8 พ.ย. 2020 เวลา 23:47 • ธุรกิจ
สวัสดีเช้าวันจันทร์ แฟนเพจ FuturISt@NIDA ทุกท่าน
FuturISt@NIDA ขอนำเสนอบทความที่ผู้ชื่นชอบและสนใจในศาสตร์ของการศึกษาอนาคตอย่างท่านไม่ควรพลาด
บทความวันนี้จะเล่าให้ท่านฟังถึงบริษัท NOKIA แบรนด์ที่ไม่มีใครไม่รู้จักในยุคแรกของการใช้โทรศัพท์มือถือ
ถึงมีวิธีการมองอนาคตที่ทำให้ NOKIA กลับมายืนหยัดอีกครั้ง หลังจากความล้มเหลวที่ผ่านมา ติดตามบทความที่น่าสนใจนี้ไปพร้อม ๆ กัน
ภาพการมองอนาคตกับบทเรียนของ NOKIA
การมองอนาคตกับบทเรียนของ Nokia
การมองอนาคต (Foresight) คือ การคาดการณ์และวิเคราะห์อนาคตอย่างเป็นระบบ ผ่านความคิดสร้างสรรค์ผสมกับจินตนาการ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงโครงสร้างและเหตุผลอย่างเป็นระบบ
การคาดการณ์อนาคตเน้นใช้หลักการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญเพื่อค้นหาแนวโน้ม และอนาคตที่เป็นไปได้ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการออกแบบรูปแบบอนาคตที่องค์กรต้องการให้เป็น
การคาดการณ์อนาคตมีการใช้เครื่องมือที่หลากหลาย เช่น การกวาดสัญญาณแนวราบ การสร้างและวิเคราะห์ฉากทัศน์ในอนาคต การพยากรณ์ย้อนหลัง เป็นต้น สิ่งสำคัญของการใช้เครื่องมือ คือการไม่ยึดติดกับการใช้ข้อมูลเดิมๆ หรือการประเมินความสัมพันธ์เชิงเหตุผลแบบแยกส่วนและตามกรอบคิดเดิมๆ เพราะจะนำไปสู่การคาดการณ์ที่ไม่ครอบคลุมทางเลือกของอนาคตที่เป็นไปได้ทั้งหมด และอาจนำไปสู่การตัดสินใจและใช้ทรัพยากรในทางเลือกที่ไม่ได้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดขององค์กร
โนเกีย (Nokia) แบรนด์เชื้อสายฟินแลนด์ชื่อดังระดับโลกที่ก่อตั้งเมื่อปี 1865 มีชื่อเสียงมาจากเทคโนโลยีของอุปกรณ์การสื่อสาร โทรศัพท์ วิทยุ รวมถึงเครือข่ายสัญญาณโทรคมนาคม โดยโนเกียเป็นแบรนด์แรกๆของโลกในยุคบุกเบิกการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่
เมื่อโลกเข้าสู่ยุค 3G โทรศัพท์โนเกียก้าวเข้าสู่ยุคทอง โดยมีมูลค่าหุ้นที่สูงที่สุดของตลาดหลักทรัพย์ในประเทศ สร้างรายได้มากมายให้รัฐบาลฟินแลนด์ และเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นโดยผ่านตาจากภาพยนตร์ดังหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง The Matrix ภาคแรกในปีค.ศ. 1999 ที่มี Nokia 8110 และในปีค.ศ.2007 ในหนังเรื่อง Transformers ที่มี Nokia N93i ได้รับบทบาทให้แปลงร่างได้
ต่อมาในปีค.ศ.2007 มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นแบบ Smartphone ภายหลังจากที่แอปเปิ้ลเปิดตัวโทรศัพท์แบบสัมผัสหน้าจอ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้ยอดขายของโนเกียลดลงจนถึงขั้นต้องปลดพนักงานเกือบหมื่นกว่าคนในปีค.ศ. 2014
สาเหตุสำคัญของความล้มเหลวในช่วงนั้นของโนเกียเกิดจากความกลัวว่าผู้ใช้จะไม่คุ้นเคยและไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานในรูปแบบใหม่ และการไม่สามารถนำองค์กรให้หลุดออกจาก Comfort Zone และความสำเร็จชุดเดิม จึงทำให้ระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์ไม่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมาร์ทโฟนที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน โนเกียได้หวนกลับคืนสู่ตลาดโทรศัพท์อีกครั้ง แม้ว่าโนเกียจะไม่ติด 3 อันดับแบรนด์โทรศัพท์ขายดีที่สุดในไทย (โนเกียถูกจัดอยู่ 1 ใน 10 อันดับ) แต่ในสหภาพยุโรปและตะวันออกกลางรวมถึงเวียดนามกลายเป็นโนเกียที่ติดอันดับ Top 3 ของสมาร์ทโฟนและฟีเจอร์โฟนขายดี และเป็นธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคมที่สามารถเป็นเจ้าของสัญญา 5G ทั้งหมด 63 ฉบับทั่วโลก
จากเรื่องราวของโนเกียจะเห็นได้ว่า การให้ความใส่ใจและจริงจังกับการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยไม่ถูกกับดักทางความคิดขัดขวาง และสามารถวางแผนเตรียมความพร้อมรองรับกับความเป็นไปได้ของอนาคตรูปแบบต่างๆ องค์กรก็จะสามารถรักษาความสำเร็จและเก็บเกี่ยวโอกาสทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปตามอนาคตที่ไม่แน่นอนได้อย่างต่อเนื่อง
การคาดการณ์อนาคตจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกองค์กรควรมีความรู้และนำไปปรับใช้ เพื่อนำองค์กรออกมาจากกรอบเดิมๆ เตรียมพร้อมรับมือกับทุกความไปได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
บทความโดย
สิริมา มหาเวทศาสตร์
อ่านบทความอื่น ๆ และสนใจปรึกษาข้อมูลแนวคิดการมองอนาคตเพิ่มเติมได้ที่
Facebook Fanpage : FuturISt@NIDA
Tel : 0803487505
โฆษณา