🍡🍯เมืองน่าน : ทุนทางสังคม ทุนทางวัฒนธรรมและการพัฒนาเพื่อจัดการของชาวเมืองน่าน
✨🍃จังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่มีเรื่องราวทางการพัฒนาในทางประวัติศาสตร์มายาวนาน โดยการสั่งสมวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และประเพณีท้องถิ่น ที่มีการสืบทอดจากอดีตมาสู่ปัจจุบัน โดยตัวจังหวัดน่านเอง มีความเป็นอยู่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สูงมากและเห็นได้ชัดเจน จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาของจังหวัดน่าน ให้ลูกหลานชาวเมืองน่าน สืบทอดให้เป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่นให้อยู่บนพื้นฐานของการสืบสานและส่งเสริม วัฒนธรรมที่งดงาม ถือเป็นทุนทางสังคมและวัฒนธรรมที่มีคุณค่ามาก โดยทุนทางสังคมของตัวเมืองน่าน ลักษณะเด่นคือ ผู้คนและสถาบัน มีทุนทางปัญญา ในการทำอาหาร ความเป็นอยู่ ดนตรี และการแสดง มีศิลปะ การแต่งกายของชาวไทลื้อ ซึ่งวัฒนธรรมเป็นวิถีชีวิตของชาวเมืองน่านตั้งแต่อดีต เมืองน่านลักษณะเด่นอีกด้าน คือ ทุนทางทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก นำไปสู่การขับเคลื่อนพัฒนาภายในจังหวัด
🌷🌷มีเจ้าของเพจดังในจังหวัดน่าน ได้กล่าวไว้ว่า “เมืองน่านเป็นเมืองที่ยังไม่ตาย สิ่งที่ทำให้เมืองน่านยังขับเคลื่อนไปได้ คือ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์มาก” พอได้มาสัมผัสเอง รู้สึกแบบนั้นอย่างชัดเจน เพราะตัวเมืองน่านเอง ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม ผู้คนจึงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ช้าๆ เนิบๆ ตามสไตล์ของชาวพื้นเมือง ภาคเหนือ ถือว่าน่านเป็นเมืองที่น่ารักและน่าอยู่ ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาในจังหวัดน่าน ยิ่งเหล่านักเดินทางต่างใฝ่ฝัน ที่อยากจะเข้ามาสัมผัสกับอากาศของความเป็นธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์ มองเห็นถึงการจัดการที่ให้ความสำคัญถึงคุณภาพชีวิตของชาวเมืองน่าน มีความเป็นอยู่ที่ดีและมีอายุยืน เพราะมีอากาศที่บริสุทธิ์ และมีการบริการที่ดูแลสุขภาพ ให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และปลอดภัย ด้วยการอาศัยการมีส่วนร่วมของชาวเมืองน่านทุกคน 🍃🍃
📝🌿น่านเป็นเมืองที่เที่ยวได้ทุกฤดู ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะมาในฤดูไหนก็ไม่ผิดหวัง ถ้ามาในฤดูหนาวจะปลื้มเป็นพิเศษ เพราะจะได้สัมผัสอากาศที่หนาวเย็น บวกกับทะเลหมอกที่งดงามเหมือนท้องทะเล แต่หากมาในฤดูฝนจะพบกับธรรมชาติที่เขียวขจีน่ามอง เป็นมนต์เสน่ห์ของหุบเขาที่เรียงสลับซับซ้อนกันทอดยาวสุดสาย และยิ่งช่วงที่ชาวบ้านทำนาปลูกข้าว แล้วข้าวงอกงาม ใกล้เก็บเกี่ยว มีผลผลิตทุ่งนาเป็นสีเหลืองอร่ามงามตา ยิ่งเส้นทางปัว มุ่งหน้าบ่อเกลือ ที่มีการปลูกข้าวตามแนวเขา มีความสวยงามมาก ภูเขาแต่ละลูกของจังหวัดน่าน หากมาสัมผัสเอง จะรู้ว่ามีความสูง อลังการสุดๆ และวิวทุกอย่างคือดีที่สุด โดยการทำการเกษตรบนภูเขา ชาวบ้านต้องใช้ทักษะ และภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงการประยุทธ์ใช้ในการพัฒนาให้เหมาะสมกับสถานที่ โดยวิถีของความเป็นชุมชนที่ใกล้เคียงกับหุบเขา จะเป็นการใช้ประโยชน์ร่วมกัน
💜✨แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองน่าน ที่เป็นจุดหลัก เวลามาเยือน นั่นคือ วัดภูมินทร์ เป็นวัดที่มีความเด่น ชื่อเสียงโดดดัง ด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง กระซิบรัก บันลือโลก ของปู่ม่านย่าม่าน ซึ่งเป็นคำเรียกขาน ของผู้ชายและผู้หญิง ชาวไทลื้อในสมัยก่อน การที่กระซิบสนทนากัน จะเห็นได้ว่าตัวของผู้ชายมีการสักด้วยลวดลายดูน่าเกรงขาม ส่วนผู้หญิงจะแต่งกายด้วยชุดไทลื้ออย่างเต็มตามธรรมเนียม ทำให้เป็นภาพวาดที่ใครๆ ก็รู้จัก โดยภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมของล้านนาและลวดลายการแกะสลักที่มีความประนีประนอมงดงาม ถือว่าภาพวาดเป็นสัญลักษณ์ของเมืองน่าน ความงดงามที่ไม่เหมือนใครของวัดภูมินทร์ เป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย ภายในวัดนั้นจะมี พระอุโบสถทรงจตุรมุขที่มีบันไดนาคทั้งสี่ทิศ และข้างในประดิษฐานพระประธานจตุรพักตร์ไว้ 4 ด้าน ไม่ว่าจะเดินขึ้นบันไดทิศใด จะพบพระพักตร์ของพระพุทธรูปทุกด้าน
🍃🍦นอกจากภายในตัวเมืองน่าน ยังมีแหล่งท่องเที่ยว เป็นของดิบของดีชาวเมืองน่านเฉพาะ นั่นคือ บ่อเกลือ การเดินทางบนถนนหมายเลข 1081 เส้นทางปัวไปบ่อเกลือ มีการทำถนนอย่างลาดยางใหม่ พัฒนาความเจริญขึ้นมา ที่สอดแทรกวัฒนธรรมของตัวชุมชนด้วย แต่ในการไปสัมผัสบ่อเกลือ สิ่งที่รู้สึกผิดจากที่คิดคือ สัญญาณโทรศัพท์เป็น 4G และมีความรวดเร็ว มีตู้กดตังให้ใช้บริการ (ATM) โดยบรรยากาศในการเดินทางรอบๆ รอบล้อมด้วยธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ ป่าไม้สีเขียวขจี มองมุมไหนก็สวย และจะผ่านเส้นทางถนนที่ถูกเรียกกันว่า ถนนที่สวยที่สุดในประเทศไทย คือ ถนนลอยฟ้า โค้ง เลข 3 ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก แถมยังมีเพจดังๆ รีวิวไว้มากมาย ยิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสัมผัสความมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นแบบนี้
📸😍บ่อเกลือโบราณ เป็นหมู่บ้านที่มีขนาดเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขาที่สูงชัน ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย แต่แฝงด้วยแหล่งขุนทรัพย์ อย่างบ่อเกลือในภูเขา เป็นบ่อเกลือตามหลักฐานทางธรณีวิทยา ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าในบริเวณนี้มีการตกตะกอนของน้ำทะเล ในยุคเพอร์เนียน (290 ล้านปีมาแล้ว) ต่อกับยุคโทรแอสสิค (230 ล้านปีมาแล้ว) น่าจะมีชั้นเกลือหินใต้ดิน หรือโดมเกลือกินอยู่ในบริเวณนี้
เมื่อมีการขุดบ่อ บังเอิญไปพบน้ำเค็มใต้ดินทำให้การผลิตเกลือ จากบ่อน้ำเค็มเหล่านี้ ซึ่งชาวบ้านก็ยังคงรักษาและใช้ประโยชน์จากบ่อเกลือโบราณที่มีอายุ 800 ปี ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ซึ่งชาวบ้านเองมีกฎในการใช้บ่อร่วมกัน มีคุณตาท่านหนึ่งได้เล่าว่า ใน 1 ปี จะมีการบูชาบ่อเกลือ 3-4วัน ห้ามคนนอกเข้า และคนในห้ามออก ยานพาหนะต้องเอาไว้นอกหมู่บ้าน ห้ามขายเกลือต่อให้ราคาเป็นแสนก็ห้ามขาย ไม่งั้นหมู่บ้านจะพบแต่ความโชคร้าย น้ำในบ่อจะเอาออกมาให้หมด เหมือนเป็นการล้างบ่อใหม่ อยู่บนพื้นฐานความเชื่อ ที่มีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของคนในชุมชน สืบทอดจนกลายเป็นประเพณีที่เกี่ยวข้องกับบ่อเกลือ ซึ่งเกลือที่ได้นั้นคือ เกลือสินเธาว์ ที่นอกเหนือสิ่งอื่นใด ใช้ในการปรุงอาหาร ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์
🥬🥥เนื่องจากพี่เจ้าของสปาเท้าที่บ่อเกลือ ได้เล่าว่า ในอดีต 10กว่าปีก่อน เกลือมีราคาส่งทอดตลาดมีราคาต่ำ ไม่คุ้มค่ากับความเหนื่อยที่ต้องแลก และไม่คุ้มกับกระบวนการทำเกลือ เพราะชาวบ้านใช้วิธีการดังเดิม แบบโบราณหากจะทำต้องอดหลับอดนอน วิธีที่ชาวบ้านทำคือ ตักน้ำเกลือจากบ่อส่งผ่านตามลำไผ่สู่บ่อพัก แล้วต้ม 4-5 ชั่วโมง นำพายมาตักเกลือใส่ตะกร้าแขวนเหนือกะทะ จนน้ำในกะทะแห้ง แล้วตักน้ำบ่อเกลือมาใส่ใหม่ เกลือที่เรียบร้อยก็จัดแพ็กเกจใส่ถุงขาย แต่เมื่ออะไรๆเปลี่ยน เทคโนโลยีก็พัฒนา จึงได้พัฒนาแปรรูป เพื่อสร้างสรรค์ เพิ่มมูลค่าให้กับเกลือ ได้แก่ สครับขัดผิว สบู่ สปาสมุนไพร ให้นักท่องเที่ยวซื้อติดไม้ติดมือ ถือเป็นการเอาทุนจากทรัพยากรที่มีในชุมชนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด
🥑🍄ออกจากแหล่งบ่อเกลือยังสามารถไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวที่เด่นในด้านธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ ห่างจากบ่อเกลือโบราณ ประมาณ 8.4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที คือ หมู่บ้านสะปัน ในอำเภอบ่อเกลือ ของจังหวัดน่าน เป็นชุมนุมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อากาศเย็นสบาย เงียบสงบ โดยส่วนตัวประทับใจมาก คุ้มค่ากับการนั่งรถเข้ามา แต่หากไปในช่วงเทศกาลหรือวันหยุด นักท่องเที่ยวจะเยอะ บางคนจะนำสัตว์เลี้ยงมาด้วย น้องๆหน้าตาน่ารัก จนที่พักเต็ม ชุมชนมีรายได้และมีผลต่อการพัฒนาชุมชนและสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนเอง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเจ้าของโฮมสเตย์ ร้านขายของชำ ร้านขายน้ำ ร้านขายอาหาร ร้านขายหมูกะทะ และบริการเช่าจักรยาน บรรยากาศทุกอย่างคือ เรียกว่าธรรมชาติบำบัดที่แท้หรู พร้อมปล่อยชีวิตให้เดินไปได้อย่างช้าๆ แบบสบายใจ และไม่เร่งรีบในชีวิต
🥙🏡โฮมสเตย์ยอดฮิตที่เป็นที่รู้จักของเหล่านักท่องเที่ยว อย่างอุ่นไอมาง เป็นที่พักในใจของใครหลายคน ภายในยังมีคาเฟ่ที่บริการเครื่องดื่มและทางร้านยังมีเมนูเด็ด คือเมนูกาแฟดริฟ พร้อมกับห้องนอนแบบเต้นท์ริมน้ำแบบใกล้ชิดสุดๆ ให้นอนฟินฟังเสียงลำธารเต็มที่ ตัวของร้านจะเป็นเรือนไม้ตกแต่งสไตล์วินเทจ และทางร้านยังมีโซนที่ให้นักท่องเที่ยวนั่งตากลมชมวิวทิวทัศน์ หากคนนอกสามารถเข้ามาถ่ายรูปได้โดยต้องจำกัดเวลาตามความเหมาะสม เพราะให้เกียรติให้ความเป็นส่วนตัวแก่ลูกค้าที่มานอนพักในโฮมสเตย์ รูปแบบในโครงสร้างคือการนำเอาทรัพยากรที่มีในชุมชน ดึงเอาออกมาใช้ประโยชน์ เช่น เรือนไม้ สะพานไม้ไผ่ ที่เชื่อมไปยังหินก้อนหิน เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม
⛰🚲หากใครที่ชื่นชอบแนวพจญภัย ชอบการเดินแบบลุยๆ ที่ไม่ควรพลาดคือ น้ำตกสะปัน ระหว่างทางเดินจะพบกับสวนครัวของชาวบ้าน การปลูกผักที่ใช้ฟาง เป็นภูมิปัญญาดังเดิม ที่อาจหาดูได้ยากในพื้นที่กรุง ซึ่งน้ำตกตั้งอยู่ในหมู่บ้านสะปัน มีทั้งหมด 3 ชั้นใหญ่ ความสูงของน้ำตกชั้นที่ 1,2 และ 3 มีความสูงประมาณ 3,5,6 เมตร ตามลำดับ และมีน้ำไหลตกตลอดทั้งปี โดยชั้นแรกเป็นลำธารหิน มีน้ำเป็นแนวทอดยาว น้ำใสมาก ชั้นที่สองเป็นน้ำตก สูง 5 เมตร ส่วนชั้นสุดท้าย เป็นผาสูง 6 เมตร นักท่องเที่ยวจะนิยมไปเล่นน้ำตรงจุดนี้ เพราะมีสระขนาดใหญ่
✨🐠🌳ความสวยงามทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป่าไม้มีความร่มรื่นและสมบูรณ์ ถือว่าชุมชนเอง มีระบบการจัดการทรัพยากรที่ดี ชาวบ้านตระหนักในคุ้มค่าของป่าไม้ และจะสังเกตได้ว่าระหว่างทางเดินจะไม่พบเศษขยะเลย ถือว่าเป็นการร่วมไม้ร่วมมือของชุมชน การช่วยเหลือ และความสามัคคีของคนในชุมชน ทำให้รับรู้ ปฎิบัติร่วมกัน เป็นพลังขับเคลื่อนชุมชน เพื่อยกระดับเป็นหมู่บ้านที่ดียิ่งขึ้น
🙏🏻✨🌾อีกหนึ่งวัดที่ใครหลายคนได้ฟังแล้วจะเกิดความสงสัยว่าชื่อ ภูเก็ต แต่อยู่ใน อำเภอปัว จังหวัดน่าน ความจริงแล้วมาจากชื่อของหมู่บ้านที่ชื่อ เก็ต แต่วัดมีที่ตั้งบนเนินเขา เรียกกันว่าดอยหรือภู เลยได้ตั้งชื่อว่า วัดภูเก็ต ถือเป็นวัดที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม เห็นวิวล้อมอย่างกว้างขวาง ข้างล่างวัดเป็นทุ่งนาของชาวบ้านในชุมชน มีแม่น้ำไหลผ่าน ภายในอุโบสถมีรูปทรงล้านนาแบบประยุกต์ จิตรกรรมฝาผนัง 3 มิติ และเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อแสนปังที่ศักดิ์สิทธิ
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
