3 พ.ย. 2020 เวลา 12:31 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Next Goal Wins หนังน่าจับตาในหลายมิติ ไม่ใช่เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง แต่วันนี้ขอพูดถึงเรื่องบอลหน่อยนะคะ 55 จุดเริ่มต้นมาจากการที่ตอนนี้เริ่มมีภาพจากกองถ่าย Next Goal Wins ของผู้กำกับ ไทก้า ไวทิที ที่ได้ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ มาแสดง
เป็นโธมัส รอนเกน โค้ชชาวดัตช์ ที่เข้ามาฝึกสอนคุมทีมจนทำให้จาก
ทีมชาติอเมริกันซามัวที่ที่เคยถูกเรียกว่าอ่อนที่สุดในโลก ในปี 2001 หลังจากแพ้
ออสเตรเลีย 31-0 ประตูในการแข่งขันรอบคัดเลือกเพื่อเข้าแข่งขันฟุตบอลโลกให้ได้รับชัยชนะเป็นครั้งแรกเหนือทีมชาติตองก้า ในการแข่งขันรอบคัดเลือกเพื่อเข้าแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2014 (แต่การแข่งรอบคัดเลือกของทีมอเมริกันซามัวกับตองกาแข่ง ในปี 2011 ค่ะ ) แต่ Next Goal Wins เวอร์ชั่นใหม่นี้จะไม่ใช่แค่หนังแบบสู้เพื่อฝัน แต่ยังมีอีกหลายแง่มุมที่น่าจับตาทีเดียว ทั้ง กะเทยในดงคนแมน ผู้กำกับสุดเกรียน และดาราฮอลลีวู้ดเด็กหงส์
ไจยาห์ ซาเอลัว (Jaiyah Saelua)
- ด้วยตัวเรื่องราวมีความน่าสนใจเป็นอย่างมากอยู่แล้ว จากการแข่งขันในปี 2001 อเมริกันซามัวแพ้ต่อออสเตรเลียอย่างย่อยยับจนขึ้นชื่อว่าเป็นการแข่งที่แต้มระหว่างผู้ชนะและผู้แพ้ห่างกันที่สุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติ (หรือสั้นๆ คือการพ่ายแพ้ที่แย่ที่สุด) ซึ่งหลังจากการแข่งครั้งนี้ทางออสเตรเลียก็ไม่ได้ภูมิใจกับชัยชนะนี้เท่าไร เพราะเป็นการจับคู่ที่เรียกได้ว่าต่างชั้นกันเกินไปมากๆ ทำให้มีการเปลี่ยนรูปแบบการคัดเลือกให้ทีมออสเตรเลียมาแข่งกับทีมจากประเทศเอเชียจนถึงปัจจุบัน
Taika Waititi
เหตุที่แพ้ไม่ใช่พวกเขา อ่อน ห่วย ผู้รักษาประตูไปไหนวะ ยังอยู่ในสนามไหม อย่างที่หลายคนสงสัย แต่เป็นเพราะอเมริกันซามัวในตอนนั้นขาดความพร้อมหลายด้าน นักเตะ 19 คน มีปัญหามาร่วมแข่งไม่ได้เนื่องจากมีปัญหาด้านพาสปอร์ต ทำให้พวกเขาแทบไม่ได้ใช้ผู้เล่นตัวจริงที่ซ้อมกันมาเลย , ทีมชาติที่มาแข่งมีแต่นักเตะสูงวัยเพราะเด็กรุ่น 20 ติดสอบ, นักเตะที่มาลงแข่งเนื่องจากไม่ใช่ตัวจริงพวกเขาแทบไม่เคยแข่งขันจนครบ 90 นาทีมาก่อน และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย ที่ถ้ารู้แล้วคงไม่มีใครว่าพวกเขาไม่พยายามหรอกค่ะ
(ด้านออสเตรเลีย ที่แข่งกันทำประตูเป็นว่าเล่น เอาจริงๆ ก็โดนวิจารณ์ไปเหมือนกันว่า แข่งเอาแต้มเพื่อสถิติของตัวเอง ไม่ใช่การแข่งที่ดี แต่นะการแข่งขัน เมื่อมีโอกาสชนะก็ต้องทำให้ดีที่สุดว่าไม่ได้)
อ่านเพิ่มเติมได้ในนี้เลยค่ะ
-เรื่องราว Next Goal Wins เวอร์ชั่นหนังนั้นสร้างมาจากสารคดีชื่อเดียวกันทีออกฉายในปี 2014 ที่บันทึกเรื่องราวการกลับมาของทีมชาติอเมริกันซามัว พวกเขากลับมาสู่วงการลูกหนังได้อย่างสมศักดิ์ศรีเต็มภาคภูมิ และได้รับชนะเป็นครั้งแรกในการแข่งขันรอบคัดเลือก (แม้ว่าจะไม่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปก็ตาม) หนังนอกจากจะเสนอความมุ่งมั่น ของเหล่า underdog ที่เคยถูกปรามาสจากทีมอื่นๆ ว่าโคตรอ่อน พลิกมาเอาชนะได้ก็เพราะพวกเขามีความพยายาม และยังมีเรื่องราวของโค้ชชาวดัตช์ โธมัส รอนเกน ที่เอาดีในการค้าแข้งที่อเมริกัน ได้มาเป็นผู้ฝึกสอนทีมอเมริกันซามัวหลังจากที่ลูกสาวของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ การมาช่วยเหล่านักกีฬาตามล่าฝันในครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการเยียวยาเขาจากการสูญเสียเช่นกัน (เขาใส่หมวกของลูกสาวในการแข่งที่ทีมอเมริกันซามัวชนะทีมตองกาด้วยค่ะ)
https://www.youtube.com/watch?v=OIeKkjJNM6A <<ลองดูตัวอย่างสารคดีได้ในลิงค์
ไจยาห์ ซาเอลัว (Jaiyah Saelua)
- ทีมอเมริกันซามัวยังสร้างแรงบันดาลใจอย่างมากในฐานะผู้นำ LGBTQ ในวงการลูกหนังด้วยค่ะ เนื่องจาก หนึ่งสมาชิกในทีม คือ ไจยาห์ ซาเอลัว (Jaiyah Saelua) เป็น
fa'afafine (ฟาฟาฟีเน่) หรือ “กะเทย” คนแรกที่ได้แข่งขันในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
fa'afafine มีความหมายว่า Way of The Woman คือเพศที่สามตามธรรมเนียมของอเมริกันซามัว และซามัว เพศนี้ได้รับการยอมรับทั่วไปตามประเพณีของที่นั่น ซึ่งคำจำกัดความคือ โดยทั่วไปแล้วพวกเขาคือผู้ชายที่มีความตุ้งติ้ง แต่งหน้าไว้ผมยาวรักสวยรักงาม ใช้ชีวิตแบบผู้หญิง โดยเมื่อเด็กผู้ชายคนไหนทางบ้านเล็งเห็นแล้วว่าจะเป็น fa'afafine (คือมีพฤติกรรมบ่งบอก) ก็ได้รับการเลี้ยงดูให้เติบโตมาแบบผู้หญิงเลยค่ะ ทั้งการแต่งตัวแบบผู้หญิง และทำหน้าที่แบบเพศหญิงภายในหมู่บ้าน (ประเพณีของชาวซามัวและอเมริกันซามัวแบ่งหน้าที่ตามเพศชัดเจน ) แต่ถึงจะใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงแต่บางครั้งก็ทำหน้าที่ผู้ชายเช่นกัน สรุปว่ากลายเป็นมนุษย์อเนกประสงค์ทำได้ทุกอย่าง (fa'afafine มีเพศสัมพันธ์กับชายแท้ หรือบางครั้งก็ผู้หญิง แต่จะไม่มีเพศสัมพันธ์กับ fa'afafine ด้วยกัน) ไจยาห์และน้องชายของเธอก็ถูกเลี้ยงเป็นผู้หญิงเช่นกัน
ไจยาห์ให้สัมภาษณ์ว่า fa’afafine ได้รับการยอมรับในสังคมของชาวซามัวและอเมริกันซามัว โดยมักจะเป็นคนที่ได้รับมอบหมายให้จัดงานต่างๆ เพราะทุกคนรู้แน่นอนว่างานจะออกมาสำเร็จ เพราะ fa’afafine จะไม่ค่อยแต่งงานและทำหน้าที่ดูแลพ่อแม่และคนเฒ่าคนแก่ในครอบครัว
การเข้าร่วมทีมของไจยาห์ก็ใช่ว่าจะไม่มีอุปสรรคเลยแต่เธอได้โค้ช โธมัส รอนเกน ช่วยผลักดันให้เธอได้ร่วมทีมและเธอคือศูนย์กลางของทีมและมีบทบาทอย่างมากในทีมซึ่งนำพาไปสู่ชัยชนะค่ะ
ในเวอร์ชั่นหนัง Next Goal Wins ตามข้อมูลของหนังแน่นอนว่าจะมีบทของไจยาห์เป็นหนึ่งในตัวนำของเรื่องแน่นอน (ไว้มารอดูกัน)
เรื่องราวของไจยาห์หลังจากแข่งฟุตบอลทีมชาติก็ไม่จบแค่นั้นเธอได้ย้ายไปฮาวายและแปลงเพศเป็นผู้หญิงและประสบปัญหาเรื่องการยอมรับเช่นกัน ทำให้เธอกลับมาที่บ้านและร่วมงานกับทางสมาคมฟุตบอลเพื่อผลักดันเกี่ยวกับ transgender ในวงการกีฬาค่ะ
Taika Waititi
- ผู้กำกับ ไทก้า ไวทิที เป็นผู้กำกับชาวนิวซีแลนด์ที่แม้ว่าทั่วโลกจะรู้จักเขาจาก Thor Raganrok และผลงานที่ทำให้ได้รับรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมอย่าง 'Jojo Rabbit' ที่ทั้งสองเรื่องไทก้ายังคงความกาว และเกรียนไว้เป็นอย่างดี แต่ว่านอกจากแง่มุมตลกเสียดสีแล้วไทก้ายังเป็นผู้นำด้านการเรียกร้องเกี่ยวกับชนกลุ่มน้อยและเหล่าคนชายขอบในนิวซีแลนด์ค่ะ และเคยได้รางวัล New Zealander of the Year award ในการเป็นผู้ที่ใช้สื่อให้เป็นประโยชน์ในการทำภาพยนตร์ที่สร้างพื้นที่ให้กับเหล่าคนพื้นเมืองนิวซีแลนด์ได้อย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งยังไทก้ายังมีผลงานที่สนุนความเท่าเทียมทางเพศและหลากหลายทางเพศอยู่เสมอทั้งเรื่อง Boy (2010) (วิพากษ์ความเป็นผู้ชาย Masculinity ในสังคมเมารี) , What We Do in the Shadows (2014) แก๊งแวมไพร์ชายขอบที่เพศสภาพสับสนไปหมด, Thor Raganrok เกือบจะได้มีฉากตัวละครวัลคีรี เปิดเผยว่าเป็น LGBTQ แต่ว่าถูกตัดออกไปก่อน (แต่หนังบอกเป็นนัยๆ)
Next Goal Wins เลยเป็นหนังที่เข้าทางไทก้าอย่างมากและเชื่อว่าจะนำเสนอออกมาในมุมมองที่แตกต่างออกไปแน่นอนค่ะ
ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ในกองถ่าย และการเป็นแฟนบอล
- ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์เป็นเด็กหงส์ 555 สำหรับใครเป็นแฟน Liverpool คงเข้าใจดีว่าการเป็นเด็กหงส์เหมาะที่สุดกับการเล่นหนังฟุตบอล ที่เล่าถึงความพยายามที่ยิ่งใหญ่ (ดีเทลไม่เล่าเนอะ ติดตามได้ในตามข่าววงการลูกหนัง 555) พี่ฟาสเป็นหนึ่งในคนที่ไปชมแมตช์ที่ Liverpool ชนะ Barcelona 4-0 และปรากฎหลักฐานในข่าวต่างๆ และจากที่แฟนๆ พบเจอ การชนะครั้งนี้ทำให้ยิ้มฉลามฉีกกว้างแทบถึงรูหู พร้อมกับ ให้สัมภาษณ์ว่า “ มันเป็น 90 นาที ที่สร้างแรงบันดาลใจมากที่สุดที่ผมเคยเห็นตลอดเวลาที่ผ่านมา มันเป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะพอเจาะในชีวิต ทุกอย่างเป็นไปได้เมื่อคุณทุ่มเทใจลงไปกับมัน แล้วแน่นอนว่า You'll never walk alone”
จากนักแสดงที่เป็นแฟนบอลตัวจริง อินจริงอะไรจริง แน่นอนว่ามารับบทเป็นโค้ชทีมฟุตบอลเองแล้วน่าจับตามากแน่ๆว่า ฉลามฟาสจะนำจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันฟุตบอลนำมาเสนอในรูปแบบไหน
และที่ทำสำคัญเรื่องนี้พี่ฟาส รับบทเป็นโธมัส รอนเกน ทำผมสีบลอนด์เงินแล้วหล่อมว๊ากกก
ที่เล่ามาทั้งหมดประเด็นสำคัญจริงๆ ก็มีแค่พี่ฟาสเด็กหงส์เนี่ยแหละเขียนโม้มีสาระมาเยอะแล้วขอลาไปด้วยการโฮกผู้ชายสไตล์เพจผู้ชายคนั้นละกันค่ะ 55555
ติดตามเราได้ที่
Facebook:
โฆษณา