14 ต.ค. 2020 เวลา 08:24 • ธุรกิจ
ประสบความสำเร็จแบบ "คนขี้เกียจ"
.
ด้วยการเริ่มจากเป็นคน “คนขี้เกียจ” ที่ไม่ใช่ “คนอู้” เป็นคนที่ขี้เกียจแบบก้าวหน้า
.
เพราะคนอู้ เป็นผู้ที่หลีกหนีปัญหา ซึ่งท้ายที่สุดก็ต้องกลับมาแก้ไขปัญหานั้นดังเดิม แต่คนขี้เกียจ เป็นผู้ที่ต้องการให้งานเสร็จไวขึ้น เพื่อให้ตนเองมีเวลาขี้เกียจได้เรื่อยๆ
.
คนขี้เกียจแบบก้าวหน้าเป็นอย่างไร Mission to the Moon ได้สรุปมา 10 ข้อจากหนังสือ “สำเร็จได้สไตล์คนขี้เกียจ”ของ Naoyuki Honda
.
1. ขี้เกียจได้ แต่ต้องมีการวางแผน จัดสรรเวลาให้มีประสิทธิภาพที่สุด: โดยปกติคนเราจะมี Prime Time หรือช่วงเวลาสำคัญที่คิดหรือทำงานได้อย่างราบรื่นประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งหากเรารู้ช่วงเวลาดังกล่าวและใช้ช่วงเวลานั้นไปกับการทำในสิ่งสำคัญที่สุดก่อน ผลที่ได้นอกจากจะช่วยย่นระยะเวลาแล้วยังช่วยให้สิ่งที่ทำออกมามีประสิทธิภาพด้วย ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้นึกถึงตอนเราดูซีรีส์แนวหนักหน่วงที่ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์สักเรื่อง ซึ่งเรามักเลือกดูในเวลาที่สมองปลอดโปร่ง (อาจเป็น Prime Time ของคุณ) เพื่อให้คิดตามสิ่งที่ตัวละครกำลังสื่อได้ และในทางตรงกันข้ามแม้จะมีความสนุกแค่ไหนแต่เราก็แทบจะไม่สามารถดูทุก Episode รวดเดียวจบได้
.
2. ทุ่มเทให้กับช่วง 10 วันแรก: ตัวอย่างเช่น การเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา เมื่อคุณทำติดต่อกันได้สัก 10 วัน ร่างกายคุณจะปรับให้ไม่รู้สึกยากเหมือนในช่วงวันแรกๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน
.
3. Small Win: หากรู้สึกว่าเป้าหมายห่างไกลจากตัวเองมาก คุณควรแบ่งเป้าหมายเป็นเฟสย่อยแล้วค่อยทำไปทีละขั้น แต่เป้าหมายนั้นต้องเป็นไปได้
.
4. หาแรงจูงใจจากภายนอก: ข้อนี้เป็นไปได้หลายแบบ ตัวอย่างเช่น หากเราต้องทำงานเป็นทีม ลองนึกภาพว่าเราต้องทำงาน กับลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงานที่เก่ง และขยัน จะทำให้เราอยาก improve ตัวเองมากขึ้น
.
5. ลดความเครียดลงบ้าง: แรงกดดันที่มากเกินไปอาจกลายเป็นความเครียด และการทำงานบนพื้นฐานของความเครียดอยู่ตลอดย่อมไม่ส่งผลดี
.
6. หาสภาพแวดล้อมที่ทำให้ขี้เกียจได้ยาก: เช่น เราอาจจะกำหนด Deadline ให้ตัวเองถี่ๆ เพื่อสร้างนิสัยความพยายามทำงานให้เสร็จก่อนกำหนดการส่งจริง
.
7. เลือกทำกิจวัตรที่รู้สึกว่าได้กำไร: ในเรื่องของเวลา คุณสามารถใช้เศษเวลาทั้งหมดให้เกิดประสิทธิภาพได้ อาทิ ระหว่างเดินทางไปทำงานคุณอาจฟัง Audiobook หรือ Podcast ไปพร้อมกัน
.
8. ไม่เปรียบเทียบในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้: ต้นทุนชีวิตที่ไม่เท่ากัน การนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นหรือสนใจแต่ชีวิตคนอื่น อาจจะทำทำให้เราลืมเป้าหมายที่แท้จริงของตัวเอง
.
9. ต้องพักผ่อนให้เป็น: การนอนคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด โดยเฉพาะการเข้านอนเร็ว และไม่ทำกิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการนอนบนเตียง รวมทั้งในระหว่างนอนไม่ควรเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ใกล้ตัว
.
10. ให้ตัวเองขี้เกียจได้บ้าง: ต้องไม่ปฏิเสธความจริง อาทิ หากคุณรู้สึกว่าตัวเองป่วยและสามารถลางานได้ คุณก็ไม่ควรฝืนตัวเองไปทำงาน เพราะนอกจากงานที่ทำจะไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อาจทำให้ร่ายกายและจิตใจคุณแย่ยิ่งไปกว่าเดิม อีกทั้งในทุกขั้นของการไปสู่เป้าหมาย ควรมีการให้รางวัลเพื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเอง แม้จะเป็นความสำเร็จที่เล็กน้อยก็ตาม
.
สุดท้ายเราอาจไม่จำเป็นต้อง Work Hard หรือทำงานให้หนัก หากเรารู้จักที่จะ Work Smart หรือทำงานแบบคนมีความคิด มีแบบแผนในการทำงาน และไม่เคร่งเครียดกับงานมากจนเกินไป เพื่อให้เรามีเวลาได้พักผ่อน ได้ทำในสิ่งอื่นที่สำคัญกับชีวิต
.
.
.
“I will always choose a lazy person to do a difficult job .. because he will find an Easy way to do it” – Bill Gates
.
“ผมมักเลือกคนขี้เกียจให้ทำงานยากๆ เสมอ เพราะพวกเค้าจะหาวิธีที่ง่ายที่สุดในการทำมันให้สำเร็จ” – บิล เกตส์
9
ประสบความสำเร็จแบบ "คนขี้เกียจ"
โฆษณา