6 พ.ย. 2020 เวลา 12:31 • ประวัติศาสตร์
อาวุธคู่กายนักรบสปาร์ต้านั้นไม่ใช่ดาบ!! แต่คือ......
หลายท่านคงมีโอกาสได้รับรู้ถึงเรื่องราวความกล้วหาญของชาวสปา จากภาพยนตร์ เรื่อง 300 มาแล้ว แต่ในความเป็นจริงที่มีการบันทึกนั้นค่อนข้างต่างจากในหนัง
2
เป็นที่ทราบกันในวงกว้างว่าชาวสปาร์ต้านั้นใช้ชีวิตที่แตกต่างกับชาวกรีกในนครรัฐอื่นอย่างชัดเจน เช่น การที่เมืองต่างๆไม่มีกําแพงในการป้องกัน การที่พลเมืองสปาร์ต้าใช้เวลาในการฝึกและให้ทาสทํางานต่างๆให้ตนแทน หรือ แม้กระทั่งผู้หญิงที่ต้องมีกิจกรรมทางกีฬาตั้งแต่เยาว์วัย จึงทําให้หญิงสาวชาวสปาร์ต้าถูกยกย่องว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในบรรดานครรัฐกรีก
1
แต่สิ่งหนึ่งที่นครรัฐกรีกมีเหมือนกันนั้นคือรูปแบบการรบ ที่พัฒนากลายมาเป็นเอกลักษณ์ของชาวกรีกโบราณซึ่งรวมทั้งสองนครรัฐ เอเธน และ สปาต้าด้วย
วิธีการรบแบบฟาลั้ง(Phalanx) เป็นวิธีการรบที่ใช้เวลาในการฝึกฝนและต้องมีระเบียบวินัยอย่างมากเพราะถ้ารูปขบวนเสียคือการพ่ายแพ้ในการทําสงคราม ฉนั้นชาวกรีกจะคงรูปขบวนไว้เสมอและจะไม่มีใครแตกแถวออกจากรูปขบวนขณะทําการรบ
อาวุธหลักในการรบนั้น คือ โล่ไม้และหอกเหล็กยาว โดยขบวนรบจะเป็นการยืนเรียงแถวหน้ากระดาน และมีแถวตอนลึกลงไปขึ้นกับกําลังพลของตนและศัตรู โดยการตั้งท่าเตรียมปะทะจะมีการนําโล่มาเรียงให้ชิดกันมากที่สุดในตับหน้าเพื่อป้องกันการแทงของหอกศัตรู และ จะมีการจับหอกในมือขวา ด้วยความที่หอกมีความยาวและขบวนยืนชิดติดปันทําให้ตับหลังบางส่วนสามารถใช้หอกของตนช่วยแนวหน้าได้เช่นกัน
เมื่อการเคลื่อนรูปขบวนเข้าปะทะกัน ตับแรกสุดของทั้งสองฝ่ายจะใกล้ชิดขนาดที่โล่ทั้งสองฝ่ายถูกใช้ในการดันศัตรู และ ตับหลังๆจะใช้โล่ของตนดันหลังคนข้างหน้าเพื่อส่งแรงผลักให้แนวปะทะ
1
หอกของชาวกรีกนั้นถูกออกแบบมาโดยปรับปรุงมาจากสงคราม กล่าวคือ หอกนั้นจะมีปลายแหลมทั้งสองปลายของด้าม โดยจะมีปลายเหล็กแหลม และ ปลายสําริดแหลม ปลายเหล็กนั้นจะเป็นส่วนที่ไว้ใช้แทงศัตรูยามขบวนเข้าปะทะกัน ส่วนปลายสําริดนั้นถูกคาดเดากันว่าเพื่อที่สามารถปักลงพื่นได้เมื่อต้องใช้สู้กับพลม้า หรือ เมื่อยืนประจําการ เพราะว่า สําริดจะไม่เกิดสนิมเมื่อสัมผัสกับความชื้น อีกหนึ่งสิ่งที่ทําให้หอกต้องมีปลายแหลมสองด้านนั้นคาดว่าเพื่อให้สังหารข้าศึกที่นอนบาดเจ็บในสนามรบได้เมื่อขบวนค่อยๆดันศัตรูไปข้างหน้า และ หอกยังสามารถใช้การได้หากข้างหนึ่งหักระหว่างการสู้รบ
ถึงอย่างไรก้ดีนักรบสปาต้าก้ได้พกดาบสั้นไปด้วยเมื่อทําการรบ ซึ่งอาจจะพกถึงสองเล่มด้วยกัน และ จะใช้ยามจําเป็นเช่นหอกไม่สามารถหาจุดเปิดของเกราะศัตรูได้หรือหอกพังไปในการรบ โดยดาบจะมีความสั้นเหมาะแก่แนวหน้าในการฟันจุดอ่อนของศัตรู อาทิเช่น ช่องระหว่างโล่ในรูปขบวนศัตรู หรือ ชุดเกราะศัตรู
โฆษณา