7 พ.ย. 2020 เวลา 10:00 • ประวัติศาสตร์
เปิดกรุคดีเก่า! 'ฆ่าขายศพ' ธุรกิจสุดสะพรึงเพื่อให้ได้ร่างไร้วิญญาณให้แพทย์เรียน
WIKIPEDIA PD
ในอดีตการที่มหาวิทยาลัยจะจัดหาศพมนุษย์เพื่อให้นักศึกษาแพทย์ได้นำไปทำการผ่านั้นทำได้ยากมาก ศพที่สามารถซื้อขายเพื่อนำมาศึกษาได้อย่างถูกกฎหมายมีเพียงแค่ศพของนักโทษประหารเท่านั้น แม้ฟังดูน้อยนิดแต่มันก็เพียงพอจนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายที่ทำให้เกิดการประหารชีวิตน้อยลง เมื่อมีผู้ถูกประหารชีวิตน้อยลง แต่จำนวนศพที่ต้องการใช้เรียนค่อยๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้การหาศพเพื่อใช้ในการศึกษาจึงเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น
เพื่อให้ได้ศพมาเรียนได้อย่างเพียงพอ ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยหรือครูสอนพิเศษบางคนถึงกับต้องยอมจ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่อซื้อศพโดยที่ไม่มีการถามถึงที่มาของศพ
คนเฝ้าสุสานจะคอยดูเมื่อมีผู้เสียชีวิตและพิธีการฝังศพเสร็จสิ้นแล้ว พวกเขาจะขุดหลุมศพนั้นและนำสิ่งของมีค่าเก็บไว้ ส่วนศพถ้าเกิดมีความสดมากพอก็จะนำไปขาย ซึ่งการขโมยของมีค่าและนำศพไปขายนั้นสร้างปัญหาจนถึงกับทำให้ญาติของผู้เสียชีวิตจะต้องคอยผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าสุสานเพื่อให้แน่ใจว่าศพของผู้วายชนม์จะเน่าไปตามกาลเวลาและไม่มีใครมาขุดหลุมขโมยออกไปขาย
WIKIPEDIA PD
วิลเลียม เบิร์กและวิลเลียม แฮร์ มีความคิดที่เหนือกว่าคนที่คอยจ้องจะขุดสุสาน เพราะทั้งคู่ไม่ต้องการรอให้เสียเวลาพวกเขาจึงทำการฆ่าผู้คนไปกว่า 15 คน ภายในระยะเวลาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1827 จนถึง ตุลาคม ค.ศ. 1828 หรือราวๆ หนึ่งปี โดยนำศพที่ได้ไปขายให้กับดอกเตอร์ โรเบิร์ด น็อกซ์ ที่เป็นครูสอนวิชากายวิภาคให้แก่นักศึกษาในมหาวิทยาลัย
ศพแรกที่คือศพของชายนามว่าโดนัลด์ เขาคือชายสูงอายุที่อาศัยอยู่ ณ บ้านเช่าของแฮร์และแถมยังติดหนี้วิลเลียม แฮร์อยู่4 ปอนด์ และเมื่อโดนัลด์เสียชีวิตฆาตกรคู่นี้ทำทีเป็นใส่เปลือกไม้ไว้ในโลงแทนก่อนจะนำศพไปขายในราคา 7.1 ปอนด์หรือราวๆ 1,100 ดอลลาร์ในปัจจุบัน
3
ต่อมาวิลเลียม แฮร์ก็มีผู้เช่ารายใหม่ที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงอีกหนึ่งคนคือ โจเซฟ เดอะ มิลเลอร์ แต่โจเซฟก็ไม่ได้ป่วยขนาดที่จะเสียชีวิตในเร็ววัน พวกเขาจึงจัดการฆาตกรรมด้วยการมอมเหล้าจนโจเซฟไม่ได้สติก่อนจะบีบจมูกและปิดปากจนโจเซฟถึงแก่ความตายและไม่ทิ้งร่องรอยอันใดให้ถูกสงสัยว่าเป็นการฆาตกรรมก่อนจะนำศพไปขาย
1
วิลเลียม เบิร์กและวิลเลียม แฮร์ตัดสินใจที่จะทำเรื่องแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา แต่ปัญหาคือผู้เช่าบ้านของวิลเลียม แฮร์นั้นไม่ใช่ทุกคนจะเป็นคนป่วยหรือคนแก่ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหาเหยื่อเพิ่ม ทั้งคู่เริ่มหลอกล่อผู้คนตามท้องถนนโดยมีเป้าหมายเป็นคนที่น่าจะไม่สามารถต่อสู้ขัดขืนพวกเขาได้ หรือดูเป็นคนที่มีโอกาสจะเสียชีวิตจากสาเหตุทางธรรมชาติได้
1
WIKIPEDIA PD
จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อมีคนเข้าไปเอาของที่บ้านของวิลเลียม แฮร์ พบศพของแมรี ดอคเฮอร์ตีที่ใต้เตียงจึงได้ไปแจ้งตำรวจ แต่วิลเลียม เบิร์กและวิลเลียม แฮร์ได้ทำการย้ายศพออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง และเมื่อมีการสืบสวนและขยายผลก็ทำให้พบเจอว่าสุดท้ายแล้วศพของแมรี ดอคเฮอร์ตีนั้นอยู่ในชั้นเรียนของดอกเตอร์นอกซ์
เมื่อเรื่องราวของแมรี ดอคเฮอร์ตีที่เป็นเหยื่อรายล่าสุดของฆาตกรคู่นี้เผยแพร่สู่สาธารณชนก็มีรายงานเพิ่มเติมและมีการปะติดปะต่อถึงการหายตัวอย่างปริศนาของผู้คนก่อนหน้านี้และพบว่าทั้งหมดมีการเชื่อมโยงเกี่ยวกับวิลเลียม เบิร์กและวิลเลียม แฮร์
สุดท้ายแล้วก็มีการตัดสินว่าวิลเลียม เบิร์กคือผู้นำในการฆาตกรรม ทางด้านวิลเลียม แฮร์ได้หักหลังวิลเลียม เบิร์กโดยรับสารภาพและขอการคุ้มครองพยานพร้อมทั้งให้การเล่าถึงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับคดี
1
WIKIPEDIA PD
ในที่สุดวิลเลียม เบิร์กถูกตัดสินให้ถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1829 และเมื่อวิลเลียม เบิร์กเห็นฝูงชนที่เข้ามาดูการประหารด้วยความเกรี้ยวกราดและโห่ร้องตะโกนใส่เขา วิลเลียม เบิร์กได้รีบไปยังบ่วงที่จะใช้แขนคอเพื่อให้การประหารผ่านไปได้เร็วที่สุด แต่สุดท้ายเมื่อถึงเวลาถูกแขวนคอเขาทรมานเป็นเวลาเวลากว่า 2 นาทีก่อนจะแน่นิ่งไป และศพของเขายังถูกแขวนไว้กว่า 30 นาที โดยมีผู้ชมการประหารหลายคนพยายามยื้อแย่งเชือกที่แขวนคอเบิร์กอีกด้วย ปัจจุบันโครงกระดูกของวิลเลียม เบิร์กถูกจัดแสงอยู่ ณ วิทยาลัยการแพทย์เอดินเบิร์ก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา