Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สาระสำคัญ
•
ติดตาม
11 ต.ค. 2020 เวลา 03:41 • หนังสือ
สรุปหนังสือ The E-Myth Revisited (เป็นเจ้าของกิจการที่รุ่งทะยานเกินใคร )/ Michael E. Gerber
🔹 บุคลิกภาพ 3 อย่างในระบบธุรกิจ
1) ผู้ประกอบการ คือ นักฝัน มีความคิดสร้างสรรค์ มองหาช่องทางหรือโอกาส มองไปยังอนาคตเสมอ
2) ผู้จัดการ คือ นักปฏิบัติ การวางแผน การจัดระเบียบ มองเห็นแต่ปัญหา
3) ผู้ชำนาญการ คือ ผู้ที่เน้นลงมือทำ ทำงานเพื่อให้ได้ทำงาน
“ ทั้ง 3 บุคลิก ขัดแย้ง และเกื้อกูลกันเสมอ “
🔹 เจ้าของธุรกิจ จะมีสัดส่วนทั้ง 3 บุคลิก ภายในตัวเอง
สัดส่วนนี้เป็นตัวบ่งบอกถึงอนาคตของธุรกิจที่ทำ เช่น ถ้ามีสัดส่วนผู้ชำนาญการมาก ก็จะมุ่งเน้นไปที่การทำงาน เพียงเพื่อให้ได้ทำงาน ขาดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาของผู้ประกอบการ และ การวางแผนหรือจัดระเบียบของผู้จัดการ
🔹 “ แม้คุณจะทำขนมเก่งแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะทำธุรกิจขนมได้ประสบความสำเร็จ “
1
ผู้ชำนาญการที่ผันตัวเองออกมาทำธุรกิจ มักทำผิดพลาดโดยการสร้างงานต่างๆขึ้นมาให้กับตัวเอง จนกินเวลาในแต่ละวันไปหมด จนไม่มีเวลาหรือพลังงานให้กับบทบาทของผู้ประกอบการหรือผู้จัดการ เพราะแค่ทำงานต่างๆก็เหนื่อยจนแทบสลบแล้ว
🔹 ในมุมมองของผู้ประกอบการ “ ธุรกิจ “ คือผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่สิ่งของที่มอบให้ลูกค้า
🔹 สร้างธุรกิจโดยเริ่มต้นมองจากภายนอก คือ ตัวลูกค้า ที่ทำให้ธุรกิจถูกสร้างขึ้นมา
🔹 “ ขายธุรกิจ ไม่ใช่สินค้า “
🔹 แนวคิดของแมคโดนัล ธุรกิจขนาดย่อม ที่ประสบความสำเร็จที่สุด คือ การสร้างโมเดลธุรกิจต้นแบบ การสร้างร้านแมคโดนัลต้นแบบ แล้วรวมทุกอย่างไว้ เพื่อให้แฟรนไชส์อื่นๆนำไปใช้ได้เลย ไม่ต้องอาศัยความสามารถของผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ไปทำ ไม่ตำเป็นต้องพัฒนาต่อ แต่มั่นใจและคาดการณ์ผลสำเร็จได้แน่นอน ดังนั้น หัวใจหลักคือการสร้างธุรกิจต้นแบบ ถึงแม้จะไม่ใช่ธุรกิจแฟรนไชส์ก็ตาม
🔹 การสร้างโมเดลธุรกิจต้นแบบ
มีแนวคิด 6 ข้อ
1) การกำหนดมูลค่าของธุรกิจ
2) ผู้อื่นสามารถนำไปปฏิบัติได้ ด้วยความสามารถที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าทำแบบนี้ได้ ผู้ชำนาญการที่มีความสามารถสูงก็ไม่จำเป็น เพราะใครก็ทำได้
3) มีแหล่งรวมและจุดอ้างอิงของระบบระเบียบที่ชัดเจน
4) งานทุกอย่างในโมเดลธุรกิจต้นแบบต้องถูกจัดเก็บไว้ในคู่มือปฏิบัติการ(ระบุขั้นตอน,มาตรฐานและผลลัพธ์ที่ต้องการ)
5) กำหนดการให้บริการลูกค้า ที่คาดหมายได้และเป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์เดิมที่คาดว่าจะได้หรือเคยได้
6) ใช้ประโยชน์จากเรื่องสี,การตกแต่ง,การอำนวยความสะดวก เช่น สี,รูปทรงของโลโก้หรือแบบฟอนท์ มีผลต่อยอดขาย
🔹 จงทำงานเพื่อพัฒนาธุรกิจ ไม่ใช่ทำงานไปวันๆ
🔹 ปัญหาของธุรกิจส่วนใหญ่ ไม่ได้มาจากธุรกิจ แต่มาจากตัวคุณเอง จนกว่าคุณจะยอมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวคุณเอง
🔹 การพัฒนาธุรกิจ มีกิจกรรมพื้นฐาน 3 อย่าง
1) นวัตกรรม มาจากการตั้งคำถาม และหาคำตอบ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด
2) การจัดการเชิงปริมาณ นวัตกรรมจะได้ผลหรือไม่ จะต้องใช้การจัดการเชิงปริมาณเพื่อวัดผลออกมาเป็นตัวเลข เพื่อให้รู้จุดที่อยู่ในปัจจุบัน และจุดที่เป็นเป้าหมาย
3) การประสานการทำงาน เมื่อสร้างนวัตกรรมและจัดแจงมันในเชิงปริมาณได้แล้ว ต้องประสานมันเข้ากับการทำงาน เพื่อให้สอดคล้องเป็นหนึ่งเดียว ใช้การจัดลำดับการทำงาน เพื่อลดความคิดส่วนตัว ความชอบ ทางเลือกในระดับปฏิบัติ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่สอดคล้องและคาดการณ์ได้
🔹นวัตกรรมมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ในการพัฒนาธุรกิจ การทำกิจกรรม 3 อย่างซ้ำๆเรื่อยๆ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเสมอ
🔹โปรแกรมพัฒนาธุรกิจ ประกอบไปด้วย 7 ขั้นตอน
🔸 1) เป้าหมายสูงสุด - คือภาพของชีวิตในด้านต่างๆที่คุณวาดไว้ เพื่อให้รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ถึงจุดหมาย
“ ผู้ยิ่งใหญ่มีภาพชีวิตอย่างที่ตนต้องการอยู่ในใจ และดำรงชีวิตของตนไปตามนั้นทุกวัน วันแล้ววันเล่า “
🔸 2) วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ - คือ แผนของชีวิต รวมถึงแผนธุรกิจและกลยุทธ์ เป็นเครื่องมือวัดความคืบหน้าสู่จุดหมาย
- เงิน ตั้งรายได้รวมทั้งหมด รวมถึงเรื่องเงินทุกด้าน ภาษี มูลค่ากิจการ และระยะเวลาเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย เช่น สามปีหรือห้าปีข้างหน้า
- ผลิตภัณฑ์ คือ สิ่งที่ลูกค้ารู้สึกตอนที่เดินออกจากร้าน เป็นความรู้สึกที่ลูกค้ามีต่อธุรกิจ ไม่ใช่ที่มีต่อสินค้าเช่น ผลิตภัณฑ์ของชาแนลตัวหนึ่ง ไม่ใช่น้ำหอม แต่คือ ฝันอันบรรเจิด
- ลูกค้า ใช้ประชากรศาสตร์เพื่อระบุลูกค้า เช่น อายุ,เพศ,รายได้ ฯลฯ และใช้จิตนิสัยเพื่อบอกว่าเหตุใดลูกค้าจึงซื้อหรือไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณ
🔸 3) กลยุทธ์องค์กร - ไม่ว่าธุรกิจจะเล็กแค่ไหนก็ต้องมีผังองค์กร กำหนดตำแหน่งและหน้าที่ในผังองค์กรให้ชัดเจน มีคู่มือปฎิบัติการ มีสัญญาจ้าง ทำทุกอย่างให้พร้อม เพื่อให้ใครก็ได้ที่มีความมุ่งมั่นมารับตำแหน่งนั้น
- เริ่มต้นหาพนักงานจากล่างสุด ในตำแหน่งผู้ชำนาญการ เพื่อที่จะได้ไปทำงานของผู้ประกอบการได้
🔸 4) กลยุทธ์ด้านการจัดการ - ผู้จัดการที่มากความสามารถไม่ใช่สิ่งจำเป็นเท่าระบบการจัดการ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยแก้ปัญหา หรือช่วยในการตัดสินใจ เพื่อลดความไม่แน่นอนของตัวบุคคล ระบบการจัดการยิ่งเป็นอัตโนมัติเท่าไรยิ่งดี พัฒนาระบบการจัดการเพื่อเป็นเครื่องมือด้านการตลาด เพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า
🔸 5) กลยุทธ์ด้านบุคลากร - คือวิธีการสื่อสาร ทั้งเป้าหมายสูงสุด,วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ และคู่มือปฏิบัติการ ไปยังบุคลากร
“เกมมนุษย์” คนของคุณจะทำในสิ่งที่คุณต้องการ มากน้อยแค่ไหน ขึ้นกับว่าพวกเขาเชื่อในเกมของคุณมากน้อยเพียงใด เกมต้องถูกสร้างภายใต้ความคิดที่ดี ไม่ใช่เยาะเย้ยถากถาง เป็นเกมที่มีโอกาสชนะ เป็นเกมที่แม้แต่คุณก็อยากเล่น และคุณต้องคอยทำให้ทุกครตระหนักถึงเกมเสมอ
จ้างคนที่ต้องการเล่นเกมของคุณ ไม่ใช่เล่นเกมของพวกเขาเอง
🔸 6) กลยุทธ์การตลาด - กระบวนการตัดสินใจซื้อ ไม่ได้เกิดขึ้นจากจิตสำนักที่รับรู้เหตุผลต่างๆ แต่เกิดขึ้นจากจิตไร้สำนึก ซึ่งไม่มีใครรู้ได้
ใช้ 2 หลักการสำหรับกลยุทธ์การตลาด คือ ข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์ เพื่อหาว่าลูกค้าของคุณคือใคร.และ ข้อมูลจิตนิสัย เพื่อหาว่าเหตใดเขาจึงซื้อ
ใช้แบบสอบถาม,คำถามจำเพาะ,การทดลอง,เขตการค้า(พื้นที่ๆลูกค้าปัจจุบันอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่)
🔸 7) กลยุทธ์ด้านระบบ - ระบบในธุรกิจมี 3 ประเภท
- Hard System คือสิ่งไม่มีชีวิต สิ่งของ สีสัน
- Soft System สิ่งมีชีวิต คน ชุดความคิด ระบบการขาย ซึ่งระบบการขายมีขั้นตอน 6 ขั้นตอน
1.ระบุจุดการตัดสินใจของลูกค้า
2.เขียนบทพูด
3.สร้างวัตถุดิบให้หลากหลายในแต่ละช่วง
4.จดจำบท สำหรับจุดตัดสินใจต่างๆ
5.ส่งบทให้พนักงานขาย
6.ทำการสื่อสาร รวบรวม ติดตาม วัดผล
- Information System ระบบจัดสรรข้อมูลต่างๆ ในทุกๆด้าน การเงิน ผลการติดตามระบบการขาย การวัดผล ข้อมูลการผลิต สินค้าตัวไหนขายดี เป็นต้น
4 บันทึก
3
2
3
4
3
2
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย