19 ต.ค. 2020 เวลา 07:06 • ประวัติศาสตร์
การขยายเขตอิทธิพลของชาติมหาอำนาจในศตวรรษที่ 19-20
ในยุคล่าอาณานิคม ชาติมหาอำนาจต่างออกล่า ขยายอำนาจเข้าไปยังดินแดนต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยชาติมหาอำนาจ มีกองทัพ มีกำลังทางทหารและเศรษฐกิจที่เหนือกว่าชาติที่ตนเข้าควบคุม
การขยายอิทธิพลของชาติมหาอำนาจที่โด่งดัง ก็เช่นการขยายอิทธิพลของสหราชอาณาจักรและรัสเซีย เข้าไปยังอาณาจักรเปอร์เซียในต้นศตวรรษที่ 20 และการที่ชาติมหาอำนาจกว่าแปดชาติขยายอิทธิพลเข้าไปในจีนในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
แปดชาติที่ขยายอิทธิพลเข้าไปในจีนนั้น ประกอบด้วย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี เยอรมนี อิตาลี รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
การขยายอำนาจเข้าไปในจีนนี้ หลักๆ คือเรื่องของการค้า รวมทั้งการบังคับให้จัดเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำและเปิดเขตการค้าเสรีในดินแดนจีน
นอกจากนั้น ประเทศเหล่านี้ยังได้รับสิทธิในการตั้งสถานทูตในปักกิ่ง และคนของชาติทั้งแปดนี้ก็มีสิทธิทุกอย่างในดินแดนจีน
เมื่อถูกกดขี่ ชาวจีนจำนวนมากก็ไม่พอใจ และได้เกิด “กบฎนักมวย (Boxer Rebellion)” ในปีค.ศ.1899 (พ.ศ.2442) โดยเหล่านักมวยมีจุดประสงค์ที่จะกำจัดต่างชาติให้หมดไปจากแผ่นดินจีน
กบฎนักมวย
ในทีแรก เป้าหมายของเหล่ากบฎคือการโค่นล้มผู้ปกครองแห่งราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นชาวแมนจู
หากแต่ภายหลัง กบฎและราชวงศ์ก็ได้จับมือกัน ต่อต้านอำนาจของต่างชาติ โดยได้ทำการล้อมสถานทูตของชาติมหาอำนาจในปักกิ่ง หากแต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อกองทัพเรือของชาติมหาอำนาจ หลังจากต่อสู้มากว่าสองเดือนเต็ม
นอกจากนั้น ลัทธิการล่าอาณานิคมหรือขยายอิทธิพลของชาติมหาอำนาจ ยังได้ขยายเข้าไปยังหลายๆ ชาติในเอเชีย รวมถึงแอฟริกา และหลายๆ ชาติ ก็ยังคงเหลือร่องรอยของอิทธิพลของชาติมหาอำนาจมาจนถึงทุกวันนี้ เช่น ภาษา สถาปัตยกรรม วัฒนธรรมบางอย่าง
ในทุกวันนี้ การล่าอาณานิคม ไม่ใช่การล่าโดยใช้กำลังทหารเข้ายึดครองประเทศดังเช่นในอดีต หากแต่เป็นการขยายอิทธิพลทางด้านวัฒนธรรม สิ่อบันเทิงต่างๆ รวมทั้งสินค้าของประเทศนั้นๆ
โฆษณา