5 พ.ย. 2020 เวลา 12:31 • ดนตรี เพลง
[รีวิวอัลบั้ม] positions - Ariana Grande
รักษาตำแหน่ง
[รีวิวอัลบั้ม] positions - Ariana Grande
-ตั้งแต่ sweetener และ thank u, next ผมเริ่มเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งในแง่การเป็นศิลปิน เธอกลับมีทั้งเพลงฮิตและทักษะในการเล่าเรื่องผ่านประสบการณ์อันเจ็บปวดจากความรู้สึกผิดที่มีต่อคนรักเก่าผู้ล่วงลับ Mac Miller ได้อย่างสุดซึ้งและสามารถสร้างบรรยากาศในอัลบั้มได้อย่างเฉพาะตัว ทั้งนี้เธอยังสามารถทำเพลงฮิตติดลมบนควบคู่กันไปได้โดยที่ความแมสยังไม่ลดน้อยถอยลง นั่นพอยืนยันได้ว่า career path การเป็นศิลปินของ Ariana Grande เริ่มจะมั่นคงขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งกระแสเพลงฮิตไปวันๆอย่างเดียว ผลงานอัลบั้มของเธอสามารถพิสูจน์ความเป็นตัวจริงของเธอได้อยู่ ถ้าลองมองการผ่านประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่ sweetener ที่เคยเรียกร้องความสุขและสันติภาพของโลกด้วยท่วงท่าสุดโจ๊ะที่เป็นมิตรและประนีประนอม ตัดสลับกับความอาลัยอาวณ์ในความสัมพันธ์ของ thank u, next ที่มุ่งสู่ความ personal พยายามมูฟออนเพื่อก้าวข้ามความสูญเสีย แต่คราวนี้ใน positions เธอกลับชิวล์และเปิดรับความสัมพันธ์มากขึ้น ชนิดที่เธอพร้อมให้รหัสลับโดยไม่ต้องมากั๊กกันอีกต่อไป
-แน่นอนว่าชีวิตต้องเดินต่อจะให้จมอยู่กับอดีตเหมือนคราวก่อนก็กะไรอยู่ การฟัง positions จึงเต็มไปด้วยความสบายใจที่มีต่อความคิดความอ่านของเธอที่เริ่มมูฟออนได้ แต่ในเรื่องทิศทางของเพลงนั้นยังไม่ต่างจาก thank u, next มากนัก คงความสนุกแบบกลางๆ ไม่สนุกโดดๆลั่นฮอลล์แบบ sweetener มันเป็นความสนุกในเชิงเล่นบนเตียงซึ่งมันเข้ากับบรรยากาศที่คนทั้งโลกยังสนุกกับคอนเสิร์ตไม่ได้ กักตัวปุ๊บอารมณ์ทางเพศครุกกรุ่นตามสไตล์คนโตที่ทำอะไรแล้วก็ได้ เราจะได้ยินความสองแง่สองง่ามแบบนี้เกือบทั้งอัลบั้มอย่างแน่นอน
-ไล่ตั้งแต่ 34+35 โยนโจทย์คณิตศาสตร์ที่คนไม่มีศีลธรรมสูงส่งอย่างเราเก็ตทันทีโดยไม่ต้องค้นหาคำตอบในเว็บ แต่ก็น่าเสียดายเพราะในประเทศเราเว็บนั้นโดนสั่งปิด สุดท้ายการตั้งชื่อเพลงแบบซ่อนกิมมิคคล้ายๆกับ S&M ของแม่ค้า Rihanna ก็เพิ่มความอยากรู้อยากเห็นในเบื้องต้น คงกลายเป็นกระแสได้ในเร็วๆนี้ six thirty ก็เช่นกัน หลายคนคงไม่ได้นึกถึงการเกี่ยวเนื่องของเวลาว่าทำไมต้องหกโมงครึ่ง เป็นตัวอย่างเพลงสองแง่ที่ชวนกระหายรู้เหมือนกัน my hair แสดงถึงความใกล้ชิดที่อยากให้ใครมาสยายผมให้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่การรักสวยรักงามอย่างเดียว nasty เป็นการซ่อนความขี้เล่นซุกซนโดยไม่ต้องแอ๊บกันแล้ว positions ไตเติ้ลแทร็คที่พอเป็นศูนย์กลางในการบรรยายภาพ sex theme ในอัลบั้มโดยไม่แปลกใจที่จะเลือกออกมา represent ถือว่าตัดสินใจได้ดี ท่วงทำนอง Trap pop แบบเบสิคทำให้คนฟังเข้าถึงไม่ยาก แทบจะเป็นต้นแบบแนวเพลงชุดนี้ด้วยซ้ำ เพราะ trap pop เป็นแนวเพลงหลักทั่วทั้งอัลบั้ม เนื้อหาที่ไม่จริงจังขึงขังตามชื่อก็ช่วยทำให้ viral ใน TikTok ได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตามในเอ็มวีที่เธอสวมบทบาทเป็นประธานาธิบดีหญิงยังคงชูตีม feminist ที่เธอเลือกจะเป็นผู้เล่นผู้กำกับ สามารถชี้นิ้วสั่งให้ปรับเปลี่ยนบ้างเพื่อไม่ให้เกมส์รักมันจืดชืดไปมากกว่านี้
-ไม่ใช่แค่ทีเล่นในเรื่องการยั่วสวาทอย่างเดียว ในบางมุมเธอก็มีทีจริงกับสิ่งที่เธออยากให้มันเป็นเหมือนกัน แทร็คเปิดอย่าง shut up เป็นการสร้างเกาะกำบังให้ตัวเองด้วยการบอกให้ทุกคนจงฟัง อย่าเพิ่งพูดแทรกหรือตัดสินด้วยขี้ปากไปก่อน ในขณะเดียวกันเธอก็ประชดประชันพวกขี้แซะพวกนักวิจารณ์ทั้งหลายให้เลิกทำตัวว่างยุ่งเรื่องของเธอเสียที มันเป็นความประชดประชันที่เล่นใหญ่ด้วยท่วงทำนองออเครสตร้าประหนึ่งเพลงเปิดม่านละครเวที just like magic คือเพลงมูฟออนที่แท้จริงโดยยึดหลักกฎแรงดึงดูด ถ้าคิดหรือกระทำเช่นไร ก็ดึงดูดพลังแบบนั้นเข้ามาในชีวิต นำเสนอด้วยโทน upbeat กระโชกโฮกฮากหน่อย
-motive เป็นการจับคู่ร่วมกับ Doja Cat ลองใจหนุ่มๆที่กำลังเข้ามาด้วยโทนเพลงสุดเริ่ดเฉิด ภาพแคทวอร์คแม่งลอยมา ใครที่เป็นแฟนเพลงทั้งคู่เป็นทุนเดิมน่าจะชื่นชอบ แต่เป็นการร่วมงานสนุกๆที่ยังผ่านมาผ่านไปอยู่ ในขณะที่ off the table แทร็คที่ทุกคนรอคอยมากสุด เพราะร่วมงานกับ The Weeknd เป็นหนที่สอง หลังจากที่เธอสามารถดันให้ Abel โด่งดังเป็นพลุแตกในเพลง Love Me Harder กลับมาคราวนี้ทั้งคู่ถ่ายทอดความสัมพันธ์สุดอึมครึมที่ต่างฝ่ายต่างเข้าหาผิดเวลา ฝ่ายหญิงยังลืมคนเก่าไม่ได้ ในขณะที่ฝ่ายชายรออย่างใจจดใจจ่อ น่าสนใจตรงที่ Abel เล่นคำด้วยการเอาชื่อเพลงฮิตของตัวเอง The Hills และ Love Me Harder มาใส่ในเนื้อเพลงได้ลงล็อค ถ้าใครสังเกตได้ ถือเป็น easter egg ที่น่าสนใจ ถ้าถามว่าสมการรอคอยหรือไม่ก็ยังไม่ไต่ระดับปรากฏการณ์แบบเพลงนั้นอย่างแน่นอน ด้วยคอรัสและโทนเพลงที่ซับซ้อนเกินกว่าทุกคนจะเข้าถึงโดยง่ายตั้งแต่แรกฟัง รวมถึงความไม่แปลกใหม่ที่ดูละม้ายคล้ายคลึง Earned It ชนิดที่สามารถเอาไปแทนเพลงประกอบหนังเรื่องนั้นได้เลย เพราะโทนเพลงลึกลับและเสน่หามากกว่าไปทางโรแมนติกเสียอีก ทั้งคู่ยังทำได้แค่ดีตามอัตภาพ แต่เพลง collabrolation ที่โดดเด่นอย่างคาดไม่ถึงก็คือ safety net ที่ได้เจ้าพ่อเพลงฟีท Ty Dolla $ign มาฟีทปรับภาษาเพลงให้เข้าถึงง่าย ดูดีมีมิติและไม่ซับซ้อนจนเกินไป พูดถึงความกลัวในความสัมพันธ์อันเปรียบเสมือน ถ้าผิดหวังคือเจ็บหนัก เหมือนร่วงหล่นลงมาโดยไม่มีตะข่ายรองรับ
-ในเพลง west side เงียบงันที่สุดในอัลบั้ม แต่มันเป็นความเงียบงันที่ไม่ได้นำพาสู่ความน่าค้นหามากนัก love language เหมือนคนพยายามศึกษาภาษารักในแบบต่างๆ ซึ่งนั่นทำให้เราเห็นการหยอดท่อน outro หยั่งเชิงให้ได้เห็นสั้นๆ กลายเป็นว่าท่อน outro ในเพลงนี้ทำออกมาได้ลึกซึ้งน่าฟังยิ่งกว่าทั้งเพลงเสียอีก obvious เป็นการใส่ความชัดเจนในรักครั้งใหม่ อย่างน้อยเธอก็ละทิ้งความกลัวได้ในระดับนึง โดดเด่นด้วยท่อนฮุกที่เธอใช้เทคนิคการร้องเสียงหลบจนติดหูได้ไม่ยาก ปิดท้ายด้วย pov (point of view) เพลงบัลลาดไฟต์บังคับที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสมควรถูกบรรจุในอัลบั้มด้วยเหตุผลไม่ว่าจะเป็นการเซอร์วิส Arianator ที่อยากเห็นการสวมวิญญาณดีว่าโชว์เสียงร้องเน้นๆ มันเป็นเพลงบัลลาดที่ไม่เหมือนใครด้วยซาวนด์ percussion ที่ร่วมสมัยเสียด้วย ยิ่งไปกว่านั้นมันคือสาสน์ที่มอบให้คนรักของเธอยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบและสิ่งที่เธอเป็นด้วยความจริงใจ นี่คือโมเมนต์หยุดเวลาที่ปิดท้ายได้อย่างงดงาม
-ถือเป็นการอัพเดตสารทุกข์สุขดิบให้กับคนที่ยังเป็นห่วงจิตใจของเธออยู่สามารถโล่งใจได้ว่า เธอยังสบายดีและก้าวข้ามความรู้สึกผิดในอดีตไปได้ แต่ถ้าลองมองถึงการเปลี่ยนแปลงในแง่ผลงานก็นับว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก เมื่อเทียบอัลบั้มก่อนๆที่มาในแนวทางที่ไม่ซ้ำกันเลย แต่พอมาเป็น positions มันก็คือ thank u, next ในเวอร์ชั่นชิวล์เต็มไปด้วย comfort zone อยู่ ถ้าคุณคาดหวังกับผลงานชุดนี้ก็อาจรู้สึกผิดหวังกับมาตรฐานที่โดนลดทอน แต่ไม่ได้ลดทอนในเชิงต่ำกว่ามาตรฐานจนแลดูน่าเบื่อจนเกินไป ยังคงฟังเพลินไหลลื่นเสมอต้นเสมอปลายอยู่ แต่ถ้าผลงานหน้ายังเล่นสเต็ปเดิมอาจกลายเป็นสูตรสำเร็จที่ซ้ำซากก็เป็นได้ เป็นการรักษาตำแหน่งในแบบเพล์ยเซฟที่ยังไม่กล้าได้กล้าเสียเท่ากับ sweetener ที่เรียกใช้บริการจาก Pharell Williams จนสาวกยังไม่คุ้นชิน หรือการทำเพลงด้วยระยะเวลาอันสั้นใน thank u, next แสดงถึงการตกตะกอนอย่างดีโดยไม่ต้องกินเวลานาน ตอนนี้เธออยู่ในจุดที่น่าพึงพอใจโดยที่ตำแหน่งโกลบอลซุปตาร์ยังไม่สั่นคลอน
ตำแหน่งสูงสุดยังคงอีกยาวไกล
Top Tracks: shut up, just like magic, six thirty, safety net, my hair, nasty, pov
Give 7/10
Thanks For Reading
See Y’all
โฆษณา