29 ต.ค. 2020 เวลา 09:50 • ไลฟ์สไตล์
คนเรามีสามหน้าจริงหรือ ?
ประโยดนี้เป็นประโยคที่ฝังใจกับผมมาตั้งแต่ เด็กๆ
มีครูคนนึงตอนผมเรียนช่วงมัธยมต้น บอกผมว่าคนเรามีสามาหน้าคือ
หน้าที่ หนึ่ง คือหน้าที่แสดงให้คนทั่วไปเห็น หน้าที่สองคือหน้าที่แสดงให้คนสนิทเห็น หน้าที่สามคือหน้าที่มีแต่เราที่เห็น
ผมไม่เคยเชื่อเลย ตอนนั้นเราเป็นเด็กมัธยม เราเล่นกับเพื่อน เรามีความสุข
มันคือตัวตนๆจริงๆของเรา มันคือหน้าจริงๆของเราที่แสดงให้ทุกคนเห็นแม้กระทั่งตัวผม มันก็เป็นหน้าแบบนี้มาตลอดนะครับ
จนผมขึ้น ม.ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย เริ่มรู้สึกเพื่อนๆ ห่างเหินไป
ต่างคนต่างโฟกัสในจุดมุ่งหมายของตัวเอง ต่างโฟกัสอนาคตของตัวเอง ทำให้เรามีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น
มันเริ่มทำให้ผมรู้สึกว่า หรือครูคนนั้นจะพูดถูกนะ เพราะตอนนี้เราเหมือนจะเห็นอีกหน้าขอตัวเองที่พึ่งแสดงออกมา ยิ่งตอน มหาลัยนี่ชัดเจนมาก เรียนหนักขึ้น สังคมใหญ่ขึ้น ตอนเข้ามหาลัยเราจะแสดงหน้าที่เป็นมิตรเพื่อเข้าหาคนอื่น
เพื่อให้คนอื่นยอมรับจนบางครั้งเราไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนกับคนที่มีแฟน แรกตอนจีบกันเราจะแสดงหน้าที่เป็นมิตร เพื่อให้เขายอมรับในตัวเรา
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราจะแสดงหน้าที่สองคือหน้าที่ใช้กับคนสนิท หน้าที่เป็นนิสัยจริงๆเราออกมา ถ้าใครรับได้ก็ไปกันต่อ แต่ถ้าใครรับไม่ได้ก็เลิกรากันไป
ผมเคยสงสัยว่าทำไมเราถึงไม่แสดงหน้านี้ให้ทุกคนเห็นตั้งแต่แรก จากสังเกตหลายๆคน ก็ได้ข้อสรุปว่า มันคงเป็นด่านคัดกรองคนที่จะเข้ามาในชีวิตเรา ทุกคนไม่ได้เกิดมามีนิสัยเหมือนกัน ทุกคนไม่ได้เกิดมาบนพื้นฐานชีวิตที่เหมือนกัน
บางคนถึงกับฝืนตัวเอง ฝืนในทางที่เป็นไปไม่ได้จนแสดงหน้าที่สามออกมา เป็นหน้าที่เราเท่าเป็นคนเห็น บางคนภายนอกร่าเริง แต่ภายในกลับเต็มด้วยความเจ็บปวดใบหน้าที่มีแค่คราบน้ำตา
เป็นหน้าที่ไม่อยากให้ใครเห็น เป็นหน้าที่อยากจะเก็บเป็นความลับตลอดไป
จนตอนนี้ผมทำงานแล้ว ผมนั่งย้อนกลับไปว่า ที่เราเคยบอกว่าตอนนั้นมีหน้าเดียว
มันจริงหรอ ?
หรือเพียงเพราะแท้จริงแล้ว เรามีสามหน้ามาตลอด เพียงแค่ตอนนั้น มันมีหน้านึงที่เราต้องแสดงเยอะกว่าเท่านั้นเอง
แล้วคุณละ คุณคิดว่าคนเรามีสามหน้าจริงไหม? แบ่งปันแชร์ให้เรารับรู้ด้วยนะครับ
โฆษณา