22 ต.ค. 2020 เวลา 12:13 • สุขภาพ
เคาะแล้ว... ลดเวลากักตัวโควิดเหลือ 10 วัน
ทำ ETA กักตัวอยู่แต่เที่ยวได้แบบจำกัดพื้นที่
🛬✈️⛵️🏝️🌅🏨
วันนี้ (22 ตุลาคม) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ ภายใต้นโยบายการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) เป็นครั้งแรก โดยคณะกรรมการประกอบด้วย ปลัดกระทรวง อธิบดี และผู้บริหารจาก 3 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม
นายอนุทิน กล่าวภายหลังประชุมว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาใช้บริการด้านการส่งเสริมสุขภาพ ทั้ง การลดจำนวนวันกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วันตามข้อเสนอของกรมควบคุมโรค, การดำเนินงานสถานกักกันในสนามกอล์ฟ (Golf Quarantine) ซึ่งเป็นสถานกักกันในกิจการเพื่อสุขภาพกลุ่มที่ 3 ต่อจากกลุ่มสปาทางการแพทย์ รีสอร์ทเพื่อสุขภาพ สปารีสอร์ท และกลุ่ม Long Term Care สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งมีชาวต่างชาติให้ความสนใจจำนวนมาก
โดยมีมาตรการเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา คือ ต้องมีการนัดหมายจองสถานที่ล่วงหน้า มีผลตรวจปลอดเชื้อโควิด 19 ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง ระหว่างกักตัว 14 วัน มีการตรวจคัดกรอง 3 ครั้ง จัดระบบการเล่นกอล์ฟ ต้องยึดหลักเว้นระยะห่าง การทำความสะอาดยานพาหนะ อุปกรณ์ และสถานที่ คาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 1 แสนบาทต่อราย
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบการท่องเที่ยวแบบ Exclusive Travel Area (ETA) โดยให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกักกันตัวในพื้นที่เฉพาะ (Area Quarantine) และสามารถท่องเที่ยวในช่วงเวลากักตัว 14 วัน ได้ในเส้นทางที่กำหนด ซึ่งจะนำร่องในจังหวัดท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ 6 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงราย บุรีรัมย์ สุราษฎร์ธานี และกระบี่
ทั้งนี้จะคัดเลือกนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศหรือเมืองที่มีความเสี่ยงต่ำ มีระบบการจัดการระบาดของโรคโควิด 19 ที่ดี มีผลการตรวจว่าปลอดเชื้อโควิด 19 ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง ผ่านการกักกันตนเองที่บ้านก่อนเดินทางในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อถึงประเทศไทยมีการคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อโควิด 19 จำนวน 3 ครั้ง โดยจะจัดให้มีสายการบินตรงไปยังพื้นที่ มีระบบ Seal นักท่องเที่ยวและกำหนดเส้นทางท่องเที่ยวไว้ เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการในจังหวัด ที่พัก ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยว สถานพยาบาลต้องความพร้อมในการรักษา และมีระบบการติดตามตัว
รวมทั้งเห็นชอบหลักการเปิดสนามบินนานาชาติและสนามบินในประเทศเพิ่มเติม จำนวน 17 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (ระยอง-พัทยา) ท่าอากาศยานสมุย ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานตราด ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี ท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานขอนแก่น ท่าอากาศยานกบินทร์บุรี ท่าอากาศยานพิษณุโลก ท่าอากาศยานแม่สอด ท่าอากาศยานระนอง ท่าอากาศยานนครพนม ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ และท่าอากาศยานหาดใหญ่
เปิดด่านทางบกเพิ่ม 2 แห่ง ได้แก่ ด่านบ้านแหลม และด่านบ้านหาดเล็ก เพื่อมาจังหวัดจันทบุรี และด่านทางน้ำ 2 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรีและระยอง และท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง เพื่อรองรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลด้วยโรคอื่นและเข้ามาท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยให้เปิดศูนย์บริการข้อมูลสุขภาพ (Counter Service) ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยและผู้ติดตามชาวต่างชาติ
สุดท้ายได้เห็นชอบการเตรียมจัดงาน Thailand Health Expo เพื่อแสดงศักยภาพของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทั้งในรูปแบบ Virtual และ on site ตลอดจนการพิจารณาให้จัดหาสายการบินเพิ่มเติม เพื่อเตรียมรับผู้ป่วยและผู้ติดตามประมาณ 2700 ราย เดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลใน Alternative Hospital Quarantine โดยทั้งหมดจะเสนอ ศบค.เพื่อพิจารณาต่อไป
เที่ยวละข่าว
โฆษณา