25 ต.ค. 2020 เวลา 06:54
💵 “ซื้อประกันลดหย่อนภาษี แบบสั้นหรือยาวดี?”
เวียนมาถึงอีกครั้งแล้วครับ “เทศกาลลดหย่อนภาษี”
หนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ใช้ลดหย่อนภาษีที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด คงจะหนีไม่พ้น “เบี้ยประกันชีวิต” และยังเป็นสิ่งแรกๆที่ใครๆที่จะต้องเสียภาษีนึกถึง
📌 มาทบทวนสิทธิ์กันสักหน่อยนะครับว่าในปัจจุบันเราสามารถใช้สิทธิ์ได้สูงสุดเท่าไหร่กันบ้าง
👉 เบี้ยประกันชีวิตแบบตลอดชีพและแบบสะสมทรัพย์
ใช้ลดหย่อนได้เต็มจำนวนเบี้ยประกัน สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
👉 เบี้ยประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked)
ใช้ลดหย่อนได้เฉพาะค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายตามเงื่อนไขของแต่ละแบบ จำนวนเงินที่นำไปลงทุนไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
👉 เบี้ยประกันแบบบำนาญ
ใช้ลดหย่อนได้ 15% ของรายได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท หากไม่มีเบี้ยประกันชีวิตเลยก็สามารถใช้ในสิทธิ์ลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต 100,000 บาทได้
👉 เบี้ยประกันสุขภาพ
ตั้งแต่ปี 2563 เราสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพได้สูงสุด 25,000 บาท และไม่เกินเมื่อรวมกับส่วนของเบี้ยประกันชีวิต แต่ไม่ใช่กับเบี้ยปะกันสุขภาพทุกรายการ ลดหย่อนในส่วนไหนได้บ้างอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/243998025794552/posts/760079614186388/
📌 แล้วจะเลือกแบบประกันที่สั้นหรือยาวดี? ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการทำงานและความมั่นใจในสุขภาพของแต่ละคน
👉 ระยะเวลาที่ยังคงทำงานต่อ
ระยะเวลาของการชำระเบี้ยประกันควรสอดคล้องกับระยะเวลาที่ยังคงต้องทำงานต่อ เพราะเมื่อยังมีรายได้ก็อาจยังต้องใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ทำครั้งเดียวสามารถใช้ได้ยาวๆ
👉 สุขภาพในอนาคต
การซื้อประกัน นอกจากต้องใช้เงินในการชำระเบี้ยแล้ว ยังต้องมีสุขภาพที่บริษัทประกันสามารถยอมรับได้ หากมั่นใจมากๆว่าต่อไปจะยังคงมีสุขภาพที่ดี ผลตรวจสุขภาพต่างๆจะยังปกติ ก็สามารถเลือกแบบที่ระยะเวลาชำระเบี้ยสั้นๆได้ แต่ถ้าไม่มั่นใจก็ควรเลือกแบบที่ระยะเวลาชำระเบี้ยใกล้เคียงกับจำนวนปีที่ยังคงจะมีรายได้ต่อไป เพราะหากเลือกแบบที่ชำระเบี้ยสั้นๆ พอถึงเวลาที่ชำระเบี้ยครบแล้วก็ต้องซื้อประกันฉบับใหม่ หากสุขภาพเปลี่ยนไปไม่ปกติเหมือนเดิมก็อาจไม่สามารถซื้อประกันได้อีกต่อไป
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในและได้ประโยชน์ในการบริหารภาษีกันนะครับ
พัชภัคกร สุรรัตน์, FChFP
Financial Advisor
Fanpage : Financial สบาย สบาย
#Fanancialสบายสบาย
โฆษณา