16 ต.ค. 2020 เวลา 04:00 • ความคิดเห็น
หุบเหวไม่มีก้น
หลังจากหลบหนีจากโลกเเห่งความจริง ตกลงสู่โลกเเห่งข้อมูลข่าวสาร หนังสือสารคดีต่างๆ ผมได้ตกลงไปในหุบเหวของวรรณกรรมที่ลึกไม่มีที่สิ้นสุด มองไม่เห็นก้นหลุม เเละมองไม่เห็นหนทางจะปีนออกไป
มันเเย่ตรงที่พอมีความรู้มาสักระดับหนึ่ง ก็หลงตัวเองคิดว่าเข้าใจสิ่งต่างๆมากพอ เเต่เเล้ววันหนึ่งก็ได้รับรู้ว่าจริงๆเราอาจจะไม่ได้รู้อะไรเลย
Dunning-Kruger effect มันต้องใช่เเน่ๆ
เมื่อเชื่อมโยงสิ่งต่างๆได้เริ่มจับต้นชนปลายภายในโลกของปัจเจกบุคคล เราก็สามารถรับรู้เเละเข้าใจสิ่งต่างๆได้ในกรอบความรู้ผ่านทัศนคติที่เรามองโลก
บางคนว่าทัศนคติเปลี่ยนได้ยาก เเต่โดยส่วนตัวผมกลับรู้สึกว่าไม่ใช่โดยสิ้นเชิง
ตัวผมเองนั้นไหลไปตามน้ำ บ้างก็พัดพาของบางอย่างที่ถูกใจติดตัวไปด้วย บ้างก็ทำของบางอย่างหล่นหาย เเละบ้างก็หลงไปติดอยู่ในหลุมลึกเกิดเป็นกระเเสน้ำวนของความคิดที่ตีรันฟันเเทงกันเองในหัว กว่าจะหลุดออกมาได้ทำเอาชีวิตกระสับกระส่าย
cr. สมองกลวง
พอถึงจุดๆหนึ่งที่ตระหนักได้ว่าเราไม่รู้อะไรเลย ยิ่งทำให้เราต้องขนขวายเเสวงหามากขึ้น ซึ่งอาจจะมองว่าเป็นความสนุกของชีวิต หรือถ้ามองหันหลัง/ไปข้างหน้า อาจทำให้รู้สึกเคว้งคว้างไปซะอย่างนั้น
สำหรับผมที่กำลังหลงอยู่ในโลกของวรรณกรรม กำลังสนุกกับการปะติดปะต่อประสบการณ์ของตัวละคร ผนวกเข้ากับความทรงจำเเละกำลังจะเเปรเปลี่ยนเป็นตัวตนใหม่ของผมไปอีก
ผมเรียนรู้ว่าผมต้องการอะไรสักอย่างที่รู้สึกหลงไหลกับมันได้ในช่วงสั้นๆ เเละค้นหาสิ่งอื่นอีก ค้นหาไปเรื่อยๆ ทำให้ทุกช่วงเวลาเป็นช่วงที่น่าจดจำเเละมีความหมายเมื่อมองย้อนกลับมา ถึงเเม้จะรู้ว่าไอ้ความรู้สึกดีๆต่างๆที่เกิดขึ้น จะเป็นเเค่ผลลัพท์จากการผสานสารเคมีในสมองก็ตามที
P.S.1 ขอบคุณความคิดที่ผุดขึ้นก่อนนอน
P.S.2 Dunning-kruger effect อย่างเข้าใจง่ายๆครับ
โฆษณา