[EP37] รักซะให้เข็ด - ไมโคร
จำได้ว่าเพลงนี้เป็นเพลงแรกที่เปิดตัววงไมโครในยุคที่ไม่มีพี่หนุ่ยครับ
ตั้งแต่หลังอัลบั้ม"เต็มถัง" ทางวงไมโครก็มีข่าวออกมาเรื่อยๆระหว่างสมาชิกวงกับพี่หนุ่ย ซึ่งข่าวก็ออกมาเป็นพักๆแล้วก็เงียบไป จากนั้นไม่นานก็มีการประกาศจากค่ายแกรมมี่ว่าพี่หนุ่ยและวงไมโครแยกจากกันแล้ว
สำหรับแฟนเพลงอย่างผมนี่มีหงอยเลยครับ คือเข้าใจในทุกบริบทของทุกฝ่าย คือปกติแล้ว วงๆนึงเวลาดังก็มักจะดังแค่นักร้องเป็นหลัก แต่ในเคสของวงไมโครนั้นแตกต่างกันออกไป
เพราะตอนนั้น สมาชิกของวงอย่างพี่กบ พี่อ้วน หรือพี่บอย ก็ล้วนแต่เป็นที่ยอมรับในกลุ่มแฟนเพลงเป็นอย่างดี ในขณะที่พี่หนุ่ยก็มีงานแสดงดังๆหลายเรื่อง ซึ่งการที่ต่างคนต่างเริ่มมีเวลาให้กับวงน้อยลง คุยกันน้อยลง ก็น่าจะเริ่มมีรอยร้าวเกิดขึ้น และมันน่าจะค่อยๆขยายไปเรื่อยๆ
ส่วนในแง่ของความเข้มข้นของตัวเพลงตั้งแต่อัลบั้มชุดแรกมาจนชุดเต็มถัง ผมรู้สึกได้ว่าดนตรีมันหนักขึ้นมาเรื่อยๆ โดยสังเกตุจากสิ่งที่เห็นได้ง่ายที่สุดคือทรงผมและการแต่งตัวของคนในวง
การแต่งตัวและทรงผมสมาชิกคนอื่นของไมโคร จะเห็นได้ว่าผมเริ่มยาวทุกคน เริ่มใส่ชุดหนัง รองเท้าบูท มีพู่ระบายที่แขนเสื้อตามอย่างที่วงร็อคต่างประเทศทำกัน...ในขณะที่พี่หนุ่ยยังไว้ผมยาวแค่ระดับหนึ่ง ส่วนเสื้อผ้าหลักๆก็ยังเป็นเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ...โดยอย่างหลังนี่ผมว่าเห็นได้ชัดเจนที่สุดครับ
อย่างไรก็ดี ผลสรุปก็คือวงแตกเฉพาะพี่หนุ่ยกับวงไมโคร
ย้อนกลับมาที่เพลงนี้ ถือว่าแต่ง เรียบเรียง และมีการร้องได้ดีเพลงนึงครับ และเพลงนี้ดังมากๆเลยตอนที่เปิดตัวอัลบั้มนี้
ด้านการร้องของพี่กบ พี่แกก็ยังรักษาระดับคุณภาพที่แกมีอยู่แล้ว แถมยังมีความเข้มของเนื้อเสียงมากขึ้นครับ
ส่วนด้านดนตรี ผมมองว่าร็อคขึ้นมาระดับนึงเลย และยังแอบคิดไม่ออกว่าถ้าพี่หนุ่ยยังเป็นนักร้องนำอยู่ พี่แกคงดูขัดกับสมาชิกของวง และแนวดนตรีในอัลบั้มนี้จริงๆครับ
ในส่วนของการร้องเพลงนี้ ส่วนตัวแล้วร้องไม่ยากมากครับ แถมร้องได้คล่องปากเสียด้วย อาจเป็นเพราะเนื้อเพลงที่แต่งได้ดี และใช้คำที่ลงตัวกับเมโลดี้
ความเห็นของผม ผมถือว่าเพลงนี้คือ Milestone หลักนึงที่สำคัญของไมโครครับ สำหรับการเปลี่ยนแปลงเติบโตครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนั้นครับ
#ร้องเองแหละ #smule