12 พ.ย. 2020 เวลา 16:30 • ประวัติศาสตร์
• ภาพของแผนที่โลก ที่แสดงถึงประเทศที่เป็นแบบรัฐเดี่ยว (สีน้ำเงิน) กับประเทศที่เป็นรัฐรวม (สีเขียว)
ในทางรัฐศาสตร์นั้น จะมีการแบ่งรูปแบบของรัฐหรือประเทศ อยู่หลากหลายรูปแบบด้วยกัน
แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีการแบ่งประเภทของรัฐออกเป็น 2 แบบ คือ รัฐเดี่ยว (Unitary State) กับรัฐรวม (Federal State หรือ Composite State)
ประเทศที่เป็นรัฐเดี่ยว จะมีเพียงรัฐบาลเดียว ส่วนประเทศที่เป็นรัฐรวม จะมีรัฐบาลกลาง กับรัฐบาลท้องถิ่น
โดยจากจำนวนของประเทศทั้งหมดทั่วโลกมากกว่า 193 ประเทศ (อ้างอิงข้อมูลจากสหประชาชาติ) ได้มีประเทศมากกว่า 166 ประเทศ (หรือคิดเป็น 86%) ที่มีรูปแบบของรัฐแบบรัฐเดี่ยว ส่วนที่เหลือก็มีรูปแบบของรัฐแบบรัฐรวม
สำหรับความแตกต่างระหว่างรัฐเดี่ยวกับรัฐรวม สามารถอธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือ ประเทศที่เป็นรัฐเดี่ยว จะมีรัฐบาลเพียงรัฐบาลเดียว ไม่มีการแบ่งเขตการปกครองภายในประเทศเป็นแบบรัฐ ๆ
โดยตัวอย่างของประเทศที่เป็นรัฐเดี่ยว อาทิเช่น สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, สเปน, จีน, ญี่ปุ่น, รวมไปถึงประเทศไทยของเรา
ในขณะที่ประเทศที่เป็นแบบรัฐรวมนั้น ดินแดนของประเทศจะแบ่งแยกออกเป็นรัฐย่อย ๆ โดยจะมีรัฐบาลอยู่ 2 ระดับด้วยกัน คือ รัฐบาลกลาง กับรัฐบาลท้องถิ่น
โดยรัฐบาลกลาง จะมีอำนาจหน้าที่ในฐานะตัวแทนของประเทศ ส่วนรัฐบาลท้องถิ่น จะมีอำนาจหน้าที่อยู่ในรัฐของตน และต้องขึ้นต่อรัฐบาลกลาง
โดยส่วนใหญ่ประเทศที่เป็นแบบรัฐรวม มักจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีความแตกต่างทางพื้นที่หรือด้านประชากรเป็นอย่างมาก
ตัวอย่างของประเทศที่เป็นรัฐรวม ก็อาทิเช่น สหรัฐอเมริกา, รัสเซีย, แคนาดา, เยอรมนี, ออสเตรเลีย รวมไปถึงอินเดีย เป็นต้น
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา