Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าของ ปัน ปัน
•
ติดตาม
14 ต.ค. 2020 เวลา 12:35 • สิ่งแวดล้อม
“พญาแร้ง”
หลายเดือนก่อนมีโอกาสได้มานั่งฟังเรื่องของ “แร้ง” ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ในโครงการ “การฟื้นฟูประชากรแร้งในถิ่นอาศัยของประเทศไทย” โดยความร่วมมือกันจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สีตว์ป่า และพันธุ์พืช องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมูลนิธิสืบนาคเสียร ซึ่งข้อมูลของนกแร้งมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
ภาพวาดพญาแร้ง ฝีมืออาสาสมัครช่วยงานที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
พอพูดถึง “นกแร้ง” หลายๆ คนก็คงคิดไปถึงนกตัวใหญ่ๆ หัวโล้นๆ หน้าตาดูไม่ค่อยบรรเจิดสักเท่าไหร่ แถมชอบรุมกินซากสัตว์ จนเป็นที่มาของคำว่า “แร้งทึ้ง”
ด้วยความที่นกแร้งมักชอบบินวนหาซากกินเป็นอาหาร เมื่อแร้งบินวนตรงจุดไหน แสดงว่าจุดนั้นน่าจะมีอะไรสักอย่างที่ใกล้ตาย หรือตายอยู่ จึงเป็นภาพจำและความเชื่อที่บอกเล่าต่อๆ กันมา คือ นกแร้ง เป็น “ตัวซวย เป็นสัตว์อัปมงคล” มีแร้งที่ไหน มีความตายที่นั่น
นอกจากนี้ยังถูกมองว่าเป็นสัตว์สกปกเพราะกินซาก ทั้งที่จริงแล้ว “นกแร้ง” เป็นสัตว์รักความสะอาด หลังกินซากแล้ว แร้งจะหาแหล่งน้ำเพื่อทำความสะอาดขน และผึ่งแดดเพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
ถ้าเราลองเปิดใจและลองมาทำความเข้าใจถึงหน้าที่ของ “นกแร้ง” ในธรรมชาติ จะรู้ว่าจริงๆ แล้ว “นกแร้ง” นี่เปรียบเสมือนเทศบาลที่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง กำจัดซากได้รวดเร็วทันใจยิ่งนัก ถ้ายิ่งเข้าใจหน้าที่ “นกแร้ง” มากขึ้น อาจจะถึงขั้นยกย่องว่านกแร้งนี่คือ “คุณหมอ” หรือสำคัญระดับ “กรมควบคุมโรค” ที่คอยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อได้อย่างเยี่ยมยอดเลยทีเดียว
ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมต้องยกย่องกันขนาดนี้ อย่างแรกเลย นกแร้ง 1 ฝูง (สิบกว่าตัว) สามารถกำจัดซากวัวตัวเต็มวัยได้หมดภายในครึ่งชั่วโมง ถ้าวัวตายใหม่ๆ นี่ยังไม่ทันที่ซากจะเน่า หรือเชื้อโรคจะได้โตเลย ก็โดนกำจัดเกลี้ยงจนเหลือแต่กระดูกแล้ว
อย่างที่สอง น้ำย่อยในกระเพาะของ “นกแร้ง” นี่คือน้ำกรดชั้นเยี่ยม เพราะมีค่า pH ต่ำมาก ประมาณ 1-1.5 เอง คิดดูสิ ค่าความเป็นกรดสูงขนาดนี้ เชื้อโรคอะไรถูกกินเข้าไปก็น่าจะตายเรียบเช่นกัน
หลายคนก็อาจจะคิดว่า แล้วงัย ก็นั่นมัน “เรื่องของนกแร้ง” มนุษย์สูงศักดิ์อย่างเราๆ จะได้ประโยชน์อะไรจากนกแร้ง?
ลองคิดดูนะ ถ้าวันหนึ่งมีสัตว์ตายในธรรมชาติ อาจจะตายจากการติดเชื้ออะไรก็ไม่รู้ พอไม่มีนกเทศบาลมาคอยจัดการให้ ซากก็เน่าเปื่อย โอกาสที่เชื้อโรคจะลงสู่ดิน ลงสู่แหล่งน้ำก็มีมากขึ้น แล้วน้ำเหล่านั้นจะไปไหน ก็ไหลลงสู่ห้วย หนอง คลอง บึง แล้วใครใช้น้ำ อ้าวก็มนุษย์เราน่ะสิ
น่าเสียดายที่ประเทศไทยเราเหลือ “พญาแร้ง” เพียง 5 ตัวเท่านั้นใน “สวนสัตว์นครราชสีมา” และ “สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง” ส่วนในธรรมชาตินั้นเรียกได้ว่า “หมด” ไปแล้วจริงๆ จากเหตุการณ์เมื่อเกือบๆ 30 ปีที่แล้ว พญาแร้ง “ฝูงสุดท้าย” ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ตายจากยาฆ่าแมลงที่นายพรานใช้เป็นยาเบื่อใส่ไว้ในซากเก้ง หวังจะล่าเสือโคร่ง ทำให้พญาแร้งตายไปนับสิบตัว พญาแร้งได้ลดจำนวนลง และไม่พบในธรรมชาติอีกเลย
วันนี้ด้วยความหวังว่าเราจะกลับมาเห็นพญาแร้งโบยบินอีกครั้งบนฝากฟ้าในผืนป่าของไทย จึงมีโครงการ “ฟื้นฟูประชากรแร้งในถิ่นอาศัยของประเทศไทย” โดยนำพญาแร้งหนุ่มสาวมาจับคู่กัน ฝ่ายเจ้าสาวนั้นเป็นพญาแร้งจากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง นามว่า “เจ๊มิ่ง” ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวนั้น สวนสัตว์นครราชสีมาส่งเข้าประกวด นามว่า “เฮียป๊อก”
ทั้งคู่ดูใจ เมียงมองกันไปมาอยู่อยู่หลายเดือนแล้ว เราได้แต่เชียร์ และหวังว่า “เจ๊มิ่ง” จะให้โอกาส “เฮียป๊อก” ของเรา ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้อยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่ที่ลุ้นกันจนตัวโก่ง 😂
ถ้าใครได้อ่านมาจนถึงตรงนี้ แม้จะยังไม่รู้สึกชอบ “นกแร้ง” ก็ไม่เป็นไร แค่ขอให้ “เข้าใจ” นกแร้งบ้างก็พอ และจะขอบพระคุณอย่างสูงถ้าช่วยพูดแทนนกแร้งบ้างว่าเราไม่ได้เป็นตัว ”อัปมงคล” อย่างที่มนุษย์เข้าใจกันน๊า
1 บันทึก
21
6
7
1
21
6
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย