4 พ.ย. 2020 เวลา 03:30 • การตลาด
A Treasure Box ร้านกระเป๋าออนไลน์รายได้ 10 ล้าน ที่ขายหมดภายในเวลาไม่กี่นาที
3
วัยรุ่นสายชอปน่าจะคุ้นเคยกับแบรนด์ A Treasure Box
กระเป๋าที่แม้ว่าดูผ่านๆ แล้วอาจจะดูเรียบๆ
แต่เวลาเปิดจองแต่ละครั้ง สินค้ากลับขายหมดภายในเวลาไม่กี่นาที
ที่สำคัญคือยอดขายกระเป๋าแบรนด์นี้ยังสูงถึงหลักสิบล้าน
ทั้งๆ ที่ A Treasure Box อาศัยการขายช่องทางออนไลน์เกือบ 100%
2
เรื่องราวของ A Treasure Box น่าสนใจอย่างไร? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
เรามาทำความรู้จักกับ A Treasure Box กันหน่อยนะคะ
สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับกระเป๋าร้านนี้
น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากับ คุณไอริณ อุนนกิตติ หรือคุณไอซ์เป็นอย่างดี
เพราะเมื่อออกคอลเลกชันกระเป๋ารุ่นใหม่ ก็จะมีคุณไอซ์ เป็นนางแบบอยู่เสมอ
และก็เป็นคุณไอซ์นี่แหละ ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ A Treasure Box
ซึ่งถ้านับตั้งแต่เปิดตัววันแรกจนถึงวันนี้
แบรนด์ A Treasure Box ก็มีอายุ 6 ปีแล้ว
โดยวันที่คุณไอซ์เริ่มทำแบรนด์ เธอมีอายุเพียง 23 ปีเท่านั้น
1
ซึ่งจุดเริ่มต้นของคุณไอซ์กับแบรนด์ A Treasure Box
เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยที่เธอเป็นนักศึกษาอยู่ที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในตอนนั้นเธอได้ช่วยพี่สาวของเธอขายเสื้อผ้าแบรนด์ Lookbooklookbook
ซึ่งจริงๆ ก็ถือเป็นแบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์ยุคบุกเบิก ที่โด่งดังไม่แพ้กัน
คุณไอซ์รับหน้าที่ในการคิดคอนเซ็ปต์ ดีไซน์สินค้า และออกกองถ่ายแบบ
ซึ่งงานทั้งหมดนี้ ทำให้เธอได้ค้นพบว่าเธอชอบงานสายนี้ และรักในการแต่งตัว
คุณไอซ์มองว่านอกจากส่วนของเสื้อผ้าแล้ว
กระเป๋าก็เป็นส่วนสำคัญที่สามารถเพิ่มความมั่นใจ
และเป็นส่วนเติมเต็มให้ลุคการแต่งตัวสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เธอจึงเกิดไอเดียอยากทำกระเป๋าคุณภาพดี
ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำออกมาเพื่อวางขาย
แต่จะใช้สำหรับถ่ายแบบกับชุดของพี่สาวเธอเท่านั้น
4
ผลปรากฏว่า หลังจากที่ลงรูปไป
กลับมีลูกค้าหลายคนสนใจและอยากจับจองเป็นเจ้าของ
ทำให้คุณไอซ์มองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ
และตัดสินใจผลิตสินค้า และวางขายผ่าน Instagram ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
3
ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่า จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในวันนั้น
จะกลายเป็นร้านขายกระเป๋าที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ถ้าถามว่าสำเร็จขนาดไหน เราลองมาดูยอดขาย A Treasure Box กัน
ผลประกอบการของ บริษัท แฮปปี้ บ็อกซ์ สตูดิโอ จำกัด
ปี 2562 รายได้สูงถึง 10.6 ล้านบาท
1
แล้วอะไรเป็นตัวแปรความสำเร็จของ แบรนด์ A Treasure Box
1
อย่างแรกคุณไอซ์มองลูกค้าของเธอเหมือนเป็น “กลุ่มเพื่อนและคนใกล้ชิด”
เธอเลยคำนึงถึงคุณภาพมากกว่าปริมาณในการผลิต
เพราะเธอต้องการให้คนที่เธอรักได้ของที่ดี มีคุณภาพ และใช้ได้นาน
ดังนั้นกระเป๋าทุกๆ ใบ ต้องมีการตัดเย็บที่ประณีต มีตัวล็อกแน่นหนา
และคำนึงถึงขนาดกระเป๋าหลากหลายที่เหมาะสมในทุกโอกาส
มากไปกว่านั้นเธอจะไม่ฝืนผลิตสินค้าตามคำเรียกร้องของลูกค้า
ถ้าวัสดุที่ใช้ผลิตกระเป๋ามีไม่เพียงพอ และไม่ได้คุณภาพ
ดังนั้นจำนวนสินค้า ต่อคอลเลกชันของเธอ จึงมีจำนวนจำกัด
แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียว ที่ทำให้เมื่อออกสินค้าใหม่แต่ละครั้ง
ก็มีลูกค้าที่ตั้งตารอกดจองสินค้าในทุกรอบ
2
เหตุผลก็คือ แต่ละคอลเลกชัน ที่ออกมา จะคอยปรับตัวตามเทรนด์ และความต้องการของลูกค้าเสมอ
อย่างช่วงมีกระแสพกกล้อง Mirrorless
A Treasure Box จึงออกรุ่นที่ปรับขนาดกระเป๋าให้มีขนาดใหญ่พอจุกล้องลงไปได้
หรือล่าสุด ที่คนนิยมกระเป๋าใบเล็กขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก
ทางแบรนด์ก็ออกรุ่น “Flat Layer” ซึ่งมีขนาดเล็กแต่สามารถจุของได้เยอะ
1
ที่น่าสนใจคือ แม้ว่าจะมีหลายรุ่นหลายทรง
แต่จุดร่วมที่เห็นได้ชัดก็คือ รูปแบบและสีที่ไม่ฉูดฉาด
โดยที่ยังสามารถคงเอกลักษณ์ ที่เห็นแล้วก็รู้เลยว่าเป็นกระเป๋าของแบรนด์นี้
1
ทำให้กระเป๋าแบรนด์ A Treasure Box สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน
และใช้ไปนานๆ ก็ไม่น่าเบื่อ
1
เมื่อสินค้าดีแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ “การนำเสนอและการสื่อสารกับลูกค้า”
เริ่มตั้งแต่รูปสินค้าที่ถูกโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย จะต้องมีสีที่ใกล้เคียงกับของจริง
ไม่ใส่ฟิลเตอร์ หรือแต่งรูปจนเกินจริงเด็ดขาด
เพราะต้องการให้ลูกค้าเห็นสินค้าที่ตรงตามจริง
นอกจากนั้น A Treasure Box ยังเป็นแบรนด์ที่รับฟังเสียงตอบรับจากลูกค้าเสมอ
และแก้ปัญหาโดยทันที โดยมีทีมงานที่คอยสื่อสารกับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง
1
จากทั้งหมดนี้ ทำให้เราสามารถสรุปกลยุทธ์ ที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จได้ว่า
ความจริงใจและการใส่ใจลูกค้า
เข้าใจความต้องการของลูกค้า
คำนึงถึงคุณภาพของสินค้าก่อนเสมอ
ปรับตัวตามเทรนด์
มีบริการหลังการขายที่ดูแลลูกค้าได้อย่างดี
ซึ่งจะเห็นได้ว่า ไม่จำเป็นต้องขายกระเป๋าถึงจะใช้กลยุทธ์เหล่านี้ได้
แต่เป็นสิ่งที่นำปรับใช้ได้กับแทบทุกธุรกิจ
ลงทุนเกิร์ลหวังว่า บทความนี้จะสามารถเป็นแรงบันดาลใจและประโยชน์
ให้กับคนที่ต้องการเริ่มธุรกิจได้นะคะ
โฆษณา