7 ต.ค. 2020 เวลา 02:32 • สุขภาพ
ความดื้อรั้นของ Trump อาจทำให้คนทั้งทำเนียบขาวติดโควิด !
https://media11.s-nbcnews.com/j/MSNBC/Components/Video/202010/mask_off_trump.focal-760x428.jpg
ภาพข่าวช็อคโลกเช้าวันนี้ คือ ภาพของการที่ประธานาธิบดี Donald Trump ของสหรัฐ ออกจากศูนย์การแพทย์ Walter Reed หลังจากที่เค้าเข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโควิด-19 เพียงแค่ 3 วันเท่านั้น
ในเช้าวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา เค้าได้ทวิตข้อความว่า เค้าและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง Melania Trump ติดเชื้อโควิด หลังจากนั้น เค้าก็ถูกส่งตัวไปรักษาที่ Walter Reed ทันที
ในระหว่างที่ Trump ทำการรักษาอยู่นั้น ผู้สื่อข่าวไม่สามารถหาข้อมูลที่ชัดเจนถึงขั้นตอนการรักษา และสภาพอาการป่วยของท่านผู้นำได้ เนื่องจากการให้ข่าวที่สับสนของทำเนียบขาว Trump อยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ซึ่งนำโดยนายแพทย์ Sean Conley แพทย์ประจำตัวของเค้า
มีข่าวแว่วออกมาว่า Trump อาการหนักจนต้องมีการให้ออกซิเจน แต่เมื่อนักข่าวถามนายแพทย์ Conley ถึงเรื่องดังกล่าวในเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา เค้ากลับตอบเพียงว่า “ประธานาธิบดีไม่ได้รับออกซิเจนในวันนี้” และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามนี้ต่อนักข่าว แต่ต่อมาอีกเพียง 1 วันหลังจากนั้น Conley ก็ออกมายอมรับว่า มีการให้ออกซิเจนแก่ Trump จริง เค้าให้เหตุผลว่า การที่ไม่บอกนักข่าวเรื่องการให้ออกซิเจนในตอนแรกนั้น “เพื่อต้องการรักษาทัศนคติที่ดีของทีมแพทย์ และตัว Trump เองในการรักษาโรคโควิด และพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลที่จะส่งผลเสียต่อการรักษาในครั้งนี้”
การรักษาอาการของ Trump ถือได้ว่าเป็นการรักษาโควิดที่ดีเยี่ยมที่สุดเคสหนึ่งของโลก สำหรับผู้นำชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐ จนทำให้เค้ามีอาการดีขึ้นภายในเวลาแค่ 3 วัน ซึ่งยาที่ใช้รักษาท่านประธานาธิบดี ได้แก่
• 2 Monoclonal Antibodies ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่ายกาย
• Remdesivir ยาที่ช่วยบล็อกการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสโควิด
• Dexamethasone สารสเตียรอยด์ที่ช่วยลดการอักเสบของร่างกาย
แม้การรักษาจะได้ผลดีในเวลาอันสั้นจนเป็นที่น่าอัศจรรย์ แต่สิ่งที่ทำให้ช็อคไปได้มากกกว่านั้น คือ พฤติกรรมของท่านประธานาธิบดีที่ไม่ได้ห่วงความปลอดภัยของผู้ใกล้ชิดเลยซักนิด
เริ่มจากการที่เค้าขึ้นรถ SUV ประจำตำแหน่งไปพร้อมกับคณะผู้ติดตามหลายคน โดยรถปิดกระจกมิดชิดทุกบาน ทั้งนี้เพื่อไปโชว์ตัวให้กลุ่มผู้สนับสนุนที่มาให้กำลังใจอยู่ข้าง Walter Reed การกระทำนี้ถูกโจมตีอย่างหนักเพราะรถคันนี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษไม่ให้อากาศภายนอกรถเข้ามาภายในรถได้ เพื่อกันการก่อการร้ายโดยควันพิษ สิ่งนี้ยิ่งทำให้อากาศในรถไม่หมุนเวียนซึ่งทำให้มีโอกาสสูงมากที่คนในรถจะติดโควิดจาก Trump
https://edition.cnn.com/2020/10/05/politics/trump-white-house-coronavirus-diagnosis/index.html
เรื่องช็อคโลกของท่านผู้นำยังคงดำเนินต่อไป เมื่อ Trump ประกาศในเช้าวันจันทร์ต่อมาว่า เค้ามีอาการดีขึ้นมากแล้ว และได้รับอนุญาตจากทีมแพทย์ให้กลับไปทำงานที่ทำเนียบขาวได้ และเค้าก็ออกจากโรงพยาบาลในเย็นวันเดียวกัน โดยไม่มีข้อมูลยืนยันจากทีมแพทย์ว่า Trump ปลอดเชื้อโควิดแล้ว
ทันทีที่ถึงทำเนียบขาว Trump ก็ถอดหน้ากากอนามัยที่ใส่ออก และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่รอทำข่าวว่า “...คนอเมริกันไม่ควรที่จะกลัวโควิด อย่าให้โควิดครอบงำชีวิตของทุกคน...ตัวผมเองยังรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงกว่าเมื่อ 20 ปีก่อนเสียอีก...” ผู้สื่อข่าวจาก CNN รายงานว่า “ขณะที่ Trump ให้สัมภาษณ์ มีนักข่าวหลายคนอยู่ใกล้ Trump มาก และก็มีหลายคนที่ไม่ได้ใส่หน้ากาก ฯ ” ผู้เขียนเชื่อว่าด้วยระยะใกล้กันแค่นั้น เชื่อว่าคงมีผู้โชคดีติดเชื่อโควิดจาก Trump แน่นอน มีคนวิจารณ์การกระทำของ Trump ในเรื่องนี้อย่างรุนแรง เพราะเกรงว่า Trump จะกลายเป็น “Super Spreader” แพร่เชื้อไปสู่สมาชิกของทำเนียบขาว
สำนักข่าว BBC รายงานว่าเหตุการณ์ที่น่าจะเป็นสาเหตุของการติดเชื้อโควิดของ Trump และผู้ใกล้ชิดในทำเนียบขาวจำนวนถึง 12 คน น่าจะเป็นเหตุการณ์แต่งตั้ง Amy Coney Barrett เป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานศาลสูงสุดของสหรัฐ ที่จัดขึ้นที่ Rose Garden ในทำเนียบขาว ในงานนี้มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากที่ไม่ใส่หน้ากาก ซึ่งก็รวมทั้ง Trump และภรรยาของเค้าด้วย หลังจากนั้นเพียง 5 วัน Trump ก็เริ่มมีอาการป่วยจากโควิด ด้านสำนักข่าว CNN รายงานว่า การที่ Trump (ดูเหมือน)มีแรงกลับมาทำงานที่ทำเนียบขาวได้ก็น่าจะมาจากการที่เค้าได้รับสารสเตียรอยด์นั่นเอง
ภาพการแต่งตั้งผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานศาลที่ Rose Garden https://ichef.bbci.co.uk/news/624/cpsprodpb/7E11/production/_114737223_trump_covid_scotus_event_cases_640_2x-nc-005.png
การที่ Trump พยายามสร้างอิมเมจของการเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง แม้แต่โควิดก็ทำอะไรเค้าไม่ได้ ก็เพื่อเป็นการสร้างภาพให้กับผู้ที่สนับสนุนเค้า ว่าเค้ายังคงแข็งแรงและพร้อมเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐต่ออีก 1 สมัย ซึ่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
อย่างที่เราทราบกันดีว่า สหรัฐเป็นชาติที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงถึง 215,102 คน (ข้อมูลณวันที่ 6 ตุลาคม 2020) ทั้ง ๆ ที่สหรัฐเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีมาตรฐานทางสาธารณสุขสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ภาพ Trump เดินเคียงคู่มากับผู้เข้าชิงตำแหน่งประธามศาล ฯ https://www.bostonherald.com/2020/09/27/donald-trump-defends-supreme-court-pick-of-amy-coney-barrett-joe-biden-says-republicans-should-pump-the-brakes/
เราอาจกล่าวได้ว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อของสหรัฐสูงมากถึงเพียงนี้ มาจากนโยบายด้านสาธารณสุขที่ล้มเหลวของรัฐบาล Donald Trump ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด และที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ ทัศนะคติของตัวผู้นำเอง
Trump ปฏิเสธการใส่หน้ากากอนามัย และกระตุ้นให้ผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ ยกเลิกการล็อคดาวน์ เพราะเค้าหวังผลทางการเมืองจากฐานคะแนนเสียงของพรรค Republican ที่ให้ความสำคัญกับมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่าความปลอดภัยของสุขภาพของคนอเมริกัน ผลที่ตามมาก็คือการแพร่ระบาดของโควิดเป็นระรอกที่ 2 ในสหรัฐซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
จนถึงทุกวันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นทุกวัน ความท้าทายในขณะนี้คือฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้จำนวนผู้ป่วยโควิดพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งก็ได้ ถ้าหากว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ Donald Trump ยังคงไม่ให้ความสำคัญกับการป้องกันการระบาดของโควิดเหมือนดังเช่นที่ผ่านมา
แหล่งข้อมูล
โฆษณา