10 ต.ค. 2020 เวลา 14:20 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Technological Singularity — คลื่นลูกใหม่ที่สร้างผลกระทบต่อมวลมนุษยชาติ
photo credit : http://www.acceler8or.com/tags/technological-singularity/
Technology Singularity หรือ Singularity คือ
สมมติฐานที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถหยั่งถึงได้กับอารยธรรมมนุษย์ ซึ่งสมมติฐานนี้อยู่บนการคาดการณ์ว่าปัญญาประดิษฐ์มีความสามารถในการพัฒนาตนเอง (self-improvement) ซึ่งทำให้ปัญญาประดิษฐ์ทวีความฉลาดในระดับที่เหนือกว่ามนุษย์ เกินกว่าศักยภาพของมนุษย์ที่จะเข้าใจหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าวได้
Timeline ของ Singularity
แนวคิดเกี่ยวกับ Singularity ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในปัจจุบันที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีวิวัฒนาการที่ทวีความฉลาดเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่อยู่ในแวดวงเทคโนโลยีอย่าง Elon Mask, Masayoshi Son, Ray Kurzweil ได้ทำนายเกี่ยวกับช่วงเวลาในการที่เกิด Singularity ดังนี้
Masayoshi Son
ซีอีโอของบริษัท Softbank บริษัทโทรคมนาคมขนาดใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น บุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็น Steve Jobs ของญี่ปุ่น ได้ทำนายว่าในปี 2047 คอมพิวเตอร์จะมีความฉลาดก้าวข้ามมนุษย์
เขาได้กล่าวว่าในอีก 30 ปีข้างหน้า ชิพตัวเดียวบนคอมพิวเตอร์จะมี IQ เทียบเท่า 10,000 ซึ่งมากกว่ามนุษย์ที่ฉลาดที่สุดในโลกเป็นอย่างมาก โดยสมมติฐานของ Son ใช้การเปรียบเทียบจำนวนเซลล์ประสาทในสมองของมนุษย์เทียบกับจำนวนทรานซิสเตอร์ในคอมพิวเตอร์ชิพ
เขาได้กล่าวไว้ว่าในปี 2018 ทรานซิสเตอร์ในคอมพิวเตอร์ชิพจะมีมากกว่า 30 พันล้านชิ้นเท่ากับจำนวนเซลล์ประสาทในสมองมนุษย์ (ในความเป็นจริงสมองมนุษย์มีเซลล์ประสาททั้งหมด 86 พันล้านเซลล์)
(อย่างไรก็ตาม ตัวเลขตรงนี้ไม่ได้สำคัญมากนัก) เพราะประเด็นคือ Son ได้กล่าวว่า จำนวนเซลล์สมองของมนุษย์ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยตลอด 4,000 ปีที่ผ่านมา หรือฮาร์ดแวร์ไม่ได้มีการอัพเกรดเลย แต่ในอีก 30 ปีข้างหน้า คอมพิวเตอร์จะมีความสามารถเพิ่มขึ้น 1 ล้านเท่า
Elon Musk
ผู้นำด้านเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกคนปัจจุบัน ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลสำรวจคำทำนายของนักวิทยาศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ทั้งหมด 350 คนที่ว่า “ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะชนะมนุษย์ภายในปี 2060” Musk บอกว่าเป็นการคำนวนแบบเส้นตรงเกินไป ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีวิวัฒนาการที่รวดเร็วมากกว่านั้นมาก
Musk เป็นคนหนึ่งที่เชื่ออย่างถึงที่สุดว่า AI กำลังมาและกำลังมาอย่างรวดเร็วและเชื่อว่า
“ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะชนะมนุษย์ในทุกๆอย่างได้ภายในปี 2030”
หรืออีก 13 ปีนับจากปัจจุบัน
ซึ่งจริงๆแล้วถ้าแบ่งเป็นภูมิภาคจะพบว่า นักวิทยาศาสตร์จากเอเชียได้ทำนายไว้ 30 ปี จากนี้ แต่นักวิทยาศาสต์จากอเมริกาเหนือที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมมากกว่าได้ทำนายไว้ 45 ปี จากนี้
Ray Kurzweil
เอ็นจิเนียร์ไดเร็คเตอร์ของ Google ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะ Futurist ที่แม่นยำคนหนึ่ง ได้ทำนายเอาไว้ว่า “Singularity จะเกิดขึ้นในปี 2045” ซึ่งในตอนนั้นจะเกิดปัญญาประดิษฐ์ที่มีความฉลาดมากโดยรวมเอาความรู้และระบบอัจฉริยะทั้งหลายที่มนุษย์สร้างเอาไว้เข้าด้วยกัน
Kurzweil ยังได้ทำนายอีกว่าในปี 2029 คอมพิวเตอร์จะมีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์
Singularity เป็นโทษหรือประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ
แน่นอนว่าเมื่อปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีความฉลาดขึ้นเรื่อยๆ และสามารถคิดเองและวิวัฒนาการความฉลาดขึ้นได้เองจนมนุษย์ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าโลกในอนาคตจะเป็นอย่างไร
คำทำนายจึงมีอยู่ 2 รูปแบบ
รูปแบบแรก
คือ ปัญญาประดิษฐ์ได้ทอดทิ้งมนุษย์และมองว่ามนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นบนโลกใบนี้ ตามหนัง sci-fi ที่เราได้ดูกันมา
อนาคตแบบนี้ก็มีความเป็นไปได้
Elon Musk ได้เคยออกมาเตือนเรื่องนี้ในครั้งแรกที่ MIT ในปี 2014 ว่า “ปัญญาประดิษฐ์เป็นภัยคุกคามต่อมวลมนุษยชาติ” และสื่อได้นำประเด็นนี้ไปเผยแพร่ทั่วโลก ไม่เพียงแต่ Elon Musk เท่านั้น Steven Hawking และ Bill Gates ได้ออกมาเตือนในเรื่องเดียวกัน
ความกลัวที่อยู่ข้างใน
นักวิทยาศาสตร์เองก็ไม่รู้ว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) คิดอะไร มีการทดลองให้ปัญญาประดิษฐ์ A และ B ลองสื่อสารกันดูและไม่ให้ C ทราบ พบว่า A และ B ได้สร้างการช่องทางการสื่อสารแบบเข้ารหัสและสร้างภาษาใหม่ขึ้นมาในการสื่อสารระหว่างกัน
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังคงมีวิธีในการไขรหัสความคิดของปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้อยู๋ (reverse engineering) แต่ในอนาคตหากว่าเราไม่มีการเตรียมตัวไว้ และปัญญาประดิษฐ์สามารถพัฒนาตนเองได้ (self-improvment) มนุษย์เราอาจจะไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ (outcome) ที่เกิดจากปัญญาประดิษฐ์เหล่านั้นได้เลย
รูปแบบที่สอง
มนุษย์อยู่ร่วมกับคอมพิวเตอร์โดยใช้ประโยชน์จากระบบประมวลผลอันชาญฉลาดในการสร้างสรรค์อารยธรรม มนุษย์จะเชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์และใช้ประโยชน์จากระบบประมวลผล การเชื่อมต่อข้อมูล จากสมองของมนุษย์โดยตรง
Elon Musk ได้ลงทุนใน Neuralink บริษัทที่พัฒนาอุปกรณ์ในการเชื่อมระหว่างสมองมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ (brain-computer interface) ทำให้มนุษย์สามารถเข้าถึงโลกดิจิตอลและใช้ประโยชน์จากศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ได้ทำให้มนุษย์สามารถก้าวข้ามขอบเขตศักยภาพของสมองที่ถูกจำกัดมาตั้งแต่มนุษย์ถือกำเนิดขึ้นมาได้
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง
เราจะมีอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์นับไม่ถ้วนในไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการที่ทำให้มนุษย์สามารถไขปริศนาต่างๆที่มีมาตลอดหลายศตวรรษและเริ่มต้นสู่บริบทใหม่ของมวลมนุษยชาติ
โฆษณา