ครบรอบ ๑๖ ปีเหตุการณ์ตากใบกับผู้ถูกฆ่าทั้งเป็น ๗๘ ศพ
ฆาตกรที่ลอยนวลในฐานะผู้คุมนโยบายคือ‘ทักษิณ ชินวัตร’
นับเป็นโศกนาฎกรรมภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่มีทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีพี่น้องคนไทยมุสิมจากเหตุการณ์ชุมนุมครั้งนี้ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ในวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗ เมื่อ ๑๖ ปีที่แล้วเสียชีวิตถึง ๘๕ คน โดยเสียชีวิตระหว่างเคลื่อนย้ายไปคุมขังข้ามจังหวัด ๗๘ คน จากการถูกจับถอดเสื้อมัดมือไพล่หลังนอนคว่ำหน้าซ้อนทับกัน ๓ ชั้นบ้าง ๕ ชั้นบ้างจนถูกกดทับขาดอากาศหายใจตาย อีก ๗ คน เสียชีวิตขณะสลายการชุมนุม ๖ คน และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ๑ คน ส่วนคนที่รอดชีวิตจำนวนหนึ่งต้องกลายเป็นคนพิการทุพพลภาพ นอกจากนั้นก็ยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง ตัวเลขที่เป็นทางการมีทั้งหมด ๗ คน
เหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้ปัญหาไฟใต้ไม่ยอมมอดดับมาจนทุกวันนี้ เหตุเกิดในสมัยรัฐบาลทักษิณ แต่ต้องมาจ่ายเงินเยียวให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ทุพลลภาพ ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมแล้วประมาณ ๗๐๐ ล้านบาท สมัยยิ่งลักษณ์จ่ายในนามศอ.บต. ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการอิสระที่ตั้งขึ้นมาในภายหลังเกิดเหตุการณ์ ส่วนสมัย พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นการประนีประยอมยอมความ โดยกองทัพบกเป็นผู้จ่ายค่าเยียวยาจำนวน ๔๒.๒ ล้านบาท
นอกจากนั้นในรอบ ๑๖ ปี เงินงบประมาณของแผ่นดินที่ทุกรัฐบาล ทั้งหมด ๘ รัฐบาล นายกรัฐมนตรี ๗ คนจัดสรรลงไปนับแต่ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้จุดไฟใต้ในต้นปี ๒๕๔๗ หลังเหตุการณ์ปล้นปืนที่ค่าย‘ปิเหล็ง’อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๔๗ อันเป็นที่มาของวาทกรรมทักษิณที่ว่า'โจรกระจอก' และจากนั้นลุกลามบานปลายจนเกิดเหตุการณ์กรือเซะ-สะบ้าย้อย มีคนตายไป ๑๐๘ ศพ ในเดือนเมษายนปีเดียวกัน จนกระทั่งเหตุการณ์ที่อำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาส รัฐทุ่มเงินลงไปแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๓๑๓,๗๙๒.๔ ล้านบาท (๓.๑๓ แสนล้านบาท) โดยตัวเลขนี้ไม่รวมกับงบฯกลางที่หน่วยงานต่าง ๆ เช่น ศอ.บต.,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กอ.รมน.ขอเบิกจ่ายเพิ่มเติมระหว่างปีอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะยุติลงเมื่อใด
มิหนำซ้ำ ในรอบ ๑๖ ปี ตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ จนถึงปีงบประมาณ ๒๕๖๓ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๒) มีประชาชนและเจ้าหน้าที่ตายไปแล้วมากกว่า ๔ พันศพ บาดเจ็บ ทุพพลภาพกว่า ๑ หมื่นคน
ตัวเลขกลม ๆ ดังนี้ เสียชีวิตจำนวนทั้งสิ้น ๔,๐๘๗ ศพ บาดเจ็บ ๑๐,๘๑๘ คน แยกเป็นกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ประกอบด้วย ตำรวจเสียชีวิต ๓๙๗ นาย บาดเจ็บ ๑,๖๓๕ นาย, ทหารเสียชีวิต ๕๘๗ นาย บาดเจ็บ ๒,๗๘๖ นาย, ครูเสียชีวิต ๑๐๙ ราย บาดเจ็บ ๑๓๐ ราย, เจ้าหน้าที่รถไฟ เสียชีวิต ๕ ราย บาดเจ็บ ๔๒ ราย, ผู้นำท้องถิ่น เสียชีวิต ๒๔๕ ราย บาดเจ็บ ๑๗๑ ราย, ผู้นำศาสนา เสียชีวิต ๒๓ ราย บาดเจ็บ ๒๗ ราย, ประชาชน เสียชีวิต ๒,๖๕๕ ราย บาดเจ็บ ๖,๐๒๐ ราย และคนร้าย (หมายถึงผู้ก่อความไม่สงบ) เสียชีวิต ๖๒ ราย บาดเจ็บ ๗ ราย อนึ่งตัวเลขทั้งหมดนี้ค้นข้อมูลมาจาก‘สำนักข่าวอิศรา’ (๔ มกราคม ๒๕๖๓)
และที่น่าสลดใจยิ่งไปกว่านั้น ผลพลวงของการก่อไฟใต้ด้วยน้ำมือของทักษิณ ชินวัตร มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบ ๑๖ ปี ส่งผลให้มี‘เด็กกำพร้า’ในพื้นที่เพิ่มจำนวนขึ้นมาก หากนับเฉพาะเด็ก(อายุไม่เกิน ๒๕ ปี)ที่สูญเสียพ่อหรือแม่ หรือทั้งพ่อและแม่จากสถานการณ์ความไม่สงบ พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น ๗,๒๙๗ คน แยกเป็น จังหวัดปัตตานี ๒,๖๕๗ คน, ยะลา ๑,๙๑๔คน, นราธิวาส ๒,๕๑๓ คน และสงขลา ๒๑๓ คน
สำหรับเหตุการณ์ที่ตากใบ ซึ่งวันนั้น ทักษิณ อยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาสด้วย และรับรู้เหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มจนจบ โดยเหตุการณ์เริ่มขึ้นในตอนเช้าวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗ ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ (สภ.อ.ตากใบ) มีชาวบ้านซึ่งเป็นคนไทยมุสลิมไปรวมตัวชุมนุมเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)ของอำเภอตากใบ ๖ คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวดำเนินคดีในความผิดฐานแจ้งความเท็จและยักยอกทรัพย์สินของทางราชการ อันมีผลสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านั้นในวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๔๗ ชรบ.ทั้ง ๖ คนถูกปล้นปืนต่างจุดในเวลาใกล้เคียงกัน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ตากใบสอบสวนแล้ว เชื่อว่า ชรบ.เหล่านี้ไม่ได้ถูกปล้น หากเป็นการเอาปืนไปให้ผู้ก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าวกับ ชรบ.ทั้งหกคน
ทางฝ่ายญาติพี่น้องและชาวบ้านเชื่อว่า ชรบ.ทั้ง ๖ คนไม่ได้กระทำผิด จึงได้ออกมาชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรม และร่วมกันละหมาดฮายัด (การขอพรต่ออัลเลาะห์)ให้แก่ ชรบ.ที่ถูกจับกุมคุมขัง การชุมนุมที่หน้า สภ.อ.ตากใบเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณหกโมงเช้ามีชาวบ้านไปรวมตัวกันไม่มากนัก แต่ภายหลังเมื่อมีการบอกกันปากต่อปาก ประกอบกับมีชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาเข้ามาสังเกตการณ์ด้วย ผู้ชุมนุมจึงมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า ๑ พันคน จนกระทั่งเวลาประมาณ ๙ โมงเช้า พล.ท.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี แม่ทัพภาคที่ ๔ (มทภ.๔) ในขณะนั้นเดินทางมาถึงที่ชุมนุม
เมื่อ พล.ท.พิศาล มาถึงที่ชุมนุม ได้ถามผู้ชุมนุมว่าต้องการให้ช่วยอะไรบ้าง ก็ได้คำตอบว่าผู้ชุมนุมต้องการให้ตำรวจปล่อยตัว ชรบ.ทั้ง ๖ คน หลังจากนั้น พล.ท.พิศาล จึงได้ตามตัว พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๙ (ผบช.ภาค ๙) มาร่วมพูดคุย ทำให้ได้ความว่าต้องขออำนาจศาลจังหวัดนราธิวาสจึงจะปล่อยตัว ชรบ.ทั้งหกคนออกมาได้ พล.ท.พิศาลจึงแจ้งผู้ชุมนุมว่าไม่มีอำนาจในการปล่อยตัว ต้องไปขอประกันตัวต่อศาล พร้อมทั้งประสานไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านให้ทราบขั้นตอนเรื่องการประกันตัว แต่ทางฝ่ายผู้ชุมนุมไม่ยอม ต้องการจะให้มีการปล่อยตัวทันที
เจ้าหน้าที่พยายามเจรจาให้ผู้ชุมนุมแยกย้าย แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งเวลาประมาณบ่าย ๓ โมงเย็นสถานการณ์เริ่มตึงเครียด กลุ่มผู้ชุมนุมใช้สิ่งของต่าง ๆ ทั้งขวดแก้ว ก้อนหิน เศษไม้ขว้างปาเข้าใส่เจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่หน้า สภ.อ.ตากใบ ชุดปราบจลาจลจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสเข้าผลักดันฝูงชน ทำให้สถานการณ์ยิ่งรุนแรงมากขึ้น พล.ท.พิศาล จึงมีคำสั่งให้สลายการชุมนุม โดย พล.ต.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๕ (ผบ.พล.ร.๕) เป็นผู้รับผิดชอบในการสลายการชุมนุม
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาไม่นานก็ควบคุมสถานการณ์ได้ ฝ่ายผู้ชุมนุมเสียชีวิตด้วยกระสุนปืนจากเจ้าหน้าที่รวมทั้งหมด ๗ คน โดยเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ๖ คน และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ๑ คน และหลังจากเสียงปืนสงบ เจ้าหน้าที่ได้บังคับให้ผู้ชุมนุมทุกคนหมอบลง แยกผู้หญิงออกจากพื้นที่ ส่วนผู้ชุมนุมผู้ชายจำนวน ๑,๓๗๐ คน ถูกสั่งให้ถอดเสื้อ มัดมือไพล่หลังนำขึ้นรถบรรทุกทหารนอนควํ่าหน้าทับช้อนกันสามถึงห้าชั้น ซึ่งรถบางคันบรรทุก ๕๐ คน บางคัน ๗๐ คน และบางคันก็บรรทุกถึง ๙๐ คน
เคลื่อนย้ายจากอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ไปควบคุมตัวที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ระยะทาง ๑๕๐ กิโลเมตร จากรถทั้งหมด ๒๕ คัน(ตามการให้การของ พล.ท.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี) โดยรถคันแรกออกจาก สภ.อ.ตากใบประมาณสี่โมงเย็น รถคันสุดท้ายนำผู้ถูกจับกุมทั้งที่มีชีวิตและเสียชีวิตลงจากรถเสร็จสิ้นประมาณตีสอง ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มเคลื่อนย้ายรวมแล้วประมาณ ๑๐ ชั่วโมง มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด ๗๘ ศพ นับเป็นโศกนาฏกรรมที่ฆ่าคนทั้งเป็นบนรถระหว่างการเดินทาง
สรุปแล้ว เหตุโศกนาฏกรรมที่อำเภอตากใบ เจ้าหน้าที่รัฐทั้งทหารตำรวจและฝ่ายปกครองรอดคดีหมดทุกคน เหตุเกิดในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่นักประชาธิปไตยเทียมซึ่งชอบแอบอ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิไตยยกยอเชิดชูกันเหลือเกินว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง และเรื่องราวเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ผมกำลังเขียนและเรียบเรียงรวมทั้งเป็นบรรณาธิการเพื่อจะจัดพิมพ์รวมเล่ม เป็นบันทึกประวัติศาสตร์ตามโครงการเดิมที่คิดร่วมกับอาจารย์โต้ง-ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ แต่อาจารย์โต้งได้มาด่วนจากไปเสียก่อนที่จะได้เห็นหนังสือเล่มนี้
หนังสือเล่มนี้คุณมานิต ศรีวานิชภูมิ ศิลปินช่างภาพอิสระ ในฐานะประธานมูลนิธิซิเนม่าโอเอซิส เป็นเจ้าภาพอาสามาเป็นผู้จัดพิมพ์โดยมูลนิธิซิเนม่าโอเอซิส เพื่อสานต่อให้หนังสือแล้วเสร็จตามเจตนารมณ์ของอาจารย์โต้ง-ผู้ที่พวกเราเคารพรัก หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า‘อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ : จาก สงครามยาเสพติด ถึง กรือเซะ-สะบ้าย้อย-ตากใบ’ เป็นหนังสือที่มีความสำคัญยิ่งแก่สังคมไทย ค้นข้อมูลเก็บรายละอียดจากเอกสารหลายพันหน้า ทั้งจากรายงานวิจัย ผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและและอัยการ รวมทั้งคำพิพากษาของศาลในคดีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ฯลฯ
เป็นหนังสือบันทึกประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงต่อประชาชนพลเรือนจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร เริ่มตั้งแต่นโยบายทำสงครามยาเสพติดขั้นเด็ดขาดในปี ๒๕๔๖ มีผู้บริสุทธิ์ถูกยิงทิ้งและฆ่าตัดตอนเกือบ ๓ พันคน จนถึงเหตุการณ์ กรือเซะ-สะบ้าย้อย และตากใบ ในปี ๒๕๔๗ ที่มีคนไทยมุสลิมเสียชีวิตไปอีกเกือบ ๓๐๐ ศพ ทั้งนี้ไม่นับรวมผู้นำชุมชน ผู้นำมุสลิม นักสิทธิมนุษยชน และนักเคลื่อนไหวภาคประชาสังคมที่ถูกอุ้มหายอุ้มฆ่าอีกจำนวนมาก
การละเมิดสิทธิมนุษยชนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากจากหลายเหตุการณ์ ถือว่าเข้าข่ายการก่อ'อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ'ภายใต้รัฐบาลที่มีทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่างปี ๒๕๔๔-๒๕๔๘ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
อาทิตย์ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๓
Cr ภาพจาก เอเฟพี : ผู้ชุมนุมประท้วงเหตุการณ์ตากใบถูกจับกุมหลังสลายการชุมนุมรวมทั้งหมด ๑,๓๗๐ คน ถูกบังคับให้ถอดเสื้อและมัดมือไพล่หลังก่อนถูกจับขึ้นรถคว่ำหน้าเรียงซ้อนทับเป็นชั้น ๆ ขนย้ายจากสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ไปยังค่ายอิงยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตตายบนรถเพราะขาดอากาศหายใจ ๗๘ ศพ, ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗
แค่บันทึกใว้ในหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทยครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
