11 พ.ย. 2020 เวลา 05:45 • ดนตรี เพลง
[รีวิวอัลบั้ม] Selfmade - UrboyTJ
ทำเอง ทำเลย
[รีวิวอัลบั้ม] Selfmade - UrboyTJ
-ในฐานะที่ผมโตมากับค่าย Kamikaze ซิงเกิ้ลฮิตจากค่ายนี้ก็ผ่านหูผมมาก็ไม่น้อย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หลังจากที่ค่ายเพลงวัยรุ่นที่ถูกปิดไป ศิลปินจากค่ายที่ไม่คิดว่าจะดังกลับดังเป็นพลุแตกเป็นเรื่องเป็นราวจนสามารถหาเลี้ยงตัวเองด้วยผลงานเพลงได้จนถึงทุกวันนี้ ในขณะที่คนอื่นๆผันตัวเองไปเป็นนักแสดงหรือ youtuber แทบทั้งสิ้น จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก UrboyTJ หรือ เต๋า-จิรายุทธ ผโลประการ อดีตสมาชิกวง 3.2.1 ที่ underrated มากในช่วงนั้น สปอตไลท์แทบจะส่องไปที่สมาชิกคนอื่นมากกว่า จนถึงตอนนี้เต๋าแทบจะเป็นศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยเลยด้วยซ้ำ
-ไม่ว่าคุณจะคิดแบบไหน overrated เกินไปหรือไม่ ซิงเกิ้ลที่เขาคนนี้ปล่อยออกมาสามารถเป็นเครื่องมือพิสูจน์ได้ว่า เขาคนนี้แม่งป็อปปูล่าร์ของจริง อาทิเช่น #เค้าก่อน (Rebound) ที่ตอนหลังถูกเอาไปแซวเป็นมีมกันยกใหญ่ โดยเฉพาะเวลาหิว ที่ชัดเจนและเป็นอัตลักษณ์ของเขาคนนี้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นเพลง #วายร้าย (Villain) จนมันเป็นภาพจำของไอ้หนุ่มตัวลายลุคส์แบดๆของเขาคนนี้ไปเลย ด้วยสำเนียงฮิปฮอปที่ติดเซนส์ป็อปสูงราวกับหลุดมาจากค่ายเก่า บวกกับน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ยิ่งสามารถดึงสาวกที่โหยหาสำเนียงเพลงป็อปจากอดีตค่ายวัยรุ่นชื่อดังกับแฟนเพลงใหม่ที่กำลังเพิ่งเห่อมอยเทรนด์ฮิปฮอปที่กำลังมาได้ไม่ยากเย็น ในเมื่อเพลงมันดัง แถมไม่มีค่ายสังกัด การบินเดี่ยวของทีเจถือว่ากล้ามากเก่งมากเลยล่ะ
-ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา TJ ปล่อยซิงเกิ้ลเดี่ยวและไปแจมกับคนอื่นมากมายนับไม่ถ้วน ถึงเขาจะไม่ใช่แร็ปเปอร์ที่เน้นแร็พดุเดือดเลือดพล่านเหมือนคนอื่นๆที่เน้นกลอนหรือไรห์ม แต่เขาคนนี้มีทักษะการทำเพลงด้วยเมโลดี้สุด catchy อย่างที่ใครก็ปฏิเสธไม่ได้ การที่เพลงฮิปฮอปเริ่มใกล้ชิดกับป็อปมากขึ้นถือเป็นเรื่องปกติที่คอเพลงพอรับได้อยู่แล้ว ไม่อยากให้ไปถือสามาก ในเมื่อมัน catchy เสียจนเข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย เขาก็ไปได้เรื่อยๆอยู่ดี นอกจากเพลงที่ฮิตติดลมบนได้เรื่อยๆ บทบาทการได้เป็นโค้ชในรายการ The Rapper ก็เป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงความแมสได้อีกเช่นกัน จนทุกคนดันลืมไปเลยว่า เป้าหมายของศิลปินที่แท้จริงคือ การออกอัลบั้มเดี่ยวสักครั้งในชีวิต
-จะบอกว่า 4 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหกกลายเป็นวลีที่ปกติไปแล้ว ด้วยยุคดิจิตอลที่ทำให้ไลฟ์สไตล์ของเราเร็วยิ่งกว่าเข็มนาฬิกา ในที่สุดเต๋าก็ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวอย่างที่ใครหลายคนอยากเห็นอยากฟังเสียทีด้วยชื่อเข้าใจง่ายเข้าใจตรงกันว่า Selfmade ดูได้จากปกอัลบั้มด้วยเครดิตที่บอกว่า ทุกเพลงประพันธ์ เรียบเรียง และโปรดิวซ์โดย UrboyTJ แทบทั้งสิ้น และไม่สังกัดค่ายใดไม่เคยเปลี่ยน เป็นการตอกย้ำการยืนด้วยลำแข้งตัวเองอย่างแท้จริง artwork อัลบั้มที่เข้าใจคิดเข้าใจเล่นสมกับเป็นแร็ปเปอร์สายแฟชั่นตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นการใช้โทนสีสุดจี๊ด เสื้อผ้าแบรนด์เนมต่างๆนาๆ ยิ่งทำให้จินตนาการถึงโทนเพลงที่หวือหวาไม่แพ้ใครอย่างแน่นอน แถมการเพิ่มพร้อพด้วยสติ๊กเกอร์ และอมยิ้มก็ทำให้ผมจินตนาการถึงโทนเพลงของทีเจว่ามันจะต้องออกมาในแนวจี๊ดจ๊าดหวานหูอย่างแน่นอน ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆครับ
-จุดสังเกตบนหน้าปกอัลบั้มที่ไม่พูดถึงไม่ได้อยู่ที่ สเปรย์รอยยิ้มที่ฉีดลงบนถุงก็อปแก๊ปสีเหลือง เป็นรอยยิ้มแหยะๆที่แสดงออกถึงความไม่สุขมากก็เหงาหงอยมากจากภายใน และมีน้ำตาย้อยลงมาตรงนัยน์ตาหน่อยๆ สะท้อนถึงอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดที่เป็นนัยยะโรคซึมเศร้าโดยส่วนตัวของทีเจที่เขามักอยากจะบอกแฟนเพลงอยู่เสมอ ถ้าฮิปฮอปมันคือรสชาติแห่งความไหม้ของกลิ่นบุหรี่หรือกลิ่นปุ๊นก็แล้วแต่ เนื้อหาแห่งความผิดหวังในความรักคือรสขมล่ะก็ สำหรับทีเจแล้ว เขาจะทำให้มันเป็นขนมลูกกวาด เปรี้ยวหวานจนเราตื่นได้แน่นอน
-เปิดอัลบั้มด้วย #ชูมือขึ้น (HANDS UP) เหมือนแทร็คอุ่นเครื่องก่อนคอนเสิร์ตชัดๆ ยิ่งมีประโยคขยับเขยื้อนร่างกายก็ชวนนึกถึงเพลงวอร์มร่างกายก่อนเต้นแอโรบิคเหมือนกัน เป็นการป่าวประกาศโชว์พราวในความ We made it ที่ทำให้เขาอยู่เหนือกว่าใครในตอนนี้ด้วยจังหวะ upbeat แบบการ์ตูน #ถามคำ (QUESTION?) ผมเชื่อว่าคนที่โตมากับค่ายเก่าฟังครั้งแรกต้องยิ้ม เพราะเพลงแม่งโคตรกามิกาเซ่เลย กิมมิคซ่อนมาตั้งแต่ชื่อเพลงที่ล้อกับเพลงฮิตของเฟย์ ฟาง แก้ว #คำถาม จนมันกลายเป็นเวอร์ชั่นมุมมองผู้ชายไปโดยปริยาย ถือเป็นการเซอร์วิสแฟนเพลงกลุ่มผู้โหยหาอดีตในตัว แถมมัน catchy เสียจนมันติด Trending ในยูทูปในวันแรกๆที่ปล่อยออกมา
#อยู่ก่อน (STAY) เพลงนี้ฮิตอีกแล้ว การได้พี่โอ๊ต ปราโมทย์ แดดดี้ของทีเจมาฟีทก็ช่วยเรียกแฟนคลับพ่อหมีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ภาคดนตรีเนี่ยดิ มันมีความ G-Funk ที่เฟี้ยวมากและหวานแหววไปในตัว มันเป็นการย่อย West Coast Hip Hop ให้เข้าถึงได้ทุกวัย โดยที่ไม่สูญเสียความเป็นแมนแต่อย่างใด มันมีความสองแง่สามง่ามอยู่หน่อยๆ มันมีประโยคจำพวก ชวนเธอดูดปีโป้ ชวนเธอมาดู Netflix อะไรพวกนี้ ซึ่งเด็กมันฟังได้ ไม่รู้หรอกว่าทำไมต้องชวนดู Netflix สาวๆก็รู้สึกดีอยากจะสนุกไปกับมัน นับว่าเป็นการย่อยแนวเพลงแมนๆให้ดูอบอุ่นที่ได้ผล
#ช่วยไม่ได้ (CAN’T HELP) เพลงบรรยากาศชิวล์ที่น่าจะบอกแทนประสบการณ์ตรงของหนุ่มโสดได้ เหมือนคนที่ส่องไอจีสาวที่แอบชอบทุกวันจนเราอยากแช่งให้เขาโสดไร้คู่แบบนี้ไปเรื่อยๆเพื่อความสบายใจไปวันๆ อคลูสติคต่อเนื่องด้วยเพลงที่เศร้ากว่าอย่าง #กอดได้ไหม (ONE LAST TIME) เป็นโหมดเพลงเหงาเศร้าที่ใครดาวน์หนักๆก็ฟังไม่ได้เหมือนกัน คล้ายๆกับเพลง “รังเกียจกันไหม” แต่มันเศร้าชัดเจนกว่า มันคือการขอกอดลาที่รู้ว่าสุดท้ายก็จากกันโดยไม่เจอะเจอกันอีก เพราะเค้ามีคนอื่นแล้ว มันเป็นครั้งสุดท้ายที่ใครๆก็ไม่อยากให้มันเป็นจริง มันเลยเศร้าตรงนี้ #Selfmade ไตเติ้ลแทร็คประจำอัลบั้ม สไตล์แร็พบัลลาดที่ได้ Violette Wautier มาขับขานท่อนฮุคเป็นภาษาอังกฤษจนต้องสะกดมนต์ ด้วย meaning ของการทำด้วยตัวเองเป็นตัวของตัวเอง อย่าตัดสินจากคนภายนอก เลยกลายเป็นเพลงเพื่อชีวิตประจำอัลบั้มนี้ไปเลย
#ซุปเปอร์ไซย่า (SUPER SAIYAN) เป็นแทร็คที่ aggressive ที่สุด เหมือนทีเจบอกว่าเขากลายเป็นอีกร่างนึงไปเลย ได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนที่ทุกคนรู้กัน Dragon Balls ตอนที่แกไปเล่นเกมส์การ์ตูนเกมส์นี้ที่บ้านพ่อหมีโอ๊ต ไม่ได้แทรก ref การ์ตูนหนักขนาดนั้น ส่วนใหญ่เป็นการด่า haters เอามันส์ที่โคตรเดือดดาลประมาณว่า อยากใส่ Converse Nike ไปเหยียบบนหน้ามึง เหยียบสองตีนแล้วเก๊กอีกท่านึง เหมือนสะสมความเก็บกดเอาไว้แล้วมาทิ้งบอมบ์ให้เต็มที่ในแทร็คนี้ แชมป์ Maiyarap ลูกทีมคุ้นเคยในรายการ The Rapper Season 2 ก็ขอเอาตีนยันหน้ากับเค้าด้วย แดกดันไม่แพ้กัน #รับให้ได้ (Take It) trap pop เต็มสูบ เคล้าคลอด้วย autotune เพิ่มความดิบความสากเข้าไป กลายเป็นเพลงรักข้างเดียวด้วยความจำยอมในแบบเท่ห์ๆที่ไม่ควรมองข้าม #ยิ่งเกลียดยิ่งรัก (Love You Hate You) เหมือนเราชอบใครสักคนแล้วเค้าไม่ชอบเราตอบ ให้ความหวังลมๆแล้งๆ แล้วมันเจ็บใจตรงที่ว่า เกลียดเธอที่เป็นแบบนี้ แต่ก็ลืมไม่ลงว่ะ เพราะฉะนั้นก็ช่วยให้เธอเกลียดเราแล้วไม่ต้องมาเจอหน้าเลยจะดีกว่า
-พอเข้าสู่ช่วง 2 แทร็คสุดท้าย ทีเจพาเราไปสำรวจถึงมุมมองส่วนตัวของการเป็นโรคซึมเศร้า มีทั้ง #สักวัน (ONE DAY) ถึงเมโลดี้โดดเด้ง positive มาก แต่มันไม่ใช่เพลงฟีลกู๊ดแต่อย่างใด มันคือการพร่ำบอก ให้กำลังใจตัวเองว่า ชั้นต้องผ่านมันไปให้ได้ ชั้นต้องยิ้มขึ้นได้อีกครั้ง ขอแทรกด้วยบทสัมภาษณ์ของ The Cloud ทีเจเคยเปรียบเปรยชีวิตกับโลกอินเตอร์เน็ตว่า มันจะมีคอมเมนท์ 99% ที่ชอบเพลงของเค้า อีก 1% กลับไม่ชอบแล้วตอกย้ำด้วยคำว่า “กาก” กลายเป็นว่า 1% อันนั้นทำให้เค้าอ่อนไหวจนก้าวข้ามความรู้สึกนี้ไปไม่ได้ ซึ่งมันไปตรงกับประโยคของพี่กานต์ นักร้องนำวง The Parkinson ที่ร่วมแจมที่ร้องว่า “ชั้นพยายามทำให้เธอมารักกัน ชั้นพยายามเป็นทุกอย่างดั่งที่เธอไฝ่ฝัน แต่สิ่งที่ทำมันไม่เป็นดั่งใจหวัง” มันเป็นเพลงที่ถูกครอบด้วยความรัก แต่มันมากกว่าการง้อคนรักเก่ามารัก แต่มันคือการง้อคน 1% ให้มาถูกใจในตัวเรา เป็นเพลงแอบซ่อน meaning ความ depression ที่เข้าใจง่ายแต่ก็ hurt เหมือนกัน เพราะมันครอบด้วยความรัก
#หลับตา (GOODNIGHT) ก็เช่นกัน มันไม่ใช่เพลงส่งเธอให้หลับฝันดี แต่มันคือหลับไปเลยเพื่อไม่ให้เจอเรื่องเลวร้ายเสียมากกว่า อคลูสติคเหงาๆ แต่ความซึมเศร้าชัดเจน มีโบนัสแทร็คเป็นเพลงภาษาอังกฤษ SAD ONE ตอกย้ำความเป็นแบดบอยที่ซ่อนความเศร้าไว้ข้างใน ด้วยน้ำเสียงโหยหวนเคล้าออโต้จูนชวนนึกถึง Post Malone ชัดๆ อีกหนึ่งไม้ต่อส่งสัญญาณโกอินเตอร์ที่อาจได้เห็นในเร็ววัน
-ขอต่อยอดจากการฟังบทสัมภาษณ์ใน The Cloud อีกซักหน เป้าหมายที่แท้จริงของเขาคนนี้ ไม่ใช่เรื่องยอดวิวบนยูทูป แต่เป็นที่เขาสามารถทำให้ตัวเองและคนรอบข้างเค้ามีความสุขได้ ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตชายหนุ่มคนนี้ การอยู่บนโลกนี้ให้ได้นานถึงขั้นทำเพลงได้ยันแก่เฒ่า เป็นอีกความพยายามนึงในการทำสิ่งที่ตัวเองชอบไปนานๆ ปีนี้เวลานี้ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการเข็นอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของเขา หลังจากที่ปล่อยซิงเกิ้ลเดี่ยวมานานแสนนาน
-เรื่องของความแปลกใหม่ผมคงไม่คาดหวังอะไรมาก อย่างน้อยเขายังคงรักษาซิกเนเจอร์ของตัวเองได้ไม่จางหาย มันคือความคุ้นเคยที่คนฟังหรือคนที่เคยได้ยินเพลงของเค้าสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องไปควานหาเพลงที่ทยอยปล่อยออกมาตลอด 4 ปีเพื่อมาทำความเข้าใจให้ยุ่งยาก เขายังคงสามารถย่อยเรื่องหนักๆให้เป็นเรื่องย่อยง่าย ยังคงความสนุกบันเทิง ถือเป็นความสามารถพิเศษที่น่าชื่นชม
-สิ่งที่เพิ่มเติมคือการปะติดปะต่อเรื่องราวของชายคนนึงให้เป็นเรื่องต่อเนื่องมากกว่าเพลงที่ปล่อยออกมาเว้นช่วงทีปล่อยที การอัพเดทแนวเพลงที่เอาอิทธิพลของ hip hop old school ฝั่งอเมริกา การคารวะเพลงค่ายเก่ากามิกาเซ่ก็ทำให้เราได้เห็นรากเหง้าความโตมาด้วยกันของเต๋า และเทรนด์เพลงร่วมสมัยก็สามารถตามทันเหมือนที่เขาชอบตามกระแสแฟชั่นเนี่ยแหละ เป็นการคิดเลยทำเลยที่ดีกว่าไม่ทำให้ประจักษ์เห็นถึงศักยภาพเต็มรูปแบบที่ push ให้เขาไปได้ไกลกว่าเจ้าพ่อเพลงฮิตที่ปล่อยเพลงออกมาเรื่อยๆเพื่อให้คนไม่ลืม แต่สุดท้ายเทรนด์เพลงมันมาเร็วก็อาจทำให้ถูกลืมได้ อัลบั้มมันคือการทำหนังสือหรือรายงานเล่มนึงที่บอกเล่าชีวิตความคิดความอ่านได้ดีที่สุด
เพื่อบอกว่าเขาคนนี้คือตัวจริงหรือไม่
Top Tracks: ถามคำ (QUESTION?), อยู่ก่อน (STAY), กอดได้ไหม (ONE LAST TIME), ซุปเปอร์ไซย่า (SUPER SAIYAN), รับให้ได้ (Take It)
Give 7/10
Thanks For Reading
See Y’all
โฆษณา