17 ต.ค. 2020 เวลา 08:49 • สิ่งแวดล้อม
สัญญากับคุณครูเอาไว้ว่าจะเล่าเมื่อวาน พอดีเมื่อวานน้องฝนเล่นงานทั้งวันเลยค่ะ
จะมาเล่าเรื่องก่อกองไฟตอนเข้าค่ายนะคะ รู้ไหมคะ ตอนไปเข้าค่าย เราต้องทำกับข้าวเอง ทั้งๆที่ไม่มีไฟฟ้า พอดีวันนั้นโชคร้ายที่สุดฝนตกพอดี รู้ไหมคะเพื่อนๆทุกคนหมู่เรา ไม่มีใครก่อกองไฟเป็นซะคน จากนั้นมีดิฉันคนเดียวที่ทำเป็น โชคดีที่สุดตอนนั้นเคยตามพ่อไปล่าสัตว์
แล้วพ่อบอกให้ทำกับข้าวในป่าบ่อยๆ เวลาฝนตกฟ้าร้อง เท่าไหร่ก็ต้องก่อกองไฟให้ติด ตอนนั้นยังนึกในใจเลยทำไมพ่อไม่ก่อเอง ทำไมพ่อถึงมาใช้เรา ตอนนั้นไม่คิดไม่ฝันจริงๆค่ะ วันที่ไปเข้าค่าย ทุกคนก่อกองไฟไม่เป็นถ้าเราทำไม่เป็นอะไรสักอย่าง ก็ไม่ได้ เราต้องเอาตัวรอดในป่า
ทุกคนหันหน้ามามองดิฉันเป็นตาเดียวกัน เพื่อนๆก็ถามว่านอกจากมึงคนเดียวแหละที่ทำได้ เราฝากความหวังไว้ กับมึงนะ เราก็ได้แต่คิดในใจว่าแค่นี้เองมันก็จิ๊บๆ เดี๋ยวทำให้เดี๋ยวขอไปอาบน้ำก่อนได้ไหม ก่อนนั้นก็อาบน้ำกลับมาร่างกายก็ไม่เหนียวใช่ไหมคะ ร่างกายสดชื่นมีไม้ขีดไฟ อยู่อันนึงที่หยิบที่บ้านไป โชคดีที่เอาติดตัวไปด้วย
ไม้ขีดไฟมันก็ชื้น ใช่ไหมคะ ถามเพื่อนๆทุกคนก็ว่ามีไม้ขีดไฟติดมาด้วยไหมเพื่อนๆได้ตอบว่าไม่ติดมาสักคน รู้ไหมคะ แล้วแก้ปัญหายังไง เอาไม้ขีดไฟ มาใส่ไว้ในเสื้อ ให้ได้ไออุ่น สักพักหนึ่ง แล้วก็นำออกมาก่อกองไฟ ถามเพื่อนๆว่ามีเช็ดชู่ไหม เพื่อนๆก็บอกว่ามีไม่เอาทิชชูนะเอาเฉพาะแกนทิชชู วันนั้นก็ได้ก่อกองไฟให้เพื่อนๆ สำเร็จสมบูรณ์
นี่แหละค่ะการที่เรามีประสบการณ์อะไรสักอย่าง เราอย่าได้มองข้ามมันเด็ดขาด บางครั้งยามจำเป็น หรือว่ายามฉุกเฉินเราสามารถเอาวิชานั้นมาใช้ได้ ทำให้เข้าใจพ่อมากขึ้นด้วย ตอนนั้นเคยอยู่ในป่ากับพ่อ ไม่มีอาหารสุก สุกเลย ดิฉันมักจะถามพ่อว่า ทำไมเราไม่ห่อข้าวสุกไปล่ะพ่อ
พ่อต่อว่า ห่อได้ลูก แต่พ่อไม่ห่อ ที่พ่อไม่ห่อ เพราะว่าพ่อมีเหตุผล หน้าที่ไม่มีข้าวสารเป็นหน้าที่ของพ่อ หน้าที่ไม่มีข้าวสุกเป็นหน้าที่ของลูก พ่อไม่อยากเลี้ยงลูก แบบเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ รู้ไหมคะเวลาก่อกองไฟไม่ติดให้พ่อช่วย พ่อได้แต่นั่งยิ้ม บางครั้งแทบจะร้องไห้ คิดในใจว่าพ่อไม่ต้องกินหรอก ถ้าอาหารสุก
อนุโลมให้นิดหน่อยหน่อยก็ไม่ได้ คิดในใจ แล้วมองพ่อแบบขอความช่วยเหลือ แต่พ่อก็ไม่ยอมช่วย ถ้าก่อไม่ติดก็อดเอานะลูก แต่จะอดได้ยังไงเนาะท้องมันก็ร้องจ๊อกๆ ในป่าไม่มีทั้งเงินไม่มีทั้งขนม ไม่มีอะไรให้กินเลย จำเป็นต้องก่อกองไฟให้ติด นี่แหละค่ะประสบการณ์ของดิฉัน
ต้องขอบคุณพ่อในวันนั้น ถ้าในวันนั้น พ่อไม่เข้มงวด ไม่สอนให้อดทน คงเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างที่คนอื่น เขาพูดจริงๆ ถึงมาวันนี้ แม้ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือปัญหาใหญ่ สามารถแก้ได้ ไม่เกินความสามารถ เมื่อก่อนสมัยวัยเรียนเป็นเด็กเกเร เวลาเจอคนครูดุหรือว่าตี
มักจะแก้แค้นคุณครูเป็นประจำ รู้ไหมคะวิธีแก้แค้นของดิฉัน ดิฉันทำอะไรบ้าง ชอบเอาหมามุ่ย ไปทาที่นั่งคุณครูค่ะ ตอนไปทา ก็ไม่มีใครเห็น วันที่อยากแก้แค้น จะไปโรงเรียนตั้งแต่เช้า ไม่มีใครรู้ใครเห็นด้วยไม่ทิ้งหลักฐาน อะไรไว้สักอย่างเลย เวลาคุณครูมานั่ง คุณครูก็คันก้นใช่ไหม คุณครูบอกว่าเออที่นั่งครูเป็นอะไรก็ไม่รู้ทำไมคันก้อนขนาดนี้
ที่แท้เป็นฝีมือศิษย์คนนี้ต่างหากเล่า เรื่องนี้ไม่กล้าเล่าให้คุณผู้ฟัง ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังด้วยกลัวลูกชายเอาไปเลียนแบบ ฮ่าๆๆโชคดีนะที่ลูกไม่ได้เล่นได้Blockdit ทำให้เขียนอะไรเล่าเรื่องอะไรง่ายขึ้น ขอจบเพียงแค่นี้ก่อนค่ะตกบกพร่องอะไรต้องขออภัยล่วงหน้าเลยนะคะ เพราะว่าความรู้อันน้อยนิด ที่ติดชีวิตของข้าพเจ้ามา เรียกว่าเล่าสู่กันฟังค่ะ
โฆษณา