9 พ.ย. 2020 เวลา 17:03 • ประวัติศาสตร์
ปิดตำนานเจ้าพ่อชัยบาดาล
วันที่ 29 กันยายน 2545 นายสมชาย หรือหยอง
พงษ์สว่าง นายดีลำซา ตุลา และสมุนรวม 4 คน
เดินทางกลับจากงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อมาถึงบริเวณ ถนนสายพระพุทธบาท ท่าเรือ หมู่ 4 ต.พุกร่าง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เลยทางเข้าโรงงานปูนซีเมนต์เอเชีย ประมาณ 100 เมตร
2
จุดเกิดเหตุมีลักษณะเป็นทางโค้ง เปิดโอกาสให้คนร้ายเร่งเครื่องแซงประกบด้านขวา กลุ่มมือปืนชุดดำที่นั่งอยู่ท้ายรถกระบะ ได้ใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงถล่มรถของนายสมชายกับพวก
 
หลังได้รับแจ้งเหตุ ร.ต.ท.สมศักดิ์ สมพานต์ ร้อยเวร สภอ. พระพุทธบาท จ.สระบุรี ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถเก๋ง มิตซูบิชิ สีบรอนซ์เทา
ถูกยิงด้านขวาเป็นรูพรุน 13 รู ภายในรถพบคนขับเป็นชายถูกยิงตายคาเบาะคนขับ ฟุบหน้าอยู่กับขอบกระจกประตูรถ เมื่อพลิกร่างขึ้น ปรากฏว่าเป็นนายสมชาย หรือหยอง พงษ์สว่าง อายุ 59 ปี สภาพศพสวมเสื้อซาฟารีสีเทา กางเกงขายาวสีน้ำตาล สวมสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท
มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 ที่ท้ายทอย 1 นัด กระสุนฝังใน เลือดและมันสมองไหลออกมาอาบร่างชวนสยอง
4
ห่างจากจุดเกิดเหตุพบกองเลือดและอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก มีกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกเรี่ยราดอยู่ตามพื้นถนน ส่วนนายดีลำซา ตุลา อายุ 60 ปี เพื่อนของนายสมชายไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จากการสอบถามทราบว่ามีผู้บาดเจ็บอีก 2 คน โดยได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านั้นแล้ว
3
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปดูอาการ ทราบชื่อต่อมาคือ นายเดชาหรือตุ๋ย ปาทาน อายุ 53 ปี อาชีพค้าเนื้อวัว เป็นเพื่อนนายสมชาย ถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 เข้าด้านหลังซ้าย 1 นัด อาการสาหัส และนายอุสมาน หูหนาน อายุ 19 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้ากลางหลัง 1 นัด
เสียชีวิติระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล
นายดีลำซา ตุลา ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนเดินทางไปร่วมงานแต่งงานญาติที่
อ. ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี จากนั้นนายสมชายได้ขับรถมุ่งหน้าเข้า อ.พระพุทธบาท เพื่อไปส่งนายเดชา โดยนายเดชานั่งคู่ที่เบาะหน้า นายอุสมานนั่งอยู่เบาะหลังคนขับ ส่วนตนนั่งอยู่เบาะหลังด้านซ้าย เมื่อเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงปืนรัวสนั่นถี่ยิบ
คมกระสุนเจาะเข้าท้ายทอยนายสมชายตายคาที่ ทำให้รถขาดคนควบคุมพุ่งตกลงข้างทาง คนร้ายใช้รถปิกอัพนิสสันบิ๊กเอ็มแบบแค็บ สีบรอนซ์ ขับผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ว่าคนร้ายสะกดรอยตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ นายเดชาและนายอุสมานซึ่งถูกยิงบาดเจ็บแต่ยังมีสติดี แข็งใจเปิดประตูวิ่งตามรถคนร้ายโดยชักปืนไล่ยิงตามหลัง แต่วิงไปได้ 20 เมตร ทั้งคู่ก็ทรุดกองอยู่กับพื้น
3
ในส่วนของการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย พ.ต.อ. กมล พันธุงาน ผกก.สภ.อ.พระพุทธบาทเผยว่า มีการสอบปากคำพยานหลายปากยืนยันตรงกันว่า กลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ 2 คัน ในการลงมือ โดยคันแรกเป็นรถเก๋ง ทำหน้าที่ชี้เป้าและติดตามเหยื่อ ขับตามประกบรถของนายสมชายตั้งแต่ออกจากบ้านไปงานแต่งงานญาติทั้งขาไปและขากลับ ส่วนรถของมือปืนเป็นรถกระบะ คนร้ายจอดรถซุ่มอยู่ในเขตพื้นที่ ต. บางโขมด อ.บ้านหมอ จ. สระบุรี โดยกลุ่มคนร้ายมีการใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อสั่งงานกันตลอดเวลา
2
จนกระทั้งรถของนายสมชายวิ่งเข้าเขต อ.บ้านหมอ รถของมือปืนจึงรับช่วงต่อไล่ตามมาห่างๆ สบโอกาสที่รถของนายสมชายชะลอความเร็วขณะเข้าโค้ง ได้เร่งเครื่องแซงประกบด้านขวา เปิดฉากยิงใส่ไม่ยั้งจนรถของนายสมชายตกลงข้างทาง โดยคนร้ายได้กลับรถมาดูผลงานอีก 1รอบ ก่อนจะขับหลบหนีไปทาง
อ. บ้านหมอ
1
โดยระยะหลังมานี้นายสมชายมีการระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เปลี่ยนรถใช้ไม่ซ้ำกัน รถที่ถูกยิงถล่ม นายสมชายยืมมากจากนายยิ่งยง ปาทาน พี่ชายนายเดชา ปาทาน ถึงแม้จะมีการระมัดระวังตัวมากแค่ไหนแต่ก็ไม่วายถูกลบชื่อออกจากทำเนียบเจ้าพ่อ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประการสังหารโหดครั้งนี้ไว้ 3 ประเด็น
1. ความขัดแย้งในเรื่องที่ดินในเขต ต.ลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี กับนายอากร นันทมานนท์ หรือเสี่ยงั๊ก โดยฝ่ายเสี่ยงั๊กถูกลอบยิงกันมาแล้วถึง 3 ครั้ง แต่รอดมาได้ทุกครั้ง
1
2. นายสมชาย เคยพาพวกบุกยิงอดีตดาราภาพยนตร์รุ่นเก่าคนหนึ่งที่ จ. สระบุรี แต่อดีตดารารอดมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะใส่เสื้อเกราะกันกระสุน แต่ไม่มีการแจ้งความ เพราะเกรงจะเสียศักดิ์ศรี และต้องการที่จะล้างแค้นด้วยตัวเองมากกว่า
3. คดีที่นายสมชายเข้าไปเกี่ยวพันธ์กับการอุ้มฆ่านายสารวัต คุ้มแพรพรรณ น้องชายของฤทธิ์ ลือชา
1
ทางด้านฤทธิ์ ลือชา มีชื่อจริงว่า นายชรินทร์ คุ้มแพรพรรณ ได้ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการสังหารโหดครั้งนี้ ความขัดแย้งเมื่อ 8 ปีก่อน ได้เคลียร์กันจนเข้าใจแล้ว โดยมีไบคาน เป็นคนกลาง
ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 และผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ เพื่อสอบถามกรณีการสังหารโหดนายสมชาย โดย พล.ต.อ. ชะลอ กล่าวว่า สำหรับการตายครั้งนี้ตนไม่สามารถที่จะชี้ชัดได้ว่ามาจากเรื่องอะไร เพราะเราต่างคนต่างอยู่ รวมทั้งตนอยู่ในสภาพเช่นนี้ ไม่ทราบอะไรมากนัก
2
“สำหรับคดีที่ผมทราบตั้งแต่เป็น ร.ต.อ. ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ไอ้หยองได้ก่อคดีสังหารแม่เลี้ยงและครอบครัวรวม 5 ศพ พอผมมาเป็น ผกก.ที่ จ.ลพบุรี ไอ้หยองได้ปล้นฆ่ารถบรรทุกน้ำมัน และนำศพไปฝังภายในไร่ของตัวเอง ครั้งนั้นผมรับหน้าที่ในการสืบสวนและนำกำลัง นปพ. กว่า 100 คน บุกค้นภายในไร่ที่ อ.ชัยบาดาล
และสามารถขุดเอาซากศพคนขับรถออกมาได้”
4
ส่วนการเสียชีวิตของลูกชายตน ได้มีคนร้ายดักอุ้มไปฆ่ากดน้ำที่บึงแห่งหนึ่ง มีพยานเป็นเด็กเลี้ยงควายเห็น แต่เมื่อเรื่องไปถึงศาลก็ไม่สามารถเอาผิดกับคนร้ายได้ ตนจึงเกิดความเคียดแค้นและประกาศออกไปว่า
1
“ถ้าไอ้หยองหนีออกนอกประเทศ ก็กลับเมืองไทยไม่ได้ ถ้ามีกูอยู่”
“ครั้งนั้น นายไบคานและ พ.ต.ณรงค์ กิตติขจร มาขอเจราไม่ให้เอาความ แต่ผมไม่ยอม เพราะเขาก่อคดีปล้นฆ่าอย่างโชกโชนไม่ว่าจะใน จ.ลพบุรี จ.สระบุรี แม้แต่ จ.ตาก ไอ้หยองยังส่งคนไปฆ่าแม่ค้าที่ตลาด หลังจากที่ผมถูกจับและเข้ามาอยู่ในเรือนจำคดีอุ้มฆ่าสองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขันธ์ ไอ้หยองก็แอบเข้ามาไทยทันที แถมยังส่งสมุนที่เป็นแขกร่วมมือกับผู้คุมที่เป็นแขกด้วยกัน หวังจะฆ่าปิดบัญชีผมในเรือนจำ แต่ไม่สำเร็จเพราะผมทราบเรื่องก่อน ”
3
ส่วนเรื่องความขัดแย้งของนายสมชายไม่เฉพาะนักค้าวัวด้วยกันเท่านั้น แม้แต่ชาวบ้านก็มีความขัดแย้งไปทั่ว เช่น เรื่องการซื้อที่ดินจะซื้อเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่ไม่ซื้อทั้งผืน ซื้อเฉพาะบริเวณรอบนอก เพื่อกดดันให้เจ้าที่ด้านในยอมขายในราคาถูก ส่วนเรื่องที่นายสมชายไปข่มขืนลูกเมียคนมีชื่อเสียงคนหนึ่งใน จ.ลพบุรี จนเกิดความโกรธแค้น ได้มีการติดต่อกลุ่มคนมีสีมาสังหารโหดในครั้งนี้ก็อาจเป็นได้
2
สำหรับนายไบคาน ผู้เป็นพ่อได้ล้มป่วยด้วยโรคหัวใจ ความดัน ภายหลังป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2545 หลังจากที่นายสมชายเสียชีวิตได้ 14 วัน รวมอายุได้ 98 ปี ซึ่งสาเหตุของการทรุดหนักญาติเผยว่า ไม่ได้มาจากการเสียใจที่นายสมชายถูกยิงตาย เพราะญาติพยายามปกปิดเรื่องนี้มาโดยตลอด และนายไบคานเองก็จำอะไรไม่ค่อยได้แล้ว
1
โฆษณา