Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฟุ้ง [Random Thought]
•
ติดตาม
9 พ.ย. 2020 เวลา 06:34 • ดนตรี เพลง
บทความที่ 2: ทำเพลงต่าง gen ต่างความคิด ปรับตัวยังไง
ผมเคยทำงานเพลงกับน้องๆ หลานๆ gen Y และก็ gen Z นะ บอกเลยประทับใจในความสามารถมากๆ เค้าจะมีไอเดียแปลกๆ เยอะมากจนล้นแบบที่เราคาดไม่ถึงเสมอๆ พลังเค้าเยอะ บางทีเราก็ตามไม่ทันเค้า ต้องมาเรียนรู้กัน ถ้าคุณอยากจะเห็นผลงานที่ดี ใหม่ ทันสมัย คุณต้องพร้อมที่จะปรับตัว
น้องๆ เปรียบเสมือนรถสปอร์ต การขับรถที่แรงและเร็ว มันอันตราย ถ้าอยากไปถึงจุดหมายโดยปลอดภัยด้วยกันมันต้องมีเทคนิค ผมขอแชร์ประสบการณ์ตรงให้เพื่อนๆ รับฟังกันนะครับ
1. ลดตัวตนของเราลงและยอมรับความแตกต่างเข้าใจถึงข้อจำกัดขีดความสามารถของแต่ละคนในฟังชั่นที่แตกต่างกัน พยายามมองในส่วนที่ดีที่เป็นจุดแข็งแล้วดันมันออกมา เพชรที่สวยงามทุกเม็ดต้องผ่านการเจียระไน ความโดดเด่นจึงจะเกิด
2. หัดเป็นผู้ฟังที่ดี จับประเด็นให้ได้ว่าน้องๆ ต้องการผลงานให้ไปในรูปแบบไหน ของแบบนี้อยู่ที่ชั่วโมงบินในการทำงานและการสังเกตของแต่ละคน ประสบการณ์จะเป็นตัวบอกเราว่า บางทีเราอาจจะต้องใช้ Reference ในการคุยกัน ซึ่งถ้าโชคดี เลือกตัวอย่างที่ตรงใจได้ โจทย์การทำงานก็จะเร็วขึ้น และเข้าใจถึงเป้าหมายที่จะไปให้ใกล้เคียงถึงความต้องการมากที่สุด
3. ปรับตัวเราตามไอเดียของน้องๆ ที่เราคิดว่าเหมาะสมและให้โอกาสน้องๆได้แสดงออกพิสูจน์ตัวเอง เช่น บางทีเราว่ามันไม่น่าจะใช่ แต่เราอย่าพึ่งตัดสินว่ามันผิด ต้องให้โอกาสในการลองความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ๆ บ้าง บางทีเราก็ต้องออกจาก comfort zone จุดที่เราสบายใจเพื่อจะได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ มันคือการเติบโต การเปลี่ยนแปลง
4. อดทนต่อความผิดพลาด ขอโทษและให้อภัยกับตัวเอง และน้องๆที่ร่วมงานด้วย พยายามทำมันออกมาให้ดีที่สุด ข้อผิดพลาดทุกอย่างจะเป็นประสบการณ์ และเราก็จะไม่ทำผิดแบบเดิมซ้ำอีก
5. เวลาเกิดความขัดแย้งทางความคิด ผมจะหยุด time out พักเบรคกันยาวๆ พาไปทานขนม ของกินอร่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวหน้าเป็ด ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยารสดั้งเดิม ผมมักจะเปลี่ยนเรื่องคุยในเรื่องที่เราทั้งคู่น่าจะสนใจเหมือนๆ กัน มันจะเป็นอะไรที่แย่มาก ถ้าคนที่ moody อารมณ์ไม่ดีสองคนมาชนกันในขณะที่ท้องกำลังบ่นว่าหิว เชื่อไหมอารมณ์บางทีก็อยู่เหนือเหตุผล มันคือบางสิ่งที่คาดเค้นไม่ได้มันไม่ได้ดั่งใจไปซะทุกอย่าง ทุกอย่างมันจะมีเวลาของมัน ถ้าแตกหักคือสิ่งจำเป็น ขอให้เป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ ถ้าคุณคือโปรของจริง คุณต้องควบคุมใจของตัวเองให้ได้ ต้องมีวิธีการประณีประนอมที่เหมาะสม และคำว่าพังทั้งคู่คุณก็อาจหลีกเลี่ยงจนจบโปรเจค ซึ่งมันก็แล้วแต่ความชอบ เคมี ความเข้ากัน ถ้าอยากทำต่อก็ทำ หลายคนบอกว่า ถ้ามันไม่ใช่ ก็หยุดซะจะได้ไม่เสียเวลาของกันและกัน และก็เป็นการรักษามิตรภาพ ผมเห็นด้วยนะถ้าทั้งสองฝ่ายสบายใจ เอาที่สบายใจ เพราะ Talents / Producers มีมากมาย หน้าใหม่เกิดขึ้นทุกวันทุกคนมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่เหมาะสมที่สุด แต่เชื่อผมสิ ถ้าคุณคือตัวจริง คุณก็จะทำเพลง for life จุดหมายสุดท้าย ทุกคนก็จะต้องมาเจอกันในงานเทศกาลดนตรีสักงาน อาจต้องเจอในห้องประชุมเพื่อ Pitch งานแข่งขันกันเอง อาจเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน หรืออาจเดินสวนกันในสตูดิโอดีๆ สักที่วงการโลกดนตรีมันแคบเกินกว่าที่คุณจะเข้าใจ มันจะดีกว่าถ้าคุณไม่มีหลุมดำในใจกับใคร (ข้อ4 ช่วยคุณได้)
6. ในระบบทุนนิยมและโลกาภิวัตน์ที่หมุนเร็ว สิ่งที่เราคิดว่าดีแล้วดีแน่แท้จริงแล้ว วันรุ่งขึ้นก็เจอรูปแบบใหม่ sound ใหม่ในสิ่งที่ดีกว่า หรือชิ้นงานที่เหมาะสมกว่่าอันที่เรากำลังลงแรงทำ ของแบบนี้ต้องทำใจถ้าเราเป็นปลาเล็กๆ ในมหาสมุทร เราต้องปรับตัวให้เร็วกว่าระบบความคิดที่เป็นแมส แต่อย่าหยุดทำกลางคัน ทำให้เสร็จตามที่ตั้งใจแล้วเก็บเอาไว้ใช้ในโอกาสที่เหมาะสม เหมือนนาฬิกาที่ตายยังบอกเวลาถูกได้สองครั้งในหนึ่งวัน(แบบมีเข็ม) ของแบบนี้เรียกว่าการมี commitment ในสิ่งที่เราตกผลึก มันคือการให้คุณค่ากับเวลา ต้นทุน และความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงาน มันไม่ผิดหรอกในการที่จะชอบสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา แต่เราต้องมีความอดทน ทำให้เสร็จ แล้ว move on ไปทำโปรเจคใหม่ที่น่าสนใจตามวาระใหม่ การมีเพลงที่เหมาะสมในแต่ละโอกาสเพื่อการเลือกใช้มันคือข้อดีอันหนึ่ง เหมือนเรามีธนาคารเพลงส่วนตัว มันเป็นการเพิ่มโอกาสของทีมงาน
7. ไม่มีทุกสิ่งที่สมบูรณ์ perfect ไปหมดทุกอย่าง เปิดใจรับความไม่ perfect เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และทำหน้าที่ของเราในวันนี้ให้ดีที่สุด บางสิ่งที่่ไม่ perfect อาจเป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคต
สุดท้ายนี้ มีสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับการบริหารจัดการโปรเจค คือการเรียนรู้ที่จะควบคุมจังหวะในการทำงาน รู้ว่าแค่ไหนคือพอและดีกับความต้องการ พูดง่ายๆ มันก็คือหลัก less is more มันคือการหาสมดุลย์ของงานและชีวิต
บางจังหวะการทำงานต้องใช้เกียร์ต่ำเพื่อเน้นย้ำความสมบูรณ์แบบในห้วงเวลาหนึ่ง บางทีก็ต้องการเกียร์สูงเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่รวดเร็วขึ้นเพื่อแข่งกับเวลา บางทีถ้าจังหวะมันไม่ได้ ไอเดียที่ใช่ยังไม่มาก็ต้องหมอบ หยุดพักชั่วคราว แต่ไม่ได้ยอมแพ้ เลิกทำ มันอยู่ที่สถานการณ์
หวังว่าเกร็ดเล็กๆ บางส่วนในบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนทำเพลงทุกคน อยากให้ทุก genมีความสุขกับการทำงานด้วยกันนะครับ
#JiLUSZtudio #ฟุ้ง #RandomThought
Bedroom Studio IG: @JiLUS.Ztudio
youtube.com
JiLUS Ztudio
JiLUS Ztudio: A Place Called Home For The Musicians Follow us on fb.com/jilusztudio
1 บันทึก
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย