8 ธ.ค. 2020 เวลา 10:08 • สุขภาพ
--อะไรเปลี่ยนไปบ้าง ?--
ที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตอยู่กับ โควิดอย่างไร ?
วาดเล่นเอง
ช่วงแรกเราได้ยินชื่อโรคนี้ว่า โคโรน่า
เมื่อ ธันวาคม 2562
มาจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน
แรก ๆ บอกว่าไวรัสตัวนี้มาจากค้างคาว
ต่อจากนั้นมันก็เริ่มใกล้ตัวเรามากขึ้นเมื่อ มกราคม 2563
และใกล้ตัวถึงขั้นต้องหยุดโรงเรียน
หยุดออกจากบ้าน
หยุดเดินทางในช่วงเดือน 26 มี.ค.-พ.ค. 2563
1
ภาพจากโควิดอู๋ฮั่น
และค่อย ๆ ผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ
ในเดือนถัด ๆ มา
เมื่อเกิดเหตุการณ์แรก ๆ
ก็สับสนอยู่เหมือนกันว่าต้องทำอย่างไร
จริงจังแค่ไหน
ตอนนั้นหน้ากากอนามัยหายาก ขาดแคลน
แอลกอฮอล์ก็หายากด้วย
หน้ากาก N95 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ก็เช่นกัน
2
/ช่วงนั้นบุคลากรทางการแพทย์ต้องเหนื่อยข้ามวันข้ามคืนกันทีเดียว
ส่วนหนึ่งที่มีกำลังใจอยู่บ้านเพราะเราไม่อยากให้หมอเหนื่อย
จิตใจห่อเหี่ยวมากตอนนั้น...
สำหรับเรา บ้านเราอยู่ราชบุรี
เราสามารถกลับไปบ้านได้เลย
แต่เราจะกลับมาที่ทำงานไม่ได้
เพราะห้ามเดินทางนอกเขต
ตอนนั้นเราโทรหาที่บ้านและตัดสินใจไม่กลับบ้าน
เพราะก่อนหน้านี้เราก็มากรุงเทพฯ
เข้าร่วมอบรม ในจำนวนคนที่เกี่ยวข้องกัน
ในการทำงานมีนักศึกษาจีนอยู่ด้วย
และยังไม่นับรวมถึงการไปไหว้พระที่วัดอรุณฯ
วัดบริเวรณสนามหลวงอีกหลายวัด
ขึ้นเรือ ลงเรือ รับเงิน ทอนเงิน
2
เราไม่ได้บอกเรื่องนี้กับที่บ้าน
เพราะกลัวจะเป็นห่วง
ที่เราไม่กลับบ้าน เพราะเราไม่แน่ใจว่าเราติดหรือยัง
แต่เกณฑ์การรักษาดูอาการก็คือกักตัว 14 วันที่บ้านตนเอง
3
ภาพจากเพจอีจัน การกักตัวในโรงพยาบาลของจีน
เราก็เลยกักตัวอยู่ที่บ้านนครปฐม และอยู่ใกล้ที่ทำงานด้วย
เพราะในไลน์กลุ่มยังมีการประชุมเรื่องการทำความเข้าใจนักเรียน
การเตรียมสอน งานที่ยังต้องดำเนินต่อ (ไม่มีเวรนอนโรงเรียนนะคะที่นี่)
1
/วันนั้นเราคิดถึงบ้านมากนะ ไม่เคยไม่กลับบ้านนานขนาดนั้น
แต่ก็คิดว่าไม่กลับน่ะดีแล้ว เราอาจเอาเชื้อโรคไปติดคนที่บ้าน
แนวคิดก็เหมือนคนอื่น ๆ ค่ะ ตอนนั้น
ว่าเราติดหรือยัง หรือกำลังเป็นอยู่ หรือเป็นแล้วหายแล้ว
คำถามวนเวียน...
1
ภาพจากเน็ต
อาทิตย์แรกของการต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน ชุมชนเงียบเหงามาก
เห็นรถจอดอยู่ไม่มาก (เราเดาว่าหลายคนคงกลับต่างจังหวัด)
การอยู่ในเขตใกล้กรุงเทพฯ หากไม่มีงานทำ
รายได้ไม่มี หลาย ๆ ครอบครัวก็เลือกกลับบ้านต่างจังหวัด
คนตกงานมากขึ้น เศรษฐกิจทรุดตัวฯลฯ
เราเห็นหมู่บ้านเงียบ ๆ คล้าย ๆ กับตอนน้ำท่วมเมื่อปี 2554 เลย
เราเห็นไฟเซเว่นปิดตอน 4 ทุ่ม
เรากลัวเสียงไอมากขึ้น (ไม่ว่าเขาจะป่วยด้วยโรคใด)
การใส่หน้าการอนามัยเป็นสิ่งธรรมดา
ไม่ได้ใส่หน้าโล้น ๆ รู้สึกแปลก ๆ
ใครจะคิดว่า
น้ำมันจะถูกมาก
ร้านตัดผมจะปิด
สถานบันเทิง
โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า
สวนสาธารณะและสายการบิน
ปิดให้บริการทั่วประเทศ
ร้านอาหารไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง
ไม่มีสาดน้ำสงกรานต์
เราต้องล้างมือตลอดเวลา
เราไม่สามารถกลับบ้านได้
แต่ครอบครัวที่มีคนเยอะก็ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา
ทุกวันก็นั่งดูข่าวฟังสถานการณ์โควิดรายวันไป
ดูจนรู้สึกว่าคุ้นหน้านายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
ยิ่งกว่าหน้าคนในครอบครัว
https://www.prachachat.net/general/news-447922
แต่เราก็โทรหาพ่อกับแม่ทุกวันนะ ถามเหตุการณ์ต่าง ๆ
ให้กำลังใจกันและกัน
แม่เล่าให้ฟังว่า คนแถวบ้านถามตลอดว่าเมื่อไหร่เราจะกลับบ้าน
เขาจะให้ลูกเขากลับเหมือนเรา...
อยากบอกว่าหมู่บ้านเราเป็นระเบียบมาก ๆ ไม่มีคนแปลกหน้ามา
และถึงรักแค่ไหนก็ไม่ให้กลับมา เพราะกลัวลูกทำเขาเดือดร้อน
วันแรกที่ทางการอนุญาตเดินทาง
เรากลับบ้าน จำได้ว่าแม่ทักว่าผอมลงไปมากนะ
อารมณ์ตอนนั้นเหมือนกลับจากป่านะสำหรับเรา
สังคมครอบครัวจากกันไปนาน
แม่ทำกับข้าวให้กิน
1
หลาน ๆ มาบ้าน แต่ไม่กล้าแตะตัวเรา
เพราะคิดว่าเรามาจากรุงเทพฯ 55+
ดูเป็นคนน่ารังเกียจประมาณหนึ่ง
ความว่างเปล่าช่วงนั้นเราได้กลับมาทำสิ่งที่เราชอบ
ได้เจอตัวเองที่เคยเก็บใส่กล่องไว้
เราลืมมันไปนานมากแล้วว่าเราเป็นคนอย่างไร
1
ตอนเดิมตั้งใจเขียนลาปีนี้จบโควิด
แต่เหมือนว่าวันนี้เขาจะยังวนเวียนอยู่ในชีวิต
หลังจากมีผู้ติดเชื้อโควิด ลักลอบเข้ามาโดยช่องทางธรรมชาติ
1
update วันนี้ (8 ธ.ค.2563)
จากการรายงานพบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 19 คน
มีผู้ติดเชื้อเพิ่มและเป็นบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 4 ท่าน
สัญญาณนี้อาจเตือนว่าเขากลับมาอีกแล้ว
อะไรที่เคยทำก็อย่าละเลย ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง
https://covid-19.kapook.com/view234625.html
ทางจังหวัดราชบุรีเราเองก็มีการแถลงการณ์
เฟสบุค Covid-19 จังหวัดราชบุรี
แถลงการณ์วันนี้ สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนผลตรวจออกมาเป็นลบทั้งหมด
(ผลตรวจออกมาเมื่อคืน 7 ธ.ค.2563)
มีการพูดถึงการท่องเที่ยวในจังหวัดราชบุรีเรา
ที่กำลังเป็นช่วงHigh season
แต่ก็ได้เกิดความกลัวว่าจะติดเชื้อโควิด
ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดฯและ
สาธารณสุขจังหวัด (คุณหมอ) ตั้งโต๊ะแถลงการณ์
เฟสบุค Covid-19 จังหวัดราชบุรี
ได้ออกมายืนยันว่า ในจังหวัดราชบุรีตอนนี้
ทีมงานสาธารณสุขจะดูแลเป็นอย่างดี
ยืนยันว่าการท่องเที่ยวยังท่องเที่ยวได้ปกติ
เสี่ยงสูง 56 ราย
เสี่ยงต่ำ 3 ราย
ตรวจหมดแล้วไม่พบเชื้อ แต่ให้กักตัวตามกำหนด
1
ท่านผู้ว่าฯ ฝากเตือนว่าให้ติดหน้ากากอนามัย
เสมือนติดโทรศัพท์มือถือ
ไปไหนเอาไปด้วย และใส่ให้เรียบร้อย
ให้ระวังตัวตลอดเวลา
พูดถึงเส้นทางธรรมชาติของจังหวัดราชบุรี
ตรงสวนผึ้งและบ้านคา
ผู้ว่าฯ แจ้งว่าสามารถซีลพื้นที่ได้ ไม่ต้องเป็นห่วง
ในส่วนของเส้นทางการเดินทางของผู้ป่วย
เรียกทุกคนที่เกี่ยวข้องมาตรวจโดยกล้องวงจรปิด
จับภาพได้ทุกจุดว่าผู้ป่วยไปไหนบ้าง พบใครบ้าง
หลักฐานเส้นทางการเดินทางชัดเจน
1
ตอนนี้วัคซีนยังไม่มา ผู้ว่าฯ แนะนำว่าตอนนี้
ใส่หน้ากากอนามัยก่อนดีที่สุด
การล้างมือ การรักษาระยะห่าง
เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
รายงานข่าววงใน (แม่ครูเอง)
ตั้งแต่มีข่าวว่ามีคนเป็นโควิดอยู่ในจังหวัดตั้งแต่วันแรก ๆ
แม่บอกว่าโรงเรียนสั่งหยุดเองเลยบางโรงเรียน
แม่เห็นจากหลานไม่ไปโรงเรียน
ครูให้หยุดก่อน ส่วนตัวมองว่า อสม. สาธารณสุข
บุคลากรทางการแพทย์ของจังหวัดเป็นทีมเข้มแข็งมาก
เป็นหูเป็นตาให้กัน มองเห็นความแปลกในหมู่บ้าน
จริง ๆ จะบอกว่าลูกหลานทำงานในจังหวัดตัวเองก็ดีนะคะ
มันทำให้รู้จักกันหมด ส่งข่าว สังเกต เตือนกัน รู้จักกันหมด
1
จริง ๆ ก็ไม่โอเคเลยนะที่คนไม่เคารพกฎระเบียบ
มาทำให้เกิดเรื่องแบบนี้...
และหวังว่าเรายังจะช่วยกันป้องกันโควิด-19 เหมือนเดิม
และระมัดระวังให้มากขึ้น...
ก็ได้แต่ให้กำลังใจกันไป...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา