ปีนบันได 1,400 ขั้น ไปชม “ถ้ำนาคา” ตำนานบริวารพญานาคถูกสาปกลายเป็นหินเฝ้าเมืองบาดาลบึงโขงหลง
เรื่องเล่าความเชื่อดั้งเดิม ผสมด้วยจินตนาการของผู้คนที่พบเจอ ผสานเป็นเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับ “พญานาค” อันเป็นที่มาของชื่อ “ถ้ำนาคา” ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ
“ถ้ำนาคา” หรือ “ถ้ำพญานาค” ที่เรียกเช่นนั้นเนื่องจากหินและผนังถ้ำดูคล้ายพญานาคหรืองูขนาดใหญ่นอนขดตัว ซ่อนตัวอยู่ในป่าบนภูเขาหินทรายภูลังกา โดยมีส่วนสำคัญ ๆ ทั้งส่วนหัว ลำตัว และเกล็ดพญานาค (ตามจินตนาการและความเชื่อของชาวบ้าน) ด้วยเหตุนี้จึงมีตำนานเรื่องเล่าเชื่อมโยงกับความเชื่อของถ้ำแห่งนี้ว่า ถ้ำนาคาคือพญานาคหรืองูยักษ์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน
การเดินทางเริ่มต้นจากวัดถ้ำชัยมงคล อ.บึงโขงหลง ซึ่งเป็นจุดทางขึ้นฝั่งน้ำตกตาดวิมานทิพย์ สามารถจอดรถในที่ของชาวบ้านได้ มีที่จอดรถเพียงพอ รวมถึงมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าต่างๆ รองรับนักท่องเที่ยวหลากหลาย สามารถเติมพลังก่อนเดินทางขึ้นเขาได้
ก่อนขึ้นเขา จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคิวการจองที่คนที่จะขึ้นต้องลงทะเบียนล่วงหน้ามาก่อน หากไม่จองจะไมได้รับการอนุญาตให้ขึ้น
เริ่มต้นการเดินทางไม่ถึง 100 เมตร เราก็พบกับความชันของเส้นทาง ทั้งก้อนหิน ต้นไม้ สลับกัน บางช่วงต้องปีน ใช้มือดึงต้นไม้ มีเชือกให้สำหรับดึงโหนตัวขึ้น
ตลอดระยะทางมีบันไดที่ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดทำอำนวยความสะดวกให้ แต่ก็สูงชันเอาการ บางช่วงต้องหลีกให้คนที่สวนทางลงมาเนื่องจากแคบไม่สามารถสวนกันได้
กว่าจะถึงยอดเขา เล่นเอาเหนื่อยเอาการ หากวันไหนมีแดดร้อนการเตรียมน้ำไปให้เพียงพอจะช่วยได้ ส่วนจุดแวะพักก็สามารถพักได้ตามจุดที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ หรือก่อนหินขนาดใหญ่ ใต้ร่มไม้ก็พอช่วยให้หายเหนื่อยแล้วค่อยปีนป่ายกันต่อ
ถึงยอดเขา เราโชคดีที่วันนั้นไม่มีแดด ลมเย็นสบายปะทะกาย หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เมื่อเราได้เห็นทัศนียภาพของภูเขา ลานหินกว้างสุดสายตา และความเขียวขจีของพื้นที่ด้านล่าง ซึ่งขึ้นไปบนหลังเขาแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะหลง เพราะมีป้ายบอกทางอย่างดี แต่ที่เราสังเกตได้ตลอดเส้นทางเดินเมื่อถึงยอดแล้ว คือลวดลายบนหินที่คล้ายกับเกล็ดงูปรากฏอยู่ทั่วไป
เดินมาไม่ไกลจากจุดที่ขึ้นสูงสุด เราก็เจอกับ "ถ้ำนาคา" ไฮไลท์ของการเดินทางครั้งนี้
เมื่อเดินลงไปตามซอกเล็กๆของรอยแยกหินที่มีต้นมอสและตะไคร่น้ำขึ้นเกาะเต็ม เราก็สัมผัสได้ถึงความเย็น บรรยากาศอึมครึม เงียบ สงบ จนสามารถได้ยินเสียงหายใจตัวเอง จนถึงขั้นเกิดความขลัง และทึ่งไปกับภาพความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่สามารถสร้างให้เราได้สัมผัสความงดงามอย่างน่าทึ่ง
ณ ถ้ำนาคา เราไม่ควรแตะต้องแม้แต่ลูบไล้ ผิวของหินทรายทุกตารางนิ้วสามารถสึกกร่อนและลบเลือนความงามได้ ซึ่งเคยมีนักท่องเที่ยวไร้สำนึกเข้ามาแล้วขีดเขียนบนหิน จนต้องปิดไม่ให้เข้าชมมาแล้วรอบหนึ่ง ดังนั้นการไปชมถ้ำนาคาสิ่งที่ทำให้อย่างเดียวคือดูด้วยตาและถ่ายภาพเท่านั้น
ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางนาคปรก 9 เศียร ประดิษฐานอยู่ ก็สามารถไปสักการะได้ แต่ห้ามจุดธูปเทียน เนื่องจากกลิ่นธูปและเทียนจะทำให้พืชพรรณที่เกาะอยู่บนหินได้รับผลกระทบได้
หลังจากชมความงดงามของถ้ำนาคาแล้ว เราเดินต่อไปบนลานหินกว้างสุดสายตา เพื่อไปลานพระธาตุบนเขา มองไปไกลๆ สามารถเห็นบึงโขงหลง แม่น้ำโขง และประเทศลาวได้ และจุดนี้เราได้รับพลังธรรมชาติอย่างน่าประหลาด ลมเย็นพัดแรงปะทะกาย พร้อมกับมอบภาพรอบตัว 360 องศา สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด สามารถเยียวยาความเครียดได้อย่างดี
ลมพัดเย็นสบาย อากาศดีมาก กับทิวทัศน์สวยสุดๆ ทำให้เราไม่อยากจะรีบเร่งหรือจากที่ตรงนั้น แต่ด้วยการเคร่งครัดของเจ้าหน้าที่ในการจำกัดคนไม่ให้กองรวมกัน ณ จุดใดจุดหนึ่ง เราจำใจต้องลาจากความสวยงามไปในจุดอื่นต่อ
เราเดินเลาะเหลี่ยมเขาลงมาชมหัวพญานาค หัวที่ 1 บริเวณที่พักสงฆ์ ณ ที่นี่เราได้ลงความเห็นว่า ไม่แปลกใจเลยที่ความเชื่อจะผสานเข้ากับธรรมชาติให้ผู้คนศรัทธา ก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายหัวงูยักษ์ นอนอย่างสงบนิ่งอยู่ใต้เพิงถ้ำหิน ลวดลายหินที่ปรากฏนั้นเหมือนเกล็ดงูหรือเกล็ดพญานาคตามจินตนาการมากๆ
ในตำนานเล่าว่า “พระอือลือราชา”หรือ “ปู่อือลือ” เทพบนสรวงสวรรค์ ที่ถูกสาปให้เป็นพญานาคปกครองเมืองบาดาล (เชื่อกันว่าคือบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ) ที่มีทั้งพญานาคและมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกัน ได้สาปบริวารพญานาคของตนให้กลายเป็นหินที่ถ้ำแห่งนี้เนื่องจากทำผิดจารีต เพราะไปมีสัมพันธ์สวาทกับมนุษย์
นาย “ชัยพร ศิริพรไพบูลย์” หรือ “อาจารย์ชัยพร” ผู้เชี่ยวชาญด้านถ้ำและนักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี เผยข้อมูลว่า ...ถ้ำนาคาเป็นส่วนหนึ่งของภูเขาหินทรายชื่อ “ภูลังกา” ที่อยู่ในหมวดหินยุคครีเทเซียสตอนปลาย (ประมาณ 70 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงท้าย ๆ ของโลกยุคไดโนเสาร์) หินทรายบริเวณนี้นอกจากจะมีความหนาค่อนข้างมาก และเนื้อหินมีความเป็นเนื้อเดียวกัน(homogeneous) แล้ว ยังมีความพรุนสูง ซึ่งมีผลสำคัญต่อการเกิดลวดลายคล้ายเกล็ดพญานาค ส่วนตัวถ้ำนาคาหรือส่วนที่เป็นลำตัวพญานาคนั้น เกิดจากการยกตัวของแผ่นดิน (Tectonic uplift) ในภาคอีสาน ทำให้เกิด “รอยเว้าผนังถ้ำ (cave notch)” ที่มีลักษณะโค้งนูนออกมา และคั่นสลับด้วยผนังหินที่โค้งเว้าเข้าไป
จากนั้นเกิดการกัดเซาะที่เป็นวัฏจักร (Cyclic Erosion) ในยุคโลกเย็นหรือ “ยุคน้ำแข็ง” กับยุคโลกร้อนในอดีตที่เกิดสลับกันเป็นวงรอบประมาณทุก ๆ 1 แสนปี โดยมีน้ำเป็นตัวการหลักในการกัดเซาะหินลงไปตามกลุ่มรอยแตกของหินในแนวตั้งที่มีสองแนวตัดกันจนเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยม ปรากฏการณ์เหล่านี้กินเวลายาวนานมาก จนทำให้เกิดเป็นถ้ำนาคาในปัจจุบัน ที่มีลักษณะเป็นช่องแคบตัดกันเหมือนถ้ำเขาวงกตขนาดเล็กที่ไม่มีหลังคาถ้ำ ทำให้ผนังแห่งนี้มีความโค้งและเว้าสลับกันดูคล้ายลำตัวพญานาคหรืองูยักษ์ ตามจินตนาการของชาวบ้านในแถบนั้น
ขณะที่ในส่วนของหินที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาคล้าย “เกล็ดพญานาค” เกิดจากการขยายตัวและหดตัวของผิวหน้าของหิน ซึ่งกระบวนการนี้มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “ซันแครก” ( Sun Cracks) ซึ่งเกิดขึ้นเป็นวัฏจักรที่สลับปรับเปลี่ยนระหว่างความร้อนจากแสงแดดในช่วงกลางวันกับความเย็นในช่วงกลางคืน แต่กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาที่ยาวนานมากคาดว่าจะใช้เวลานับแสนปีหรือนานกว่านั้น
ปิดท้ายการเดินทางชมถ้ำนาคา เราโหนตัวลงมาจากหน้าผาบนทางเดินลงที่ต้องใช้กำลังขา กำลังแขน และความระมัดระวังอย่างมาก การลงบนทางชันและบันไดบางช่วงนั้นต้องหันหลังลง และรักษาระยะห่างในการจับเชือกโรยตัว เนื่องจากหากลงพร้อมๆกันอาจเกิดการเหวี่ยงของเชือกแล้วทำให้เกิดอันตรายได้
“ถ้ำนาคา” ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดให้ท่องเที่ยวแบบ New Normal โดยทาง อช.ภูลังกา จำกัดนักท่องเที่ยววันไว้ละ 500 คน ในส่วนของถ้ำนาคา จำกัดจำนวนการเข้าชมครั้งละไม่เกิน 50 คน
คำแนะนำในการเตรียมตัว
- ร่างกายต้องพร้อม แข็งแรง แนะนำให้ออกกำลังกายให้ร่างกายอยู่ตัวก่อนไป เพราะต้องปีนเขาขึ้นบันไดสูงชันกว่า 1,400 ขั้น ใช้เวลาเดินราว 1-1.30 ชั่วโมง
- การแต่งกายให้รัดกุม แนะนำให้มีรองเทาสำหรับปีนเขาเพราะเส้นทางบางระยะลื่น
- ถุงมือก็สำคัญเพราะต้องใช้ดึง โหน ปีน ตลอดเวลา
- เตรียมน้ำดื่มให้เพียงพอ ส่วนอาหารหรือสัมภาระให้นำติดตัวไปให้น้อยที่สุด
- ใครที่แพ้ยุงและแมลงให้เตรียมยาทาไปด้วย หากมีโรคประจำตัว เช่น หอบ หัวใจ ความดัน ลมชัก ..งดไปเลย
จองขึ้นชมอุทยานผ่านแอพลิเคชั้นคิว QueQ และต้องไปให้ตรงเวลาที่จองไว้ ซึ่งจะเป็นการจองโดยรวม ไม่แยกจุดท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่จะต้องโทร.ไปสอบถามจากนักท่องเที่ยวอีกครั้ง (ถ้าไม่ไปตามเวลาที่กำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์) หรือสามารถจองตรงกับทางอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้โดยการแอดไลน์ : plk12345678 พร้อมส่งรายละเอียดวันเวลาที่จะไปเที่ยว จำนวนสมาชิก สถานที่ที่จะเข้าไปเที่ยว
#ถ้ำนาคา #NakaCave #ถ้ำพญานาค #บึงกาฬ #BuengKan #ภูลังกา #ไปทัวร์ไทย #PaiTourThai #ReviewThailand #รีวิวอีสาน #รีวิวไทยแลนด์ @Review_Thailand @ReviewEsan #ReviewBuengKan
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
