28 ต.ค. 2020 เวลา 15:58 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
"การปฏิรูปการนับ" เลขโรมันจึงพ่ายแพ้แก่เลขฮินดูอารบิก
พูดถึง "อารยธรรมโรมัน" คงจะนึกถึงจุดศูนย์กลางอย่าง "กรุงโรม" ประเทศอิตาลี ที่มีสถาปัตยกรรมที่เป็น Landmark อย่าง "โคลอสเซียม" ซึ่งเป็นหนึ่งใน New7Wonders of the World เลยทีเดียว!!!
หรืออาจจะนึกถึงกองทัพที่แข็งแกร่งเหมือนในภาพยนตร์ บุกตีรันฟันแทงเพื่อนบ้านรอบข้าง จนอาณาจักรมีอาณาเขตตั้งแต่ประเทศตุรกียันโปรตุเกส พร้อมฟาดพื้นที่โซนแอฟริกาตอนเหนือ
เรียกได้ว่า ส่วนที่ติด "ทะเลเมริเตอเรเนียน" พี่แกเหมาหมดเรียบ!!!
ความยิ่งใหญ่ของโรมันในทวีปยุโรป สร้างอิทธิพลทางด้านวัฒนธรรมในทวีปนี้อย่างมากมาย ทั้งด้านการเมืองการปกครอง ศาสนา ภาษา สถาปัตยกรรม และที่สำคัญ...คือเรื่องของ "คณิตศาสตร์"
เดิมทีโลกเรายังไม่มีตัวแทนที่ใช้ระบุจำนวนหรือปริมาณของสิ่งของต่างๆ ซึ่งก็คือ "ตัวเลข (Number)" โดยในสมัยยุคหิน จะใช้การบากรอยขีดๆ ไว้บนกระดูกสัตว์ อารมณ์คล้ายๆ ขีดคะแนนที่ไว้ใช้นับคะแนนเลือกตั้ง
ต่อมาก็มาบากลงบนดินเหนียวหรือก้อนหินแทน และเมื่อตัวอักษรเกิดขึ้นในสมัยสุเมเรียนแห่งอารยธรรมไทกรีส-ยูเฟรติส ตัวเลขก็เกิดขึ้นด้วย!!!! ในรูปแบบของอักษรลิ่มหรือ "คูนิฟอร์ม" แล้วต่อมาอียิปต์ก็ได้ใช้อักษรภาพ หรือ "Hieroglyph" มาใช้เป็นตัวเลขในการนับเช่นเดียวกัน
แต่แล้ว...เมื่อภาคพื้นยุโรปถูกครอบครองโดยชาวโรมัน วัฒนธรรมของการนับก็เปลี่ยนแปลงไปโดยใช้ "เลขโรมัน" โดยมีสัญลักษณ์เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น!!! I = 1, V = 5, X = 10, L = 50, C = 100, D =500 และ M = 1000
"อาณาจักรที่ครองความยิ่งใหญ่นับหลายร้อยปี
ไม่แปลกอะไรที่คนยุโรปสมัยนั้นใช้เลขโรมันในการคำนวณ"
แต่แล้วทุกอย่างกลับต้องพังทลายโดยชายที่ชื่อว่า "ฟีโบนักชี"
Leonardo of Pisa หรือ Fibonacci เป็นนักคณิตชาวอิตาลี ที่ชีวิตในช่วงวัยเด็กต้องลอยละลองไปตามเรือสินค้า เพราะว่าครอบครัวของเขาทำอาชีพเป็นพ่อค้า อาชีพที่สุดแสนจะ HOT ในสมัยนั้น
ส่วนใหญ่คู่ค้าสำคัญจะเป็นชาติทางฝั่งอาหรับแถบแอฟริกาตอนเหนือ ฟีโบนักชีก็ได้ร่ำเรียนศาสตร์ทางด้านการคำนวณและการบัญชีอยู่ที่นั่น โดยชาติอาหรับในตอนนั้นใช้ "เลขฮินดูอารบิก" ในการคำนวณ!!!
"เลขฮินดูอารบิก" ถือกำเนิดครั้งแรกในอารยธรรมอินเดีย โดยตัวเลขประกอบด้วยเลข 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และเลข 0 ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มในหลักที่ขาดหายไป แล้วต่อมาชาวอาหรับก็ได้นำไปปรับใช้ และสุดท้าย การติดต่อค้าขายระหว่างยุโรปและอาหรับ ทำให้เลขชุดนี้เข้ามามีบทบาทในแผ่นดินยุโรปในที่สุด
ตอนแรกๆ คนยุโรปออกกฎ "ต่อต้าน" การใช้เลขอารบิกเพราะรูปร่างของตัวเลขมีความประหลาด และง่ายต่อการปลอมแปลงอย่างเช่นเลขศูนย์กลมๆ 0 สามารถเติมหางให้กลายเป็นเลข 6 หรือ 9 ก็ได้
และด้วยหน้าที่อันประหลาดของเลขศูนย์ ยิ่งทำให้คนไม่ยอมรับ เพราะเลขโรมันไม่จำเป็นต้องใช้เมื่อมีค่าในหลักบางหลักหายไป เช่นเลข 105 ก็จะเขียนแทนด้วย CV เป็นต้น
!!! แต่ฟีโบนักชีกลับเห็นข้อดีของมัน ด้วยความพิเศษของ "ค่าประจำหลัก" ของเลขฮินดูอารบิก เวลาเอาไปบวก ลบ คูณ หาร มันสามารถคำนวณได้ง่ายกว่าเลขโรมัน เอาเลขสองตัวตั้งต่อกันแล้วบวกกันตามตำแหน่งได้เลย
ความง่ายที่ทิ้งห่างเลขโรมันแบบไม่เห็นฝุ่น ฟีโบนักชีจึงเผยแพร่วิธีการคำนวณโดยใช้เลขฮินดูอารบิก ผ่านหนังสือ "Liber Abaci" หนังสือที่ทรงอิทธิพลไม่น้อยหน้า "The Element" ของยูคลิด หรือ "Arithmetica" ของไดโอแฟนทัส สองนักคณิตแห่ง Alexandria
สุดท้ายเลขโรมันของทางฝั่งตะวันตกก็ต้องยอมศิโรราบให้กับเลขฮินดูอารบิกของฝั่งตะวันออก ถึงแม้เราจะเห็นเลขโรมันตามสถานที่ต่างๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามหอนาฬิกา) ยังไม่สูญหายไปไหน แต่ทั่วโลกก็ยังใช้เลขฮินดูอารบิกเป็นมาตรฐานในการสื่อสารแล้วเชื่อมโลกของการคำนวณในแต่ละประเทศเข้าด้วยกันภายใต้ตัวเลขเพียงชุดเดียว...
...สิ้นสุดบทความที่ 2 ใน #Blockdit ของข้าพเจ้า...
หากอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับวิวัฒนาการของตัวเลขสามารถดูคลิปนี้เพิ่มเติม
คณิตศาสตร์เริ่มจากการนับ จริงหรือมั่ว??? | กำเนิดจำนวนและตัวเลข part 1
เลขโรมันยันฮินดูอารบิก | กำเนิดจำนวนและตัวเลข part 2
สืบประวัตินักคณิต EP.9 | ชุดตัวเลขสร้างโลก ลำดับ "ฟีโบนักชี"
ตามไปติดตามสาระดีๆ ทางคณิตศาสตร์ได้ที่ facebook และ youtube นะครับ
โฆษณา