2 พ.ย. 2020 เวลา 15:32 • หุ้น & เศรษฐกิจ
อด #กำไรมหาศาล หากพลาด ช่วงนี้! [ยู ศิระ]
หากคุณเพิ่งเริ่ม #ลงทุนหุ้น ช่วงนี้ ผมอิจฉาคุณ!
เพราะคุณอาจเป็น 1 ในคนที่อีก 10 ปีข้างหน้า..
ผู้คนจะเรียกคุณกันว่า #เซียนหุ้น
โอกาสทำ #กำไรมหาศาล กลับมาอีกครั้ง!
นับจาก #วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เมื่อปี 2551
หรือ “12 ปีก่อน”
และก่อนหน้า วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์
ก็คือ #วิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540
หรือ “11 ปี” ก่อนหน้า แฮมเบอร์เกอร์
www.facebook.com/HappyWithYuSira
และ “ตอนนี้” ที่เกิด #วิกฤตซ้อนวิกฤตๆๆๆๆๆๆ
(โควิด+เศรษฐกิจพัง+ธุรกิจเจ๊ง+คนตกงาน+การเมืองในประเทศ+สงครามการเมืองจีน-อเมกา+PM2.5)
ก็คือปี 2563
หรือ “12 ปี” หลังจาก แฮมเบอร์เกอร์
 
ผมก็ไม่รู้ ว่าคือ #ความบังเอิญ
หรือที่แท้ มันคือ #วงจรมหาวิกฤต
ที่ทุก 11-12 ปี จะมี “มหาวิกฤต” แบบนี้เกิดขึ้น
และทำให้หุ้น #ตกอย่างหนัก
 
ส่งผลให้ คนที่ “กล้า” ในยามที่คนอื่น “กลัว”
แล้วเข้าไปซื้อหุ้น ในช่วงที่ #ล่อแหลม แบบนั้น
พวกเขาต่าง #พลิกชีวิต ตัวเอง
จาก #คนธรรมดา กลายเป็น #มหาเศรษฐี
 
ตัวอย่าง คนไทยที่พลิกชีวิต จากมหาวิกฤต ก็เช่น..
“ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร”
#เซียนหุ้น ที่ได้รับฉายาว่า “วอร์เรน บัฟเฟตต์ เมืองไทย” นั่นเอง
โดยดร. #แจ้งเกิด ในช่วง “วิกฤตต้มยำกุ้ง”
 
ตอนนั้น แกอายุประมาณ 40 ปี
“ถูกเชิญ” ออกจากงาน..
ในขณะที่แก มีภาระต้องดูแล ภรรยา+ลูกสาว
 
โชคดี ที่แกเป็นคน #ประหยัด
เลยทำให้ตอนนั้น แกมีเงินเก็บอยู่ 10 ล้านบาท!
 
ที่จริง ก่อนหน้าวิกฤต ดร.แกก็มีประสบการณ์ ในตลาดหุ้นมาแล้ว
แต่แกไม่ได้ #ลงทุนหุ้นจริงจัง
สิ่งที่แกทำ ก็คือ ซื้อมาขายไปแบบ #นักเก็งกำไร
 
บางตัว “กำไร” บางตัว “ขาดทุน”
สุดท้ายก็เลย #เสมอตัว
ไม่ได้อะไร #เป็นชิ้นเป็นอัน จากหุ้น
 
แต่พอเกิด #วิกฤตต้มยำกุ้ง และ #ถูกเชิญออกจากงาน
แกเลยมีความจำเป็นต้อง #ลงทุนหุ้นเพื่อชีวิต
 
จากคนที่เคยเล่นหุ้นแบบ #ซื้อๆขายๆ
กลายเป็นมองหุ้นแบบ #ลงทุนทำธุรกิจ จริงๆ
 
จากเงิน 10 ล้าน แกมองว่า ถ้าเอาไปฝากธนาคาร ได้ดอก 3%
= แกจะมีเงินเลี้ยงดูตัวเอง และครอบครัว ที่เดือนละประมาณ 30,000 บาท
ซึ่งก็พอไปได้ แต่ลำบากไปหน่อย..
(ลูกสาวแกเรียน รร.อินเตอร์ ซึ่งค่าเทอมไม่ถูก)
1
แต่ถ้า เอาเงินไปซื้อหุ้น..
ซึ่งตอนนั้น #ราคาถูกมาก !!
จ่ายปันผลเป็น 10%
= แกจะได้ปันผลเดือนละ 80,000 กว่าบาท !!
โดยนั่งกระดิกนิ้วเท้า รอรับเงินอยู่บ้าน
#ไม่ต้องทำงาน
(สบายขึ้นเยอะ)
 
จากวันนั้น จนถึงวันนี้..
จากเงิน 10 ล้าน
ตอนนี้.. พอร์ตหุ้นแก มีมูลค่า “หลายพันล้าน” บาท
(ถ้ารวมพอร์ตหุ้นที่แกถือ ในชื่อภรรยา และลูกสาว
+พอร์ตหุ้น ที่แกไปลงทุนในเวียดนาม อาจแตะ “หมื่นล้าน”)
 
จากเงินปันผล ที่ได้รับเดือนละ 80,000 กว่าบาท
ตอนนี้.. แกได้ปันผล #วันละล้าน
 
คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มด้วย #เงิน และ #ความรู้ เท่า ดร.นิเวศน์
เพราะปลายทางของคุณ ไม่ต้องถึง #วันละล้าน
 
ที่จริง..
ถ้าคุณไม่ฟุ่มเฟือย หรือมีภาระไม่มาก
ปลายทางของคุณ ไม่ต้องถึง #ต้นทาง ของดร.นิเวศน์ ด้วยซ้ำ
เพราะไม่ต้องถึง 10 ล้าน ก็มี #อิสระทางการเงิน ได้แล้ว
 
ขอแค่คุณ..
1) เลือกหุ้นแบบ #ลงทุนทำธุรกิจ (ถ้าเลือกไม่เป็น ก็ซื้อกองทุนดัชนี)
2) ขยันหารายได้
3) อดออม
4) เอา #เงินเย็น ไปลงทุนหุ้น
5) ลงทุนหุ้นต่อเนื่อง 10 ปีขึ้นไป
6) ไม่สนใจการขาดทุนหุ้นระยะสั้น แต่มองภาพกำไรระยะยาว 10 ปีขึ้นไป
7) ยิ่งหุ้นตก ยิ่งอยากซื้อ ไม่ใช่อยากขาย
 
ที่สำคัญ..
คุณไม่ต้องรอ ให้ถึงจุดต่ำสุด แล้วค่อยซื้อ
เพราะ #ไม่มีใครรู้ ว่าจุดต่ำสุด คือตอนไหน?
(กลับไปดูข้อ 6)
 
แม้วิกฤตครั้งนี้ อาจไม่ได้ให้ผลตอบแทน เท่าวิกฤตครั้งก่อนๆ
เพราะบริษัทไทย โตจนมีขนาดใหญ่มากแล้ว
และเด็กเกิดใหม่น้อยลง เริ่มกลายเป็น #สังคมคนแก่
แต่โอกาสที่หุ้นตก 30-50% แบบนี้ #10ปีมีครั้ง
 
ดังนั้น ถ้าไม่อยากพลาด โอกาสทองแบบนี้
คุณควรรีบ #เตรียมความพร้อม และเริ่มลงทุนตั้งแต่ #ตอนนี้
 
ผมก็ไม่รู้ว่า #วิกฤตรอบหน้า จะเกิดขึ้นอีกทีเมื่อไหร่ ?
และ #วิกฤตรอบนี้ จะจบลงตอนไหน ?
 
แต่ถ้า “รอบต่อไป” เกิดขึ้นในอีก 11-12 ปีข้างหน้า
เหมือนสถิติ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
 
นั่นแปลว่า..
ถ้าคุณพลาด “รอบนี้” โอกาสครั้งต่อไป คุณต้องรออีกเป็น 10 ปีเลยทีเดียว..
1
ติดตามเพจ:
โฆษณา