1:ทำไมถึงใช้ วัคซีนโปลิโอแบบหยอดมากกว่าแบบฉีด มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร
_วัคซีนชนิดหยอดเป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนแอลง จนไม่สามารถทำให้เกิดโรคได้ โดยการหยอดทางปากลงไปลำไส้กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และมีการขับถ่ายออกไป กระจายสู่ชุมชน เมื่อมีการสัมผัสในชุมชน ก็สามารถทำให้เกิดภูมิคุ้มกันในวงกว้างในชุมชน เหมาะสำหรับงานการสร้างภูมิคุ้มกันในวงกว้าง ขนส่งง่าย ดูแลง่าย แต่หลังจากมีการให้ไปหลายล้านครั้งพบว่า เชื้อที่ถูกขับออกไปบางส่วนมีเวลาที่จะปรับตัวเองให้แข็งแรงขึ้นก่อให้เกิดอาการแบบเดียวกับตัวเชื้อเดิม ขณะวัคซีนแบบฉีดผลิตจากเชื้อที่ทำให้ตายแล้ว
กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เฉพาะคนและไม่ทำให้เกิดโรค/อาการแบบวัคซีนที่ใช้หยอด
2:ทำไมต้อง เปลี่ยนวัคซีนจากแบบหยอดจากชนิด 3เชื้อ(trivalent)เป็นแบบ2เชื้อ(bivalent)หลังจากกำจัดเชื้อโปลิโอไปได้แล้ว 1 หนึ่งสายพันธุ์
_ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นที่พบอาการแบบโปลิโอในวัคซีนชนิดหยอด ส่วนใหญ่เป็นจากสายพันธุ์ที่2 ที่กำจัดได้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมี่เชื้อนี้ในวัคซีนอีก
3:รับวัคซีนโปลิโอแล้วมีภูมิคุ้มกันได้นานเท่าไหร่
_มีการศึกษาในกลุ่มชาวเอสกิโมซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลพบว่า จากการติดตามหลังได้รับวัคซีน ยังพบยังมีภูมิคุ้มกันอยู่ถึง 40 ปี แต่โดยเฉลี่ยพบว่ามีภูมิคุ้มกันได้นาน 18 ปี ถ้าต้องเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง แนะนำรับวัคซีนกระตุ้นก่อนเดินทาง
4.ใช้เกณฑ์ใดตัดสินว่าพื้นที่/ประเทศนั้นปลอดจากโรคโปลิโอ
_ประเทศหรือพื้นที่ใดที่จะได้รับการประกาศว่าไม่มีโรคโปลิโอแล้วจะต้องไม่พบผู้ป่วยโปลิโอในพื้นที่นั้นต่อเนื่องเป็นเวลามากกว่าสองปี
5.ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเชื้อโรคที่มนุษย์สามารถเอาชนะด้วยวิธีกำจัดให้สูญพันธุ์จากวัคซีนให้หมดไปจากโลกนี้ ( แต่ยังมีเก็บเชื้อไว้ในห้องlab)จนถึงปัจจุบันนี้คือ
5.1 ฝีดาษ(smallpox) พฤษภาคม 1980
5.2 เชื้อโปลิโอสายพันธุ์ที่2(WPV2) 20 กันยายน 2015
5.3 เชื้อโปลิโอสายพันธุ์ที่3(WPV3) 23 ตุลาคม 2019
6. ยุทธศาสตร์การทำงานกำจัดโปลิโอล่าสุดในปี 2019_2023 มีอะไรแตกต่างจากแบบเดิมที่ผ่านมา
_ มีการเน้นที่จะกำจัดเชื้อโปลิโอสายพันธุ์ที่1(WPV1)ร่วมกับกำจัดการเกิดโรคที่เกิดจากการใช้วัคซีน (circulatory vaccine derived polio)ไปพร้อมกัน