พี่เลี้ยง 2 คน กับกลุ่มเด็ก ๆ อาชาผยองอีกหลายคน
มองจากใบรายชื่อของนอร์ทกรุงเทพ ในลีก เรเจินนัล แชมเปียนชิพ หรือ T3 โซนกรุงเทพฯและปริมณฑลแล้วพบว่า 4 ใน 11 คนแรกถูกแปะไว้หลังชื่อว่า U23 และอีก 4 คนเป็น U21
มีนักเตะต่างชาติ 1 คน
2 คนที่เหลือเป็นนักเตะตัวเก๋าที่คอยประคองน้อง ๆ
วิกฤตโควิดที่ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ลง แล้วก็ส่งผลกระทบไปทุกวงการจริง ๆ นั่นแหละ กับฟุตบอลนี่...สโมสรเล็ก ๆ ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดกันอย่างหนักในแบบฉบับของตนเอง เมื่องบประมาณทำทีมของหลาย ๆ ทีมถูกหั่นลงชนิดคนทำทีมถึงกับถอนหายใจ
เพราะเข้าใจ ใช้เป็นและเห็นรอบในปัจจัยต่าง ๆ นี่เองทำให้ “อาชาผยอง” นอร์ทกรุงเทพ สโมสรอาชีพที่ต่อยอดจากทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัยปรับโครงสร้างทีม ให้โอกาสน้อง ๆ นักศึกษาในมหาวิทยาลัยมากขึ้น ไม่ต้องไปจ่ายค่าจ้างนักบอลที่อื่นแพง ๆ ถ้าไม่จำเป็น
“โครงสร้างทีมมีการเปลี่ยนแปลงครับ ถ้าดูจากใบรายชื่อจะเห็นว่าส่วนใหญ่อายุ 19-20-21 กันทั้งนั้น แล้วมีพี่ ๆ ช่วยประคอง 2 คนคือโล (ณกุณฑ์ ปิ่นทอง) กับ กั๊ก (วีรยุทธ จิตรขุนทด) แต่ยังคิดว่าน่าจะเป็นปีที่สนุกนะครับ เราทำฟุตบอลเพื่อให้เด็ก ๆ ที่มีพรสวรรค์ด้านฟุตบอลในมหาวิทยาลัยได้มีโอกาสได้เล่น” ดำรงค์ศักดิ์ บุญม่วง หรือโค้ชแบงค์ เฮดโค้ชของทีมแจกแจง
สองพี่เลี้ยง แปะมือทักทายน้อง ๆ
ถึงงบประมาณจะลดลง แต่เป้าหมายของทีมไม่เคยลดขนาดไปด้วย แน่นอนหัวใจของพวกเขาก็ไม่เคยลดขนาดเช่นกัน ทั้งสต๊าฟโค้ช, เจ้าหน้าที่ทีม ไปจนถึงเหล่านักฟุตบอลยังวางเป้าหมายไว้สูง แล้วมุ่งมั่นที่จะไขว่คว้ามาครองให้ได้ แม้จะเป็นปีที่เหนื่อยยากแค่ไหนก็ตามที
“ผมก็อยากให้ทีมไปได้ไกลที่สุดนะครับ...เราวางเป้าหมายไว้ว่าอยากเป็นแชมป์อยู่แล้วแหละ แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างอาจจะทำให้ยากลำบาก ซึ่งเราจะทำให้ดีที่สุด” โค้ชแบงค์เปิดใจ
“ส่วนทีมเต็งในโซนนี้ ผมมองว่าน่าจะเป็นบางกอก เอฟซี แล้วก็จามจุรี ยูไนเต็ด ทั้ง 2 ทีมเป็นทีมระดับ T3 เดิมทั้งคู่ มีความลงตัวมากกว่าทีมอื่น ๆ”
ในขณะที่ “โล” ณกุณฑ์ ปิ่นทอง 1 ในนักเตะตัวเก๋าที่โค้ชแบงค์หวังให้ช่วยประคองและถ่ายทอดวิทยายุทธให้น้อง ๆ มองเป้าหมายของทีมไว้ว่า
“เป้าหมายแรกที่ผมมองคือ ไปรอบแชมเปียนส์ลีกก่อน แต่เป้าหมายใหญ่ก็แน่นอนครับ...ใจผมอยากจะเลื่อนชั้นอยู่แล้วแหละ ก็คงต้องขอไปทีละสเต็ปก่อนครับ”
โลเป็นกำลังสำคัญในแผงกลางนครปฐม ยูไนเต็ดเมื่อฤดูกาลก่อน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาไม่ได้ไปต่อกับทีมเมื่อขึ้นสู่ลีกรองในปีนี้ ก็เป็นโค้ชแบงค์นี่เองที่หยิบยื่นโอกาสให้มาโลดแล่นยังถิ่นรังสิต
“คือโค้ชสนใจในตัวเราอยู่แล้ว เลยอยากให้ผมมาช่วยประคองน้อง ๆ ที่นี่ แล้วตัวผมเองก็ยังรู้สึกมีไฟในการเล่นอยู่ พอโค้ชกับกัปตันทีม (วีรยุทธ จิตรขุนทด) ติดต่อมา ก็เลยมาครับ ผมมาเพื่อพัฒนาน้อง ๆ ในทีมต่อด้วย”
โลสวมเสื้อหมายเลข 8 ให้นอร์ทกรุงเทพ
ณกุณฑ์ ปิ่นทองจะเข้ามาแท็กทีมเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ๆ ร่วมกับ “กัปตันกั๊ก” วีรยุทธ จิตรขุนทด อีกหนึ่งจอมเก๋าที่อยู่กับทีมมา 3-4 ปีแล้ว ร่วมอยู่ในโมเมนท์สำคัญของทีมมาตลอด ทั้งโศกเศร้า (แพ้นาวิกโยธิน ยูเรกา ตกรอบแชมเปียนส์ลีก) ทั้งสุขสม (คว้าอันดับ 3 T4 ระดับประเทศจนได้เลื่อนชั้นสู่ T3)
ต้องบอกว่าโทรศัพท์จากเพื่อนเก่าที่เคยเล่นร่วมกันมาเมื่อสมัยยังเรียนที่โรงเรียนกีฬาสุพรรณบุรีนั่นเองที่ทำให้กั๊กมาอยู่กับนอร์ทกรุงเทพ
เพื่อนเก่าคนนั้นชื่อ “แบงค์” ดำรงค์ศักดิ์ บุญม่วง
“ผมอยากพิสูจน์ตัวเอง มีคนถามมาเยอะนะว่าเมื่อไหร่จะเลิกเล่น เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันก็เลิกกันไปเกือบหมดแล้ว ไม่ต้องไปมองไหนไกล โค้ชของนอร์ทกรุงเทพนี่ก็เพื่อนผม (ฮา) แต่สำหรับผมแล้ว...ยังอยากเล่นฟุตบอลต่อเรื่อย ๆ นะ แน่นอนสภาพร่างกายเราอาจจะโรยราไปบ้าง แต่เราต้องซ้อมให้มากกว่า ดูแลตัวเองให้มากขึ้น และผมก็ยังสนุกกับมัน ยังไม่ได้คิดเรื่องแขวนสตั๊ดเลย” ส่วนนึงของบทสัมภาษณ์ที่กัปตันกั๊กพูดคุยกับเพจ Supersub Thailand เมื่อปีกลาย
กัปตันกั๊กยังแข็งแกร่งในตำแหน่งแบ็ค
กัปตันกั๊กสวมปลอกแขนนำ “เด็ก ๆ” ลงประเดิมลีก เรเจินนัล แชมเปียนชิพ หรือ T3 โซนกรุงเทพฯและปริมณฑล ฤดูกาลใหม่ 2020 ด้วยการออกไปเยือน “กระทิงเพลิง” บางกอก เอฟซี...ก็ทีมเต็งจ๋าในใจโค้ชแบงค์นั่นแหละ
ถือว่าเป็นความท้าทายสุด ๆ
ก็อย่างที่บอก 11 ตัวจริงของ “อาชาผยอง” เป็นเด็ก ๆ มหาวิทยาลัยถึง 8 คน มีนักเตะต่างชาติอีก 1 คน เป็นดาวยิงจากคองโก ส่วนกัปตันกั๊กประจำการแบ็คซ้าย โลยืนปักหลักในแดนกลาง
11 ตัวจริง “อาชาผยอง”
ในขณะที่ “กระทิงเพลิง” นำมาโดยดาวยิงที่เคยฟอร์มโดดเด่นกับสงขลา ยูไนเต็ด เมื่อครั้งยังเล่นในไทยลีก ทำให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเกิดอาการ “ปิ๊งปั๊ง” จนต้องดึงตัวมาร่วมทีมในฤดูกาลถัดมา เขาคือ...เคย์น วินเซนต์
จำได้ว่าปีเดียวกันที่วินเซนต์ย้ายมาถิ่นเซราะกราว เป็นปีเดียวกับที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ตัวราดาเมล ฟัลเกา ผมเลยอดที่จะนำทั้งคู่มาเทียบกันไม่ได้
ทำอะไรก็ไม่เป็นใจไปหมด เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างผิดที่ ผิดเวลาตลอด จนฟอร์มการเล่นที่เคยเปรี้ยงปร้างมาก่อนดร็อปลง และผลงานส่วนตัวย่ำแย่ สุดท้ายก็ต้องโบกมือลาจากกันหลังอยู่กับทีมได้ปีเดียว
วินเซนต์มาชุบตัวได้งดงามอีกครั้งกับแอร์ฟอร์ซและเกษตรศาสตร์ และปีนี้มาสวมปลอกแขนกัปตันทีมในทีมระดับ T3 อย่างบางกอก เอฟซี
11 ตัวจริง “กระทิงเพลิง”
แค่ 35 นาทีแรกเท่านั้น “กระทิงเพลิง” ก็ทำท่าว่าจะเก็บ 3 แต้มในนัดนี้ได้ง่าย ๆ ซะแล้ว เมื่อออกนำไปถึง 2:0 เคย์น วินเซนต์ประเดิมสังกัดใหม่ได้สวย เบิกสกอร์ให้ทีมนำไปก่อน และศักดา คุ้มกันมาบวกเพิ่มได้อีกเม็ดอีก 11 นาทีต่อมา
เด็กหนุ่มจากอาชาผยองกำลังจะได้เรียนรู้ว่า “T3” ไม่ใช่เล่น ๆ นะ?
โดยที่ไม่มีใครในสนามคาดคิด เควิน อีตูบู ดาวยิงคองโกของนอร์ทกรุงเทพมาตีไข่แตกได้ก่อนหมดครึ่งแรกประมาณ 6 นาที
เป็นประตูที่ช่วยดึงสติ “กระทิงเพลิง” เช่นกันว่า นอร์ทกรุงเทพก็ไม่ง่ายนะ
ฝูงกระทิงเฮฮา หลังนำไปก่อน 2:0
ครึ่งหลัง เปิดฉากมาไม่ทันไร เจ้าบ้านก็มาเสียจุดโทษอีก วีรยุทธ จิตรขุนทดรับหน้าที่สังหารประตู...และเขาก็ไม่ทำให้น้อง ๆ ในทีมผิดหวัง
ตาม 0:2 แต่นอร์ทกรุงเทพไล่ตีเสมอ 2:2 แล้ว!!!
เกมหลังจากนั้นก็สนุก เร้าใจเพราะทั้ง 2 ทีมต่างก็เร่งเครื่องเพื่อยิงประตูชัยให้ได้ เคย์น วินเซนต์มีโอกาสยิงจะจะ 3-4 ครั้ง แต่เปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้เลย ทำเอากองเชียร์ใกล้ ๆ ผมบ่นกันอุบ
เห็นในโซเชียลก็มีแซะด้วยว่า “ลงไปเดินแบบหรอ” 555
แต่ผมว่า ด้วยปลอกแขนกัปตันทีมที่ต้นแขน ดาวยิงที่เคยมีดีกรีทีมชาตินิวซีแลนด์คนนี้ก็เต็มที่แล้วน่ะ แต่อาจจะเพราะจังหวะไม่ดี หรืออาจจะต้องนิ่งในจังหวะยิงให้มากกว่านี้อีกหน่อย ก็น่าจะช่วยแบกภาระในการพังประตูให้ทีมได้ รอดูของดีกันต่อไปนะแฟน ๆ กระทิง
กัปตันกั๊กสังหารจุดโทษเฉียบ!
ส่วนเด็ก ๆ นอร์ทกรุงเทพนั่น อาจจะมีบางจังหวะที่โดนแฟน ๆ เจ้าบ้านโห่ เรื่องพยายามดึงเวลา แต่นอกเหนือจากนั้นก็ต้องชมหัวจิตหัวใจเหมือนกันนะ แต่ละคนสู้ไม่ถอย แม้ศักยภาพทีมจะว่าไปก็ดูเป็นรองอยู่นั่นแหละ
“จุดเปลี่ยนสำคัญ...ผมว่าเป็นหัวใจของเด็ก ๆ ครับที่สู้มาก อาจจะเพราะไม่อยากเปิดฤดูกาลด้วยความพ่ายแพ้ด้วย ก็ต้องชื่นชมที่ทุกคนลงไปเล่นแล้วพยายามทำให้ได้ตามแผนที่ซ้อมกันมา” ดำรค์ศักดิ์ บุญม่วงชื่นชมลูกทีม
“ที่กลับมาได้...ผมมองว่าเพราะสปิริตทีมนะครับ ทุกคนช่วยกันเล่น แล้วก็ไม่มียอมแพ้ ไม่ว่าจะตามกี่ลูกก็ตาม คือตราบใดถ้าเสียงนกหวีดหมดเวลาไม่ดัง เราก็เต็มที่ทุกนาทีครับ” ณกุณฑ์ ปิ่นทอง ลูกทีมตัวเก๋าเสริม
และเสียงนกหวีดยาวสุดท้ายก็ดังขึ้นจนได้ บางกอก เอฟซี เปิดบ้านเสมอ นอร์ทกรุงเทพไปสุดมันส์ 2:2
นอร์ทกรุงเทพสู้ยิบตาในนัดเปิดฤดูกาล
เจ้าบ้านคงรู้สึกผิดหวังกับผลการแข่งขัน แต่กับทีมเยือนแล้วทุกคนดูแฮปปี้สุด ๆ และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาสมควรได้มันมาจริง ๆ
“ต้องชื่นชมบางกอก เอฟซี แล้วก็ต้องชมทีมเราด้วย ทั้งสองทีมทำให้วันนี้เป็นเกมที่สนุก ผมว่าเป็นอีกมาตรฐานนึงของไทยลีก 3 เลยนะที่ทั้ง 2 ทีมพยายามที่จะเปิดเกมรุก แล้วก็วิ่งเข้าหากัน เป็นฟุตบอลสมัยใหม่ที่สนุกมาก ๆ ครับ” โค้ชแบงค์กระชุ่นหลังเกม
“คือ...ผมมาวันนี้ด้วยโจทย์ที่ว่าต้องเอา 1 แต้มกลับไปให้ได้ แต่พอเราโดนนำ 2:0 เราก็พยายามเปิดเกมรุกตลอด ซึ่งวันนี้เด็ก ๆ ก็ใช้พลังไปมาก แล้วก็โชคดีครับที่ยังสามารถทำได้ตามที่ต้องการ...แบ่ง 1 แต้มกลับบ้านได้สำเร็จ”
“วันนี้เด็กเราสู้ได้ดี ด้วยงบประมาณที่น้อยมาก แต่ก็สู้กับเค้าได้อย่างสูสีครับ แม้จะมีคนที่เพิ่งเดบิวท์ประมาณ 5-6 คนก็ตาม ซึ่งทุกคนสอบผ่าน”
“ที่อยากให้จับตามองก็ ชานุกูล ก๋ารินทร์ คนนี้มีทีมไทยลีกติดต่อมาแล้ว แต่เค้าไม่อยากเสียค่าตัว เลยปล่อยไปไม่ได้ นอกนั้นก็มีทัศนัย ผูกพันธ์ที่เล่นแบ็คขวา แล้วก็คู่เซนเตอร์นี่ก็ใช้ได้ (วรพัฒน์ สุขพันธ์ กับ อนุกูล ฟอมไธสง)”
“ส่วนเด็กปีหนึ่ง ผมว่าความจริง ณพวิทย์ ต่อมยิ้มเล่นได้ดีกว่านี้ แต่อาจจะเพราะด้วยสภาพสนามด้วย คนนี้ก็น่าจับตามองครับ”
ด้วยงบประมาณทำทีมที่มีน้อยนิด เด็ก ๆ มหาลัยพวกนี้จึงรับเงินเดือนกันแบบเหมือนค่าขนมซะมากกว่า แต่นี่ก็เป็นโอกาสดีให้พวกเขาได้เล่น ได้ปล่อยของกับเกมในระดับ T3 ถ้าทีมประสบความสำเร็จ งบประมาณก็อาจจะมากขึ้น หรือถ้าใครโชว์ฟอร์มโดดเด่น ก็อาจจะมีทีมใหญ่ ๆ มาดึงตัวไปร่วมทีมเหมือนที่รุ่นพี่ ๆ อย่างปฐมชัย เสือสกุล, อภิวัฒน์ เพ็งประโคน จนมาถึงรุ่นหลังอย่างภูมิพัฒน์ กันทะเนตรเคยทำให้เห็นกันมาแล้ว
“เด็กพวกนี้...ผมมองว่าเป็นพวกพลังหนุ่มที่มีความฟิต มีความกระหายในการเล่น อาจจะขาดแค่ประสบการณ์ไปบ้างในบางจังหวะคือขาดความละเอียดของเกมการเล่นไป อาจจะรีบ อาจจะรนไปบ้างในบางจังหวะ แต่ของอย่างนี้สามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้ครับ ผมก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการพาน้อง ๆ ไปถึงฝั่งฝันเหมือนกัน” ณกุณฑ์ชื่นชมน้อง ๆ ในทีม
ทุกเส้นทางฝันล้วนมีอุปสรรค มีขวากหนามให้ต้องเผชิญทั้งนั้น ถ้ามีใครสักคนคอยประคอง คอยให้คำชี้แนะ อะไรที่ว่ายาก ๆ ก็จะผ่านไปได้อย่างง่ายดาย...นี่คือหน้าที่ของวีรยุทธ จิตรขุนทดและณกุณฑ์ ปิ่นทองในสโมสรนอร์ทกรุงเทพแห่งนี้แหละ
“สองพี่น้องเดินไป น้องตามพี่ชาย จับมือจูงน้องไป มองฟ้าอันกว้างใหญ่ ฟ้าคงไกลไป ขี่คอพี่สูงเอง...”
เพลงต้องมา 555
“ผมมองว่านักบอลไทยเก่ง ๆ กันหลายคนนะ แต่ถ้าคุณอยากเป็นนักบอลอาชีพจริง ๆ คุณต้องออกนอกกรอบ ต้องออกจากบ้าน ต้องออกไปหาความฝัน คุณถึงจะเจอ ถ้าคุณยังติดบ้าน คุณจะไม่โต ก็อยู่ที่คุณจะพาตัวเองเดินไปให้ถึงหรือเปล่าเท่านั้นเอง”
วีรยุทธ จิตรขุนทดเคยสัมภาษณ์กับเพจ Supersub Thailand ไว้แบบนี้ แน่นอน มันไม่ใช่ข้อคิดสำหรับแค่น้อง ๆ ในนอร์ทกรุงเทพเท่านั้น แต่สำหรับน้อง ๆ ที่มีความฝันทุกคนด้วย
แค่กล้าก้าวเดินไปในโลกที่เราฝัน...แค่นั้นเลยจริง ๆ นะน้อง ๆ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
