Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าร้านหนังสือ
•
ติดตาม
29 ต.ค. 2020 เวลา 10:52 • หนังสือ
รีวิวหนังสือ: ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ
หนังสือที่พาคนอ่านผจญภัยไปในโลกหนังสือแฟนตาซี พร้อมขบคิดเกี่ยวกับวงการหนังสือ และการอ่านหนังสือของคนรุ่นใหม่ไปตลอดทั้งเรื่อง
- ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ -
01. เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “คุณปู่ตายแล้ว” ทำให้ "นัตสึกิ รินทาโร่" หลานชายคนเดียวต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวกับมรดกที่เหลือไว้คือ ร้านหนังสือมือสอง ที่เขาไม่กล้าพอที่จะสานต่อแม้จะรักหนังสือมากก็ตาม วันหนึ่งเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นเมื่อเจ้าแมวส้มลายเสือปรากฎตัวขึ้นในร้านพร้อมกับภารกิจ 4 ด่านที่ต้องขอยืมพลังจากเขาให้เข้าไปช่วยชีวิตหนังสือ
02. ภารกิจแต่ละด่านเปรียบเทียบถึงวงการหนังสือ สำนักพิมพ์ รวมถึงพฤติกรรมการอ่านของคนยุคใหม่ วิธีการเปรียบเปรยทำได้ดี ทั้งยังแทงใจนักอ่าน หรือแม้กระทั่งผู้ผลิตหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บหนังสือไว้ในตู้โดยไม่เคยเปิดอ่าน หรือ การเลือกผลิตแต่หนังสือตามกระแสเพื่อหวังแต่ผลกำไร เป็นต้น
03. หนังสือเล่มนี้ชักชวนให้เราหันกลับมา "ละเมียดละไมกับหนังสือ" ไม่ใช่การอ่านให้ได้เยอะ แต่เป็นการอ่านให้ได้ความ เนื้อหาค่อนไปทางแฟนตาซีมาก ใครชอบแนวนี้ก็จะเพลิดเพลินไปกับการจินตนาการด่านต่าง ๆ เราเองไม่ถนัดแนวแฟนตาซีเลยต้องอ่านซ้ำหลายรอบเพื่อคิดภาพตาม แต่ก็เป็นการเปิดประสบการณ์การอ่านในอีกรูปแบบ
04. แน่นอนว่า โทระ ไม่ได้มาเพื่อช่วย รินทาโร่ ขายหนังสือแต่มันต้องการยืมพลังของรินทาโร่ไปทำภารกิจในเขาวงกตด่านต่าง ๆ เพื่อช่วยชีวิตหนังสือให้อยู่รอด ภารกิจแต่ละด่านที่รินทาโร่ต้องเจอ เปรียบเสมือนอุปสรรค และเรื่องท้าทายของวงการหนังสือในโลกแห่งความจริง ทั้งบางอย่างยังจี้โดยใจนักอ่าน หรือแม้กระทั่งผู้ผลิตหนังสืออีกด้วย
05. ขอยกตัวอย่างตอนที่ชอบในบทที่ 2 รินทาโร่ต้องไปเจอกับนักวิชาการที่กำลังทำวิจัยเรื่องการอ่าน เขามีแนวคิดที่อยากจะทำเรื่องย่อให้กับหนังสือดัง ๆ ทุกเรื่องในโลกนี้ เพื่อให้คนยุคใหม่อ่านหนังสือร้อยเล่มได้ในเวลาอันสั้น
“สมัยนี้นะ หนังสือเล่มไหนเข้าใจยาก ก็เสียคุณค่าในฐานะหนังสือแล้ว ใคร ๆ ก็อยากอ่านผลงานชิ้นเอกอย่างง่าย ๆ และสนุกสนาน เหมือนดาวน์โหลดเพลงคริสมาสต์ยอดนิยมมาทั้งอัลบั้ม อยากอ่านหนังสือเยอะ ๆ อย่างเพลิดเพลินและรวดเร็ว ถ้าเราไม่ตอบสนองความต้องการตามยุคสมัย ผลงานชิ้นเอกก็ไม่อาจอยู่รอดต่อ ฉันกวัดแกว่งกรรไกรเพื่อปกป้องชีวิตของหนังสือพวกนั้น” (หน้า 96)
06. ในหนังสือเล่มนี้แทรกประโยคเสียดสีพฤติกรรมการอ่านของคนรุ่นใหม่ไว้เต็มไปหมด ซึ่งเราเองก็ต้องยอมรับว่ามันมีส่วนจริงมากทีเดียว หนังสือเล่มใหญ่ ๆ หนา ๆ กลายเป็นสิ่งที่เราขยาดกลัว หรือซื้อมาเก็บเข้าชั้นไว้ให้รู้สึกว่ามีก็พอแล้ว แต่กลับไม่เคยได้เปิดอ่านเลยแม้แต่ครั้งเดียว เราชอบประโยคหนึ่งที่ผู้เขียนใส่ไว้ว่า
“การอ่านหนังสือก็คล้ายกับการปีนเขา”
“การอ่านหนังสือไม่ควรหวังแค่ความสำราญหรือความน่าตื่นเต้น บางครั้งเราต้องดื่มด่ำลงไปทีละประโยค อ่านเนื้อหาเดิมซ้ำไปซ้ำมา หรืออ่านช้า ๆ พร้อมกับกุมขมับไปด้วย งานที่ยากลำบากนั้นช่วยเปิดโลกทัศน์ให้เราแบบไม่ทันตั้งตัว เหมือนเวลาปีนถึงยอดเขาแล้วเห็นทิวทัศน์กว้างไกล” (หน้า 98)
07. ใช่เลย นั่นคือสิ่งที่นักอ่าน หรือ นักปีนเขาอย่างพวกเราต้องการ ความสนุกในการได้ไต่ขึ้นไปบนเขาที่แสนชัน แสนยากลำบาก ปลายทางอาจไม่ใช่เพียงจุดหมายเดียว ระหว่างทางต่างหากที่เป็นความสุข แวะชมความสวยงาม ก่อนจะเดินขึ้นไปสู่ยอดเขาอย่างสมบูรณ์
08. หนังสือเล่มนี้เหมาะกับทุกคนที่รักหนังสือ แม้จะมีเขาวงกตอีกกี่ร้อยกี่พันด่านถ้าเราเชื่อมั่นว่าเรารักหนังสือ เราอ่านหนังสือด้วยความสนุก เราก็จะเอาชนะทุกด่านไปได้ เช่นเดียวกับวงการหนังสือที่หลายคนมองว่าไม่น่าไปรอดในยุคนี้ แต่หากที่จริงแล้วหนังสือมีพลัง และหนังสือมีหัวใจ อย่างที่เจ้าโทระได้พูดไว้
09. พลังจากหนังสือมาจากนักอ่านทุกคน อย่าปล่อยให้พลังของมันหมดไป อย่าปล่อยมันโชว์ไว้ในตู้กระจกโดยไม่มีใครหยิบอ่าน หนังสือจะมีคุณค่าต่อเมื่อเราได้อ่าน แบ่งปันให้คนอื่น ๆ ได้อ่าน และได้นำมาขบคิด เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตหรือแก้ปัญหาในยามมืดมน
"ยามนั้นแหละหนังสือจะมีพลัง"
Book : ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ
Writer: Sōsuke Natsukawa
Translator: ฉัตรขวัญ อดิศัย
Publisher: Bibli
1 บันทึก
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย