18 ต.ค. 2020 เวลา 04:34 • ความคิดเห็น
น้ำที่เต็มแก้วแล้ว
จะเติมน้ำเข้าไปอีกก็ไม่ได้...
ภาพจากเจ้าจองเพจ
ทุกคนอาจจะคุ้นเคยกับประโยคข้างต้นแล้วเป็นอย่างดี..ว่าหมายความว่าอะไร
แต่วันนี้หนิงขอมากล่าวอ้างในประโยคดังกล่าวอีกครั้ง คงไม่ว่ากันนะจ้ะ
หลายครั้งเราเป็นคนไนึ่งที่ทำตัวเหมือนแก้ว
ที่เต็มไปด้วยน้ำ (เก่า) แล้ว
จยไม่สามารถที่จะรับน้ำ(ใหม่ๆ)เข้าไป
ทุกคนก็คงจะมองเห็นว่ามีคำพูดว่า
คนสมัยนี้
คนสมัยโน้น
คนสมัยนั้น
หรือเด็กสมัยนั้น
เด็กสมัยนี้
มักจะเคยได้ยินคำกล่าวเหล่านี้เป็นเนื่องๆ
และในวันนี้ทำให้เราได้เห็นอะไรที่แตกต่างกันมากเหลือเกิน จนหลายครั้งก็อดหวั่นใจไม่ได้ว่าคนหลากหลายของวัยนั้น จะสามารถอยู่ร่วมกันได้หรือไหม และทำอย่างไร
สิ่งหนึ่งอยากกล่าวในบทความนี้คือ
เราทุกคนไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน แบบไหน
เราทุกคนควรทำตัวเอง (คือใจข้างในของเรา)
ให้เป็นคนใจกว้างขวาง
เสมือนว่าแก้วน้ำที่ยังมีพื้นที่หลงเหลือไว้ให้เติมสิ่งใหม่ๆ หรือความคิดเห็นที่แตกต่างจากผู้อื่น เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ที่แตกต่างจากชุดความคิดที่เรามีอยู่
สิ่งหนึ่งที่ได้ยกเรื่องแก้วน้ำที่เต็มและไม่เต็มนั้นก็เปรียบได้กับจิตใจ ความคิด ตรรกะของเราที่เราจะไม่เต็มไปกับชุดความคิดที่เรายึดถือมาแต่ก่อนจนไม่สามารถจะเปิดรับชุดความคิดใหม่ๆ
เพื่อจะเข้าใจในความคิด จิตใจของคนทุกรุ่นทุกกลุ่ม เพื่อจะให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปในทางที่สันติวิธีที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้
จริงๆวันนี้ตั้งใจพิมพ์ไม่มาก 555
แต่พอได้พิมพ์เท่านั้นก็ออกจะยาวไปสักหน่อย
แต่ขอย้ำอีกครั้งนะคะ
บทความนี้ เน้นย้ำเรื่องการเรียนรู้ และยอมรับฟังกันมากขึ้นด้วยใจรัก ไม่มีอคติ จะนำมาซึ่งการคุยในภาษาเดียวกัน หัวใจเดียวกัน
จะทำให้เราได้ไปนั่งอยู่ในใจของคนตรงหน้าได้อย่างหน้าอัศจรรย์ใจนะคะ
มองว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้เราเข้าใจกันไม่ได้ หากเราต่างคนต่างเป็นแก้วที่พร้อมจะเติมสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ
- คำหนุนใจ -
หายไปนานไม่ว่ากันนะคะ คิดถึงทุกคนค่ะ
ไปทำเพจกินๆเที่ยวๆเลยไม่ได้มาทางนี้เลยทั้งๆที่ใจอยากเขียนมากๆ555
โฆษณา