5 พ.ย. 2020 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
ตำนาน “47 โรนิน (47 Ronin)”
ตำนาน “47 โรนิน (47 Ronin)” เป็นตำนาน เรื่องเล่าแห่งความจงรักภักดีของเหล่าโรนินที่มีต่อเจ้านายของตน
เรื่องเริ่มขึ้นในปีค.ศ.1701 (พ.ศ.2244) เมื่อ “จักรพรรดิฮิงาชิยามะ (Emperor Higashiyama)” ได้ทรงส่งราชทูตจากราชสำนักในเกียวโต ไปยังสำนักของโชกุนในเอโดะ
1
ในการณ์นี้ “คิระ โยชินากะ (Kira Yoshinaka)” ข้าหลวงใหญ่ของโชกุนเป็นเจ้าพิธี
จักรพรรดิฮิงาชิยามะ (Emperor Higashiyama)
ในเวลานั้น ไดเมียวสองคน คือ “อาซาโนะ นางาโนริ (Asano Naganori)” แห่งแคว้นอาโกะ และ “คาเมอิ (Kamei)” แห่งแคว้นทสึมาโนะ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับรองราชทูต
คิระได้รับหน้าที่เป็นผู้สอนมารยาทให้แก่ไดเมียวทั้งสอง ซึ่งทั้งอาซาโนะและคาเมอิก็ได้มอบของขวัญ เป็นน้ำใจแก่คิระ
หากแต่คิระไม่สบอารมณ์นัก เขาคิดว่าสินน้ำใจนั้นน้อยเกินไป และเริ่มจะปฏิบัติต่อไดเทียวทั้งสองอย่างไม่ดีนัก
ไดเมียวทั้งสองก็ไม่พอใจ หากแต่ก็สะกดกลั้นอารมณ์ไว้ และในเวลาต่อมา คนใช้ของคาเมอิก็ได้ให้สินบนแก่คิระเพิ่มขึ้น ทำให้คิระปฏิบัติต่อคาเมอิดีขึ้น แต่ก็ยังคงกลั่นแกล้งอาซาโนะต่อไปเรื่อยๆ
9
ความอดทนของอาซาโนะได้มาถึงจุดสิ้นสุด เมื่อคิระได้ทำให้อาซาโนะอับอาย ด้วยการเรียกเขาว่าเป็น “ไอ้บ้านนอกที่ไร้มารยาท”
1
อาซาโนะได้ชักดาบและตรงเข้าไปแทงคิระ หากแต่คิระก็รอดตาย มีเพียงบาดแผลที่หัว
ตามกฎของโชกุน ห้ามผู้ใดชักดาบในปราสาทเอโดะเด็ดขาด อาซาโนะจึงมีความผิด และถูกตัดสินให้คว้านท้องตนเอง
อาซาโนะ นางาโนริ (Asano Naganori)
ภายหลังจากที่อาซาโนะได้ตายลงแล้ว โชกุนก็ได้ทำการยึดแคว้นของอาซาโนะ และซามูไรของอาซาโนะทั้งหมดก็ถูกลดขั้น เหลือเป็นเพียงโรนินเท่านั้น
ตามหลักแล้ว ซามูไรจะยอมตายตามนายของตน ดีกว่าอยู่อย่างไร้นาย หากแต่ลูกน้องของอาซาโนะจำนวน 47 นายจาก 320 นาย เลือกที่จะไม่ฆ่าตัวตาย แต่รอเวลาที่จะแก้แค้น
ผู้นำกลุ่ม 47 โรนิน คือ “โออิชิ โยชิโอะ (Oishi Yoshio)” และทั้งหมดก็ได้สาบานว่าจะต้องฆ่าคิระให้ได้
1
ทางด้านคิระ ก็รู้ดีว่าคนของอาซาโนะจะต้องมาแก้แค้นตนแน่ จึงได้จัดเวรยามเฝ้าบ้านของตนอย่างแน่นหนา
โรนินทั้ง 47 นายก็รู้ดีว่าคิระจะไม่ประมาท จึงต่างแยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆ บางนายก็ปลอมตัวเป็นคนงาน บางรายก็ปลอมเป็นพ่อค้า บางรายถึงขั้นแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลที่เป็นผู้สร้างบ้านของคิระ เพื่อที่จะได้รู้ถึงแผนผังภายในบ้าน
1
โออิชิ โยชิโอะ (Oishi Yoshio)
ตัวของโออิชิเองก็ดื่มเหล้าหนักและเที่ยวโสเภณี โดยเขาทำอย่างนี้เพื่อตบตา ให้คนอื่นๆ คิดว่าตนเป็นเพียงคนชั้นต่ำ
ต่อมา โออิชิได้หย่ากับภรรยาและส่งลูกๆ ไปอยู่ที่อื่นเพื่อความปลอดภัย โดยมีลูกชายคนโตเพียงคนเดียวที่เลือกจะอยู่ข้างๆ เขา
1
เย็นวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ.1702 (พ.ศ.2245) โรนินทั้ง 47 นายได้นัดพบกันที่ฮอนโจเพื่อเตรียมพร้อมจู่โจม โดยให้โรนินหนึ่งนายกลับไปที่อาโกะเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขา
1
จากนั้น โรนินที่เหลือ 46 นายก็ค่อยๆ ไต่กำแพงคฤหาสน์ของคิระอย่างเงียบเชียบ จากนั้นก็ได้ทำการจับตัวทหารยามของคิระ ก่อนจะตีกลองส่งสัญญาณให้โจมตี
1
เหล่าโรนินทำการบุกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งเหล่าซามูไรของคิระต่างก็กำลังนอนหลับ ไม่ทันตั้งตัว จึงสู้รบไม่ได้มาก
คิระนั้นได้หนีไปแอบซ่อนอยู่ในเพิงที่ใช้เก็บของ ซึ่งเหล่าโรนินก็ได้ทำการค้นบ้านเพื่อหาตัวเขาเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะพบตัวคิระในที่สุด
เมื่อพบตัวคิระ เหล่าโรนินก็จำได้จากแผลเป็นที่หัวของคิระ โออิชิจึงได้คุกเข่าต่อหน้าคิระ และยื่นดาบสั้นให้ ขอให้คิระทำการคว้านท้องตนเอง
หากแต่คิระนั้นหวาดกลัวเกินกว่าจะคว้านท้องตนเอง โออิชิจึงได้ตัดหัวของคิระ
2
โรนินทั้ง 46 นายได้มารวมตัวกันในสวน โดยทั้ง 46 นายนี้อยู่รอดปลอดภัย และได้เดินตรงไปยังวัดเซนงาคุจิ สถานที่ฝังร่างของอาซาโนะ
1
เมื่อข่าวของโรนินทั้ง 46 คนได้กระจายไปถึงชาวเมือง ชาวเมืองจึงต่างออกมาใ้ห้กำลังใจ ส่งเสียงเชียร์ไปตลอดเส้นทาง
โออิชิได้เทเลือดของคิระต่อหน้าหลุมศพของอาซาโนะ และโรนินทั้ง 46 นายก็นั่งรอการจับกุม
โชกุนได้ยกโทษให้โรนินทั้งหมด หากแต่เหล่าสมาชิกสภาไม่สามารถยอมให้การกระทำผิดกฎหมายไม่ต้องรับโทษ โรนินทั้ง 46 นายจึงได้กระทำการคว้านท้อง ฆ่าตัวตายเพื่อเป็นการรับโทษ
3
สำหรับชะตากรรมของโรนินคนที่ 47 ที่ได้รับหน้าที่ให้กลับมาบอกเล่าเรื่องราวของโรนินที่เหลือนั้น ไม่ชัดเจนว่าชะตากรรมของเขาเป็นอย่างไร
2
บันทึกหลายแหล่งได้กล่าวว่าเขาได้รับการอภัยโทษจากโชกุน และมีชีวิตจนแก่เฒ่า และเมื่อตายไปแล้ว ศพของเขาก็ถูกฝังเคียงข้างกับโรนินคนอื่นๆ
3
ตำนานความจงรักภักดีของโรนินทั้ง 47 นาย โด่งดังจนถึงทุกวันนี้ และถูกถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ ทั้งละครคาบูกิ ละครโทรทัศน์และภาพยนตร์อีกด้วย
2
โฆษณา