31 ต.ค. 2020 เวลา 00:00 • ความคิดเห็น
ความหมายของชีวิต
ออกจะโหลไปสักหน่อยหากจะพูดถึงการค้นหาความหมายของชีวิตในขณะปัจจุบันนี้
มนุษยชาติกำลังจะก้าวไปข้างหน้า นักวิทยาศาสตร์ ,นายทุน เเละรัฐบาลกำลังจะพาเราไปสู่สิ่งที่ไม่เคยถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ เเถมยังมีคำพูดที่ว่า
"ในยุคนี้น่ะ นักวิทยาศาสตร์ไม่ว่างพอจะมาตามความหมายของชีวิตหรอก"
สาขาวิชาต่างๆ ที่เราร่ำเรียนในระบบการศึกษา พากันปลุกฝังระบบความคิดเฉพาะทางอันนำไปสู่ทัศนคติเเบบต่างๆต่อสิ่งรอบตัว
ความหมายของชีวิตจึงไม่ได้มีคำตอบที่ตายตัว เเล้วเเต่ปัจเจกชนผู้โดดเดี่ยวจะนิยามเเละวิ่งตามหามันไปชั่วชีวิต(ถ้าทำได้สำเร็จน่าจะนอนตายตาหลับ)
ซูเปอร์สตาร์เเห่งวงการวิชาการที่ผมติดตามผู้หนึ่ง ได้ส่งอิทธิพลต่อผมอย่างยิ่ง
ความรู้มากมายที่ถูกบีบอัดคั้นออกเป็นหัวเชื้อทางความคิดของเขาผู้นี้ ชวนให้เป้าหมายบางประการของผมหล่นหาย กล้ามเนื้อน่องหยุดชะงัก เหมือนเป็นตะคริวเฉียบพลัน คงต้องทบทวนตัวเองซักหน่อยก่อนจะเดินต่อ
การเดินทางเพื่อหาความหมายของชีวิต
การหันหน้าเข้าหาศาสนาเพื่อเข้าใจชีวิต
การทำความดีเพื่อสนองเป้าประสงค์ของพระเจ้า
การมีชีวิตเพื่อคนอื่น
การมีชีวิตเพื่อตัวเอง
เมื่อโลกเข้ามาสู่ระบบเเบบใหม่ ระบบเมือง ระบบทุน กระทั่งระบบเครือข่าย ผนวกกับการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ที่ทำให้ "มนุษย์" เปลี่ยน
เเปลงอย่างสิ้นเชิง ไหนเลยจะเเนวคิดเเบบสมัยใหม่อย่าง "Post Modernism"
เราจำเป็นต้องหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เมื่อความเชื่อต่างๆ ถูกลบล้างด้วยวิทยาศาสตร์ เมื่อศาสนาไม่ใช่ความหมายของชีวิตอีกต่อไป
เราอาจไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อพระผู้เป็นเจ้า หรือสะสมผลบุญเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในภพหน้า สิ่งต่างๆเหล่านี้จึงผลักดันให้เราต้องหาที่ยึดเหนี่ยวใหม่ๆอยู่ตลอด(ยังไม่พูดถึงระบบ Marketing ที่เเนบเนียน)
ผมอดคิดไม่ได้ว่า ดนตรี กีฬา อาหารรสหวาน กระทั่งสื่อบันเทิงต่างๆ อาจจะจำเป็น* ต้องเกิดขึ้นมาเพื่อรับใช้มนุษย์ที่มีชีวิตยืนยาวเกินกว่าสิ่งมีชีวิตร่วมโลกเผ่าพันธุ์อื่นๆ เกินกว่าที่ควรจะเป็น
เรากำลังฝืนธรรมชาติในทุกรูปเเบบ เราไม่ได้มีชีวิตอยู่เพียงเพื่อสืบเผ่าพันธุ์ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า(มากเกินไป) ทำให้เราต้องไขว่คว้าหาสิ่งที่เรียกว่า "ความสุข" มากขึ้น
บรรพบุรุษที่เคารพรักของเราอาจจะใช้เวลาทั้งชีวิตเพียงเพื่อครอบครองปัจจัย4 เพื่อความอยู่รอด เเละดำรงเผ่าพันธุ์เท่านั้น เขาอาจจะมองเราอยู่เเล้วพูดว่า
"ในยุคสมัยของฉันน่ะ ไม่ว่างมาตามหาไอความสุขอะไรนั่นหรอก"
เมื่อมนุษย์เราเดินทางมาไกลชนิดที่จะหันหลังกลับก็ไม่ทันเเล้ว เราจึงต้องวิ่งตามหาอะไรบางอย่างที่อาจจะไม่มีอยู่ เพื่อหลอกตัวเองว่าเราจะต้องมีชีวิตเพื่อสิ่งนั้นสิ่งนี้ เเต่ก็จำเป็นต้องมี
นักปราชญ์ทั้งหลายต่างก็คิดกันไปต่างๆนาๆ เเต่จวบจนปัจจุบันก็ยังไม่มีคำตอบสำหรับคำถามที่เปลี่ยนเเปลงไปตามยุคสมัยเเบบนี้
ชีวิตอาจจะไร้ซึ่งเเก่นสารใดๆ อาจจะไม่มีความหมายอะไร ดังนั้นบางทีคำถามว่าความหมายของชีวิตคืออะไร หรือเรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร
เราอาจจะเเค่มีชีวิตเพียงเพราะเรายังมีชีวิต
เเล้วเราอาจจะบอกกับคนรุ่นต่อไป(ผู้ซึ่งอาจจะไม่ใช่ Homo Sapiens อีกเเล้ว)ได้ว่า
"ในยุคสมัยของฉันน่ะ ฉันใช้ชีวิตได้คุ้มสุดๆเเล้วละ"
(concept เกี่ยวกับ Valulism)**
ตั้งใจใช้ชีวิตนะครับ
#ขอบคุณความรู้ที่ถูกส่งต่อ เเละความคิดมากของผม
โฆษณา