27 ต.ค. 2020 เวลา 06:17
ของมัน "ตกยุคแล้ว" !!!
ขอนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปซักเล็กน้อย ก็ไม่ใกล้ไม่ไกลแค่ยุคเริ่มต้นของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่าแมคอินทอช
ก่อนหน้าที่จะมีแมคอินทอชเข้ามาในประเทศไทย ในช่วงนั้นผู้คนต่างก็ไปใช้คอมพิวเตอร์ระบบดอส ซึ่งเป็นระบบที่จะต้องใช้แผ่นสำหรับการเริ่มต้นการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมอะไรก็ตาม
ซึ่งการใช้งานค่อนข้างจะยุ่งยากซับซ้อน เนื่องจากจะต้องมีการป้อนคำสั่งต่างๆเข้าไป "เอาจริงๆนะทุกวันนี้ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ" ถึงแม้จะได้เรียนมาบ้างก็ตาม
เพราะอย่างนั้นความแพร่หลายของการใช้งานจึงจำกัดกลุ่มผู้ใช้ ประกอบกับความหลากหลายของการใช้งานยังไม่มากพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการของคนทั่วไป
แต่ต่อมาสักระยะ ก็มีคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า"แมคอินทอช" เข้ามาในประเทศไทย ในตอนนั้นเขาเรียกว่าระบบ Graphic user interface ซึ่งลักษณะการใช้งานจะใช้ระบบภาพหรือไอคอนที่เป็นกราฟฟิกติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้เป็นหลัก แถมมีไอ้หนูน่ารัก "Mouse"มาให้เราจับเล่นด้วย
การใช้งานก็ไม่ต้องมาป้อนคำสั่งต่างๆให้มันยุ่งยากวุ่นวาย แถมความหลากหลายในการทำงานก็เพิ่มมากขึ้น แม้แต่ในเรื่องการออกแบบดีไซน์ก็ยังสามารถทำ แม้จะมีขีดจำกัดในหลายๆเรื่อง
แต่เพราะด้วยราคาค่าตัวของคอมพิวเตอร์แมคอินทอชในขณะนั้น ค่อนข้างจะแพงถึงแพงมาก คนที่จะมีโอกาสได้สัมผัสจึงน้อยคน ยิ่งพูดถึงนักศึกษาในวัยเรียนที่ยังต้องขอเงินพ่อแม่ไปการเรียนด้วยนั้น ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ที่จะมีโอกาสได้สัมผัสแมคอินทอช
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาค่าเล่าเรียน ของผู้ที่ต้องการจะเรียนรู้การใช้งานคอมพิวเตอร์แมคอินทอช สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีผู้คนอยู่จำนวนหนึ่งที่พอจะมีศักยภาพ มีทุนทรัพย์ สมัครเข้าเรียนระบบปฏิบัติการของแมคอินทอช
ส่วนตัวผู้เขียน ไม่ต้องพูดถึงเลย รู้สึกว่ามันอยู่ห่างเกินเอื้อม ด้วยราคาค่าเรียนที่แตะหลักหมื่น
แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากสัมผัสถึงเทคโนโลยีที่ล้ำกว่าใคร ในวัยนั้นขอแค่ได้เข้าไปเรียนรู้ก็ถือว่าคุ้มค่ามากแล้ว จึงไปขอสมัครเป็นพนักงานฝึกหัด โดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทน (ประกอบกับเพื่อนที่ทำงานอยู่ได้มาชักชวน ต้องขอบคุณเพื่อนบอยจริงๆ)
ช่วงนั้นเป็นช่วงฟาดฟันกันระหว่างค่าย IBM (Dos) กับ Macintosh (graphic user interface) ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเลือกข้างไหน แต่ในภายหลัง ระบบปฏิบัติการของแมคอินทอช ได้รับการยอมรับและแพร่หลายไปทั่วโลก แต่ถึงอย่างนั้นผู้ใช้งานก็ยังเข้าถึงได้ยาก ด้วยราคาค่าตัวของฮาร์ดแวร์
จึงปรากฏระบบปฏิบัติการ windows ขึ้นมาแข่งขันกับระบบปฏิบัติการแมคอินทอช แต่รูปแบบการใช้งานคล้ายๆกัน คือใช้ระบบ graphic user interface เป็นหลัก ประกอบกับค่าตัวและค่าเรียนรู้ระบบ windows ถูกกว่า
ผู้เขียนยังจำได้ดี ในช่วงนั้นคุณพ่อของผู้เขียน ที่เคยผ่านยุคที่ต้องใช้เครื่องโรเนียว ใช้เครื่องพิมพ์ดีด เคยถามผู้เขียนถึงการทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้เขียนก็ได้ตอบกลับไปพร้อมกับลงท้ายว่า "ของมันตกยุคไปแล้ว" หมายถึงระบบที่พ่อเคยใช้งานมาก่อน
คราวนี้เราย้อนเวลากลับมา ณ.ปัจจุบัน
ผู้เขียนได้เข้าไปในห้างเพื่อซื้อสินค้า (คิดภาพตามด้วยนะ) เมื่อเลือกสินค้าเสร็จ ก็ถึงเวลาจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ เห็นน้องนักเรียนฝึกงาน มาทำหน้าที่แคชเชียร์คิดเงิน โดยใส่เครื่องแบบของโรงเรียนมาด้วย
ด้วยความชื่นชมในตัวเด็ก ที่ใช้ช่วงเวลาว่างมาทำงานหาเงิน
ผู้เขียนถามน้องเขาว่า
ผู้เขียน - ทำงานหลังเลิกเรียนเหรอ
นักเรียน - ค่ะ
ผู้เขียน - แล้วเข้างานกี่โมงล่ะ
นักเรียน - หลังเลิกเรียนก็จะมาขอเขาเข้าทำงาน
ผู้เขียน - อ้าวแล้วเขาจ่ายค่าแรงยังไงล่ะครับ
นักเรียน - เขาให้เป็นชั่วโมงค่ะ ชั่วโมงละ 60 บาท
ผู้เขียน - งั้นเราก็ต้องมาตอกบัตรเข้างานล่ะสิ
นักเรียน - พี่เค้าใช้สแกนนิ้วแล้ว ตอกบัตร "มันตกยุคไปแล้วค่ะ"
ผู้เขียน - .........ยิ้ม
พอได้ยินคำว่า"มันตกยุคไปแล้ว" ความทรงจำเก่าๆก็พุดขึ้นมา พร้อมกับรอยยิ้มของพ่อในตอนนั้น
มันทำให้คิดได้ว่า สิ่งใหม่ๆสำหรับผู้เขียนในตอนนั้น ที่ถึงแม้จะดูว่าล้ำสมัยกว่าใคร เมื่อวันเวลาผ่านไป มันก็จะล้าหลังตามกาลเวลา
วันนี้พ่อของผู้เขียนยังคงอยู่ แม้จะอายุย่างเข้า 86 ปี และท่านก็มักจะเล่าเรื่องราวเก่าๆ ในสมัยที่ผู้เขียนยังไม่เกิดให้ฟัง ทั้งประสบการณ์การทํางาน ยุคสมัยของสงคราม การเปลี่ยนแปลงต่างๆในสังคม นี่คือสิ่งที่ผู้เขียนยังไม่เคยพานพบ แต่มันจะวนกลับมาเกิดขึ้น เหมือนมันมีวงรอบของมัน แต่ที่สำคัญเหตุการณ์ในอดีตมันเป็นเหตุการณ์ที่ผู้เขียนยังไม่เคยได้สัมผัสหรือได้เรียนรู้ นี่คือสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าประสบการณ์ของผู้ที่ได้ผ่านโลกมาแล้ว...
โฆษณา