Blockdit Logo (Mobile)
MotorPlayboyz
•
7 พ.ย. 2020 เวลา 18:16 • ยานยนต์
หลายคนอาจพึ่งเคยเห็น พึ่งเคยรู้จักกับ Toyota Mirai
แต่นี่เป็น Toyota Mirai Generation ที่ 2 แล้ว
ที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนธันวาคม 2020 ที่จะถึงนี้
Toyota Mirai มีอะไรน่าสนใจ ??
แล้วแตกต่างอย่างไรกับรถรุ่นอื่น ตาม MotorPlayboyz มาดูกัน
ถ้าพูดถึงรถเก๋งในตระกูล Toyota ก็คงหนีไม่พ้น 3 รุ่นหลักๆ
ที่เข้ามามีบทบาทในประเทศไทย
อย่าง Vios, Corolla Altis และ Camry
โดยเฉพาะ Corolla Altis และ Camry
ที่ได้เทคโนโลยี Hybrid ที่ทาง Toyota พัฒนาต่อมาจาก Prius
ทำให้เป็นที่นิยมเพราะมันประหยัดน้ำมัน
แต่หารู้ไม่ว่า Toyota คลั่งไคล้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกอย่างอื่น
มากกว่าเทคโนโลยี Hybrid ซะอีก
พลังงานนั้นคือ ไฟฟ้าพลังงานหรือ Fuel cell
ที่อาศัยการเติม Hydrogen
เป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมันในการผลิตกระแสไฟฟ้า
ซึ่ง Toyota ได้ทำการเปิดตัว Toyota Mirai (Gen1) ไปแล้วในปี 2015
แต่เชื่อว่าหลายคนคงแทบไม่เคยรู้จักเลยเพราะ "มันล้มเหลว"
คำว่า Mirai หมายถึง อนาคต ในภาษาญี่ปุ่น
สิ่งที่ทำให้ Toyota เชื่อว่ารถ Hydrogen จะเป็นอนาคตของรถยนต์เพราะว่า
Toyota Mirai สามารถทำระยะทางได้ถึง 502 กิโลเมตร/ Hydrogen 1 ถัง
ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของรถยนต์ไฟฟ้าในปีนั้น
และใช้เวลาในการเติม Hydrogen พอๆกับการเติมน้ำมัน
แถมยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเป็น 0 เหมือนกับรถไฟฟ้า
แต่ Toyota ต้องประสบปัญหาเมื่อยอดขาย
Toyota Mirai ในปี 2015 มีเพียง 2,400 คันเท่านั้น !!
และจนถึงปัจจุบันยอดขายรวมก็มีไม่เกิน 6,000 คัน
เหตุผลที่ทำให้ Toyota Mirai มียอดขายต่ำมาก
คือ การเติม Hydrogen เต็ม 1 ถัง มีราคาประมาณ 2,590 บาท
ซึ่งการเติมน้ำมัน 1 ถัง ประมาณ 50 ลิตร มีราคาประมาณ 2,400 บาท
(ประเทศอังกฤษราคาน้ำมันลิตรละ 47 บาท)
จะเห็นได้ว่ามันแทบไม่ต่างอะไรกับการเติมน้ำมันเลย
และสถานีบริการในตอนนั้นก็ยังมีน้อยมากๆ
อีก 1 เหตุผลที่ทำให้ยอดขาย Toyota Mirai 2015 ล้มเหลว
ก็คือค่าตัวของรถคันนี้อยู่ที่ 1.79 ล้านบาท
ซึ่งถือว่าไม่ได้ถูกเลยในช่วงเวลานั้นกับรถที่พึ่งเปิดตัวใหม่
เมื่อ Toyota ยังไม่ยอมแพ้ และลุย Project นี้ต่อ
ทำให้เกิดเป็น Toyota Mirai Gen2
ซึ่งทาง Toyota แอบบอกมาว่าสามารถวิ่งได้ไกลกว่าเดิม 30%
นั่นก็ประมาณ 643 กิโลเมตร/Hydrogen 1 ถัง
พร้อมกับเผยโฉมภายในและภายนอก
ที่ดูสวยและหรูหราเอามากๆ
แต่จะทำให้ประสบปัญหาซ้ำรอยหรือเปล่า ??
สิ่งที่ Toyota ควรทำคือลดราคาค่าตัวลง
เพราะเป็นกำแพงแรกของลูกค้า
เพิ่มสถานีบริการ Hydrogen
ให้มากเทียบเท่ากับสถานีบริการน้ำมัน
และลดราคา Hydrogen ลงให้เท่าหรือถูกกว่าน้ำมัน
สิ่งนี้สำคัญมาก เพราะถ้าจะขายในประเทศไทย
ราคาน้ำมันถูกกว่าอังกฤษเป็นเท่าตัว..
โฆษณา