9 พ.ย. 2020 เวลา 13:39 • นิยาย เรื่องสั้น
[เรื่องสั้น] The Way I love You
น้ำตาที่คนเราหลั่งออกมานั้นประกอบด้วยฮอร์โมนความเครียดในระดับสูงอย่าง Adrenocorticotrophic hormone (ACTH) และ enkephalin ที่เป็นเหมือนยาแก้ปวดจากธรรมชาติ
แต่นอกจากฮอร์โมน หรือสารเคมีในร่างกายแล้ว จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่ความทรงจำของคนเราจะถูกหลั่งออกมาพร้อมกับน้ำตา เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในจิตใจ
เสียงนาฬิกาปลุกดังกัมปนาทราวโลกจะถล่มจนมือเรียวต้องโผล่จากใต้ผ้าห่ม คว้าเอาสมาร์ตโฟนผลุบหายเข้าไป ไม่กี่วินาทีต่อมาเสียงก็ดับไป และเพียงเสี้ยววินาทีต่อจากนั้น กลับมีเสียงแหลมกริ๊งดังปลุกจากนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งเจ้าของห้องตั้งไว้เพราะรู้นิสัยขี้เซาของตัวเองดี
ขาเล็กเรียวต้องก้าวลงจากเตียง เดินโซเซไปปิดต้นเสียงแสบหู หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงเลือดหมูเผยภาพลักษณ์นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ท่าทางตอนนี้อย่างกับคนโดนสาดน้ำจนไฟดับอ่อนปวกเปียก ยืนค้ำโต๊ะเครื่องแป้งด้วยเพราะยังไม่ตื่นดี ผ่านไปครู่หนึ่งจึงค่อย ๆ เบิกตาขึ้นมาพบกับสภาพของตัวเองในกระจก
เสียงหวีดร้องจากหญิงสาวดังแหลมยิ่งกว่าเสียงนาฬิกาปลุกเมื่อครู่ เพราะเงาที่สะท้อนในกระจกนั้นยิ่งกว่าคำว่าสภาพยับเยิน ผมเผ้ายุ่งเหยิง เครื่องสำอางเยิ้มเยิน แต่สิ่งที่เป็นหายนะที่สุดสำหรับเธอคือคราบมาสคาร่าที่ไหลเป็นทางดำยาว คือหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าเมื่อคืนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“เว่ย เว่ย เว่ย เว่ย แย่แล้ว”
.
คำอุทานอย่างไม่อาจระบุภาษาได้ถูกลั่นออกมา พร้อมกับคำสุดท้ายที่บ่งบอกสถานการณ์ตอนนี้ของเจ้าตัว
“เห้ย! เมื่อคืนพี่เมาแล้วร้องไห้มาเหรอ”
.
เสียงน้องสาวร้องถามจากข้างหลัง เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาแล้วพบกับภาพในกระจกแต่งตัวบานเขื่อง พอไม่ได้คำตอบในทันที น้องผู้ควบหน้าที่ผู้ช่วยจึงรีบปรี่เข้าไปหมุนร่างพี่สาวให้หันมาสบตา
.
“จำได้มั้ยว่านี่ใคร”
“น้ำ”
.
คนถูกถามตอบอย่างมั่นใจ แต่ในน้ำเสียงกลับสะท้อนแววสับสนออกมาอย่างชัดเจน
คนเป็นน้องถอนหายใจอย่างโล่งอก สาเหตุที่ต้องถามคำถามนี้ทันทีที่รู้ว่าพี่สาวผ่านการร้องไห้ นั่นก็เพราะทุกครั้งที่พี่สาวของเธอร้องไห้ เมื่อตื่นเช้ามาอีกวัน จะมีคนหนึ่งคนถูกลบออกไปจากความทรงจำ
ซึ่งพี่สาวของเธอเป็นโรคประหลาดนี้มาตั้งแต่ตอนที่สูญเสียพ่อแล้วร้องไห้อย่างใจสลายนานหลายชั่วโมงข้ามวันข้ามคืนจนสลบไป พอฟื้นขึ้นมาก็ลืมทุกอย่างเกี่ยวกับพ่อไปหมด ราวกับไม่เคยมีพ่อมาก่อนในชีวิต และเหตุการณ์ทำนองนี้ก็เกิดขึ้นบ่อย ๆ
หนักสุดเคยลืมเพื่อนสนิทที่คบกันมาสิบกว่าปี เพราะวันก่อนหน้านั้นร้องไห้ตอนที่บังเอิญได้ดูฉากเศร้าในซีรีส์เกาหลี หลังจากนั้นทุกคนรอบตัวต่างก็ตระหนักได้ว่าอาการของคนเจ้าน้ำตาคนนี้นั้นหนักกว่าที่คิด
นอกจากจะต้องไปพบจิตแพทย์เป็นประจำ น้ำยังต้องคอยดูแลอยู่ข้างกายพี่สาวอย่างใกล้ชิด เมื่อพี่เปิดบริษัทเป็นของตัวเอง เธอก็เป็นทั้งเลขา เป็นผู้ช่วย เป็นทุกอย่างให้พี่แล้ว แม้กระทั่งคนบันทึกความทรงจำสำรอง
“เห้อ บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าเมา พอเมาแล้วพี่ก็เดี๋ยวหัวเราะเป็นคนบ้า เดี๋ยวร้องไห้เป็นคนอกหัก ถ้าเกิดลืมคนสำคัญไปจะทำยังไง แต่ก็นะ เอาเถอะ ใจเย็น ๆ กันก่อน ก่อนอื่นมาเช็คก่อนว่าคนสำคัญที่ต้องนัดเจอภายในสัปดาห์นี้มีใครถูกลืมรึเปล่า”
น้ำอดไม่ได้ที่จะบ่นก่อนเริ่มทำหน้าที่ผู้ช่วย ทั้งสองคนเดินไปที่เตียง หยิบไอแพดจากลิ้นชักข้างหัวเตียง จากนั้นเปิดดูคลังภาพบุคคลทีละภาพเพื่อเช็กความทรงจำ ซึ่งสรุปว่าในลิสต์รายชื่อไม่มีใครถูกลืม
“แล้วพี่ลืมใครไปเนี่ย”
.
คนมีปัญหากับความจำทึ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิดกับการที่ต้องมานั่งนึกหาสิ่งที่ตัวเองลืมไปแล้ว จะไม่นึกก็ไม่ได้ด้วย เพราะกลัวว่าจะเผลอลืมคนสำคัญไปอีก
“ช่างมันก่อนเถอะ ตอนนี้ไม่ลืมใครในนี้ก็โอเคแล้ว อาจจะเป็นเพื่อนสมัยอนุบาลคนใดคนหนึ่งที่ไม่น่าจะได้เจอกันแล้วก็ได้นะ แบบนั้นดีซะอีก จะได้เพิ่มพื้นที่เมมในสมอง เอาไปใช้วางแผนงานของพี่ดีกว่าเนาะ ไปอาบน้ำแต่งตัวกินข้าวไปทำงานกันค่ะคุณธิติยา”
ธิติยาถอนหายใจแรงอย่างเซ็งตัวเอง ก่อนจะลุกจากเตียงเดินหน่าย ๆ เข้าห้องน้ำไปเริ่มต้นกิจวัตรประจำวัน
วันนี้ทั้งวันทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นปกติ ธิติยาจำทุกคนในออฟฟิศได้ เมื่อเจอหน้าใครก็เอ่ยเรียกชื่อ และทักทายด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำเป็นประจำเพื่อจดจำทุกคนให้แม่น จนพนักงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
“คุณเธียน่ารักเป็นกันเองมาก ๆ เลย”
พอเลิกงานกลับมาถึงบ้าน เมื่อจอดรถเข้าที่เรียบร้อยธิติยาก็แยกกับน้องสาว เปลี่ยนใส่รองเท้าผ้าใบออกไปเดินเล่นในสวนของหมู่บ้านตามที่บอกน้องสาวไว้ระหว่างทางกลับบ้าน
ทุก ๆ ครั้งที่มีเรื่องกลุ้มใจ หรืออะไรที่คิดไม่ตก เธอมักจะเดินไปเรื่อย ๆ เดินไม่หยุด และปล่อยความคิดไปเรื่อยเปื่อย เมื่อทำแบบนั้นแล้วธิติยาจะรู้สึกดีขึ้นมาก ๆ แม้ว่าจะยังแก้ไขปัญหาในหัวหรือในใจไม่ได้ก็ตาม ซึ่งเรื่องที่วิ่งวนอยู่ในความคิดตลอดวันนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ว่า
เธอลืมใครไป
ขาเล็ก ๆ เดินไป ทบทวนถึงคนสำคัญในความทรงจำไปคนแล้วคนเล่า มากหน้าหลายตาต่างเคลื่อนเข้ามาย้ำเตือนคำพูดสำคัญ ภาพงดงาม และความรู้สึกอันหลากหลายแตกต่างกันไป
ธิติยาเดินจนจำได้ว่าวนกลับมาที่เดิม แล้วความคิดทุกอย่างก็ดับพรึ่บลงพร้อมกับไฟทั้งหมู่บ้าน แต่เพียงไม่กี่วินาทีต่อมายังไม่ทันตกใจด้วยซ้ำ ไฟฟ้าก็สว่างขึ้นอีกครั้ง
โคมไฟสวนสาดลงมา ปรากฎให้เห็นใครคนหนึ่งที่มายืนอยู่ตรงหน้าเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ธิติยามองนิ่ง กระพริบตา แล้วมองใหม่อีกที ร่างสูง ๆ ขาว ๆ ก็ยังคงอยู่ที่เดิม จึงคิดว่าไม่น่าจะใช่ผีแน่นอน
ริมฝีปากแดงธรรมชาติที่ขัดกับผิวขาวซีดยกยิ้ม
“ไม่ผิดตัวแน่ ๆ ทำหน้าเหมือนเห็นผีแบบตอนที่เจอกันครั้งแรกเลย”
เสียงทุ้มเอ่ยแซว แต่กลับไม่ทำให้คนแซวรู้สึกขบขัน หรือรู้สึกถึงการโดนแหย่ ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือความรู้สึกอบอุ่นในใจ ราวกับว่าเคยเจอคนคนนี้มาก่อน ทั้ง ๆ ที่เธอไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ
หรือว่า
“หืม”
.
ชายหนุ่มขมวดคิ้วตามใบหน้าที่ดูสับสนของหญิงสาวตรงหน้า
.
“หรือว่า”
.
เข้าเว้นช่วงเพื่อสังเกตสีหน้า จนมั่นใจแล้วว่าใช่ แต่ก็ถามเพื่อเช็คอีกที
.
“เธอลืมพี่เหรอ”
มือเล็กม้วนกำเขาหากันแน่นด้วยความเกร็งอย่างฉับพลัน ลมหายใจเหมือนโดนตัดขาดตั้งแต่ตอนที่ได้ยินคำถามเมื่อครู่ เขาเป็นใคร แล้วใกล้ชิดหรือสำคัญขนาดไหน ถึงได้รู้ว่าเธอมีอาการลืม
แต่จะด่วนสรุปอย่างนั้นก็ไม่ได้ น้ำเคยสอนไว้ว่าถ้ามีใครที่ไม่รู้จักมาทำท่าทีเหมือนรู้จัก ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าไม่รู้จักเพื่อป้องกันพวกมิจฉาชีพ ธิติยาจึงผ่อนลมหายใจอย่างไม่ให้อีกฝ่ายจับอาการตื่นตกใจได้ แล้วเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“ขอโทษนะคะ คุณน่าจะจำคนผิด ฉันไม่รู้จักคุณค่ะ”
.
พูดจบเบี่ยงตัวเดินฉับ ๆ ไปแต่ก็ต้องหยุดชะงักลงด้วยเสียงที่ตะโกนตามมา
“เธีย”
เขารู้จักชื่อเธอ น้ำเสียงที่เรียกก็ฟังดูอบอุ่นอย่างคุ้นเคย แถมยังทำให้รู้สึกปวดหนึบที่ใจอย่างไม่มีสาเหตุ นัยตาร้อนผ่าวเหมือนน้ำตาจะไหล นี่มันความรู้สึกบ้าบออะไรกัน
จะร้องไห้พร่ำเพื่อขนาดนี้ไม่ได้เด็ดขาด ขาเล็กขยับวิ่งต่อ ทิ้งให้คนเรียกยืนมองตามจนร่างบางเลี้ยวหายไป
เหมือนครั้งนั้นไม่มีผิด เธอทำท่าตกใจแล้ววิ่งหนีไป ถ้ารู้ว่าจะถูกลืมแบบนี้ น่าจะพกร่มเหลืองมาด้วยก็ดี จะได้เริ่มต้นความทรงจำใหม่ ให้ไม่ต่างจากความทรงจำครั้งนั้น คนที่ยังยืนอยู่คิดแล้วก็ได้แต่เสียดายในใจ
“ไม่โรแมนติกเหมือนในหนังอีกแล้ว”
.
เขาแค่หายไปเรียนต่อต่างประเทศไม่กี่ปี กลับมาเจอกันครั้งแรกในบรรยากาศสลัว ๆนึกว่าจะพุ่งเข้ากอดกันแน่นด้วยความคิดถึง แต่โดนลืมเฉยเลย
คาวีชิน สัตวแพทย์หนุ่มทำหน้าละห้อย ปากคว่ำอย่างรู้สึกท้อ
1
โฆษณา