• ด้านการบำรุงรักษาเครื่องจักร โดยใช้ AI ในการดำเนินการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive maintenance) เดิมหากไม่มี AI การตัดสินใจบำรุงรักษาเครื่องจักรมักจะใช้การวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยของอายุการใช้เครื่องจักรก่อนการเสียหาย (Mean Time to Failure) เพื่อประมาณว่าเมื่อใดที่เครื่องจักรต้องมีการเปลี่ยนชิ้นส่วน แต่เมื่อมี AI ที่สามารถรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักร จะช่วยระบุได้ว่าชิ้นส่วนใดที่มีแนวโน้มที่จะเสียในไม่ช้า เพื่อดำเนินการเปลี่ยนเฉพาะชิ้นส่วนที่ต้องการการทดแทนเท่านั้น
การเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินการทางการเงิน
• ในการจัดการแบบเรียลไทม์ (Real-time) AI ช่วยการทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการพยากรณ์ความต้องการ การจัดการสินค้าคงคลังและลูกหนี้การค้า ทำให้บริษัทสามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและคาดการณ์ว่าควรจะจัดสรรงบไปที่ไหนได้ดีกว่าการใช้แค่ข้อมูลสถิติในอดีต
• ในการตัดสินใจเลือกปิดร้านสาขา เมื่อเกิดวิกฤต หากปราศจาก AI การตัดสินใจนี้จะขึ้นอยู่กับผลประกอบการของแต่ละสาขาและการวิเคราะห์ประชากร (Demographic analysis) แต่ AI สามารถช่วยให้เกิดการตัดสินใจที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ด้วยการพยากรณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับลูกค้าในพื้นที่ที่ให้บริการโดยสาขานั้น ว่าลูกค้าเหล่านี้จะเปลี่ยนไปซื้อสินค้าที่ร้านค้าคู่แข่งซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกกว่า หรือจะเปลี่ยนไปซื้อสินค้าออนไลน์หรือจะยอมเดินทางไปไกลอีกนิดเพื่อจะรักษาความภักดีต่อร้านนั้น การพยากรณ์นี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการกระบวนการตัดสินใจปิดร้านสาขา
• ด้วยการส่งเสริมการขาย AI สามารถสร้างแบบจำลองพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อมีการส่งเสริมการขาย (promotion) แบบใหม่ เพื่อการส่งเสริมการขายแบบเรียลไทม์ เริ่มต้นจากข้อมูลการขายที่เกิดขึ้นจากการส่งเสริมการขายในอดีต AI สามารถจำลองพฤติกรรมของผู้ซื้อด้วยการเพิ่มตัวแปรใหม่ เช่น ระเบียบข้อบังคับของรัฐเกี่ยวกับการกักตัวในบ้าน (shelter-in-place) การเปิดและปิดของร้านค้าปลีก โรงเรียน การรวมตัวทางการเมือง ความน่าจะเป็นของการระบาดโควิด19 เป็นต้น และ AI ยังสามารถเก็บข้อมูลการส่งเสริมการขายที่ประสบความสำเร็จในพื้นที่หนึ่งแล้วนำไปสร้างแบบจำลองที่คล้ายคลึงกันเพื่อแนะนำการส่งเสริมการขายที่เหมือนกันกับอีกพื้นที่หนึ่ง โดยใช้พื้นฐานจากการขายแบบเรียลไทม์ที่เกิดขึ้นจากการส่งเสริมการขายที่ประสบความสำเร็จนั้น
• ด้วยการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เช่น ตลาดมันฝรั่งทอดกรอบ บริษัทจึงต้องพยายามชนะใจผู้บริโภคด้วยการเสนอทางเลือกที่หลากหลาย AI สามารถศึกษาคลังข้อมูลขนาดใหญ่และระบุรูปแบบของข้อมูลที่มนุษย์ไม่สามารถเห็นได้ โดยการศึกษาข้อมูลทางประชากร ความพึงพอใจของผู้บริโภค อายุ เชื้อชาติ เพศ รายได้ เป็นต้น และสิ่งที่ AI ค้นพบคือ ชนพื้นเมืองอเมริกันชอบอาหารรสแกงกะหรี่ ระบบ AI จึงแนะนำว่าบริษัทควรเสนอขายขนมรสที่มีขายเฉพาะในประเทศอินเดียคือ รสแกงกะหรี่ ที่เรียกว่า Kurkure ให้กับชนพื้นเมืองอเมริกันในเมืองฟริสโก รัฐเท็กซัส (Frisco, Taxes) ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรน้อยกว่าสองแสนคนโดยส่วนใหญ่เป็นชนพื้นเมืองอเมริกัน จะเห็นได้ว่า AI สามารถค้นพบตลาดขนาดย่อย (Micro-market) และแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภคในตลาดกลุ่มนั้น ดังนั้นคำถามที่บริษัทต้องการคือยังมีตลาดขนาดย่อยอีกกี่แห่งในตลาดของผลิตภัณฑ์ที่บริษัทให้บริการ
ตัวอย่างข้างต้นแสดงเห็นว่า AI มีความฉลาด และฉลาดมากขึ้นทุกวัน หากบริษัทของคุณพึ่งพามนุษย์ในงานที่ AI สามารถทำได้ดีกว่า ขณะที่บริษัทคู่แข่งพึ่งพา AI นั้นจะทำให้บริษัทของคุณไม่มีวันตามคู่แข่งได้ทัน ดังนั้นคุณต้องพัฒนาแผนการออกจากภาวะถดถอยนั้นด้วยการเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน เพราะบริษัทที่ใช้ AI จะเป็นผู้ชนะและอีกหลายบริษัทที่ไม่ได้ใช้ AI จะกลายเป็นผู้แพ้ในเกมส์การแข่งขัน