯลฯ พ่อแม่ต้องเป็นคนบอกนำทางครับว่ากำแพงนั้นสิ้นสุดที่ตรงไหนครับ นั่นรวมไปถึงการเลือกโรงเรียนดีๆ ครูดีๆ ด้วยนะครับ
เป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกๆ ท่านนะครับ
โฆษณา