31 ต.ค. 2020 เวลา 17:06 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องเล่าจากวัดป่า
วัดป่าศรีถาวรนิมิตร
ปกติเมื่อมีวันหยุดยาวเรามักจะหาที่ไปเสมอ จะใกล้หรือไกลก็ขอให้ได้ออกเที่ยว แต่โดยส่วนมากแล้วเลือกที่จะเข้าป่าซะมากกว่า
อย่างครั้งนี้ก็เช่น เราก็เลือกที่จะไปป่า แต่รอบนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะป่าที่เลือกไปไม่ใช่ป่าเหมือนทุกครั้ง แต่เป็น “วัดป่า” นั่นเอง
อาจดูเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็เคยเข้าวัด ถือศีล ปฎิบัติธรรมทั้งนั้นแหละ แต่สิ่งที่ไม่ปกติของการมาปฏิบัติธรรมครั้งนี้ คือ การเอาชนะ "ความกลัว" ของตัวเอง
เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มานั่งวิปัสนาในป่าช้ายามค่ำคืน ใกล้ที่บรรจุศพเพียงมือเอื้อมถึง จะว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบ ขาดสติ หรือผีผลักก็ตามแต่ แต่สุดท้ายขาทั้งสองข้างก็พามายืนอยู่หน้าหลุมศพจนได้
ถามว่ากลัวมั๊ย ถ้าตอบว่า “ไม่” ก็ดูจะเป็นการผิดศีลข้อ มุสา แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ มากันตั้ง ๑๐ คน ถ้าจะเจอดีก็คงไม่ใช่เราคนเดียวแน่ๆ
มือหนึ่งกำพระที่คล้องคอ นึกภาวนาใจ ข้าพเจ้าไม่มีเจตนาลบหลู่ มีเจตนาเพียงเพื่อฝึกสมาธิ และตั้งใจมาอุทิศส่วนกุศลให้
นั่งหลับตาหน้าหลุมศพ ในใจก็ภาวนาขอหลวงพ่อคุ้มครอง พอนึกได้ว่าเรามานั่งวิปัสนาเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของหลุมนี้ ก็เปลี่ยนจากเรียกหาหลวงพ่อ เป็นภาวนา พุธ-โธ แทน
ความกลัวค่อยๆ หายไป เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย ผ่านไปซัก 20 นาที เจ็บจี๊ดที่ต้นคอ มดเจ้าเวรเจ้ากรรม จะมากัดอะไรตอนนี้ พอสมาธิเราหลุดไปอยู่ที่มดเท่านั้นแหละ มาเลยจ้า...
มาเลยที่ว่าอย่าเพิ่งเข้าใจว่าเป็นผี แต่มันคือความเมื่อยล้า ขาชา เจ็บจนทนไม่ไหว เลยคิดว่าจะต้องขยับตัวเปลี่ยนจากขัดสมาธิ เป็บพับเพียบแทน
ก่อนจะลืมตาในหัวก็เริ่มคิดฟุ้งซ่านละ ถ้าลืมตา เราจะเจออะไรมั๊ยนะ แล้วถ้าเจอจะทำยังงัย
เอาวะ เป็นงันเป็นกัน ลืมตา และเปลี่ยนท่านั่งเท่านั้นแหละ โดนเต็มๆ เลยจ้า ...
โดนเต็มๆ นี่คือ โดนขวดน้ำดื่มวางไว้ข้างๆ ตัว ล้มดังโครมใหญ่ รู้สึกตกใจ แต่ที่ตกใจเพราะกลัวคนที่มาด้วยกันตกใจ แล้วเค้าจะเสียสมาธิไปด้วย แต่ทุกคนก็ยังคงอยู่ในความสงบ
จังหวะนี้เอง คนเสียสมาธิหนักขึ้นก็คือเรา จากตอนแรกไม่รู้สึกกลัว ความกลัวเริ่มกลับมาอีกครั้ง คราวนี้รู้สึกร้อนวูบๆ เหงื่อเริ่มไหล ใจเต้นแรง ขนแขนก็ stand up
พยายามทำสมาธิใหม่ หายใจยาวๆ เรียกสติกลับมาก่อนเตลิดไปไกลกว่านี้ และตั้งใจภาวนา พุธ -โธ อีกครั้ง
สุดท้ายเมื่อเริ่มมีสติ มีสมาธิ ความกลัวก็ค่อยๆ หายไปอีกครั้ง สักครู่ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ เตือนครบ 30 นาทีที่ตั้งใจไว้ แผ่เมตตา และค่อยๆ ลืมตา รู้สึกโล่ง และสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ประสบการณ์ครั้งนี้บอกให้เรารู้ว่า เราสามารถเอาชนะความกลัว ด้วยสติ และสมาธิ เมื่อมีสติ มีสมาธิใจก็สงบ พอสงบมันก็เลิกฟุ้งซ่าน เลิกมโน เลิกจินตนาการ
เมื่อไม่มีมโนภาพอันน่ากลัว ก็ไม่มีเหตุแห่งความกลัวนั้น
หลุมฝังศพที่ป่าช้าวัดป่าศรีถาวรนิมิตร
โฆษณา