12 พ.ย. 2020 เวลา 15:45 • การศึกษา
Tell me français EP.10 วันนี้ เสนอ เรื่อง “Les verbe en français” (กริยาในภาษาฝรั่งเศส)
ภาษาฝรั่งเศสวันละเรื่อง วันนี้ เสนอเรื่อง “กริยาในภาษาฝรั่งเศส”
หลายคนคงคุ้นเคยกับกริยากันอยู่แล้วใช่มั้ยคะ ไม่ว่าจะภาษาไหนๆก็ย่อมต้องมีกริยาในการเติมเต็มประโยคอยู่เสมอ ทั้งกริยาที่ไม่ต้องมีกรรมมารองรับ และ กริยาที่ต้องมีกรรมมารองรับ
ภาษาฝรั่งเศสก็มีกริยาเช่นเดียวกันค่ะ ในภาษาฝรั่งเศสจะเรียกกริยาว่า “ verbe “ (แวบ) ซึ่งเขียนคล้ายภาษาอังกฤษเลย แต่ มีการเติม ตัว e มาต่อท้าย เท่านั้นเองค่ะ
ซึ่ง verbe ในภาษาฝรั่งเศสนั้นมีเยอะมากมายหลายตัว และ หลายกลุ่มก้อน มีวิธีการกระจายที่แตกต่างกันออกไป แต่วันนี้ เราจะมาสอน verbe ที่ถือว่าเป็น verbe สำคัญมากๆในภาษาฝรั่งเศสกันก่อนเลยนะคะ มีด้วยกันทั้งหมด 2 ตัวค่ะ
ในภาษาฝรั่งเศสนั้น การที่เราจะพูด หรือ เขียน verbe แต่ละตัวนั้น เราจะต้องคำนึงถึงประธานของประโยคด้วยนะคะ เพราะ เราจะต้องกระจาย verbe ตามประธาน นั้นเอง ถ้าหากเรากระจายผิด ก็อาจจะทำให้คนฝรั่งเศสสับสน และ ไม่เข้าใจได้ค่ะ
เราจะมาเริ่มกันที่ verbe ตัวแรกกันก่อนเลย
—> 1. v.être (แวบ แอด-เทรอะ) มีความหมาย คือ เป็น / อยู่ / คือ หรือ ในภาษาอังกฤษ คือ is / am / are นั้นเองจ้าา
*verbe ตัวนี้ ทุกๆคนต้องจำให้ได้ขึ้นใจเลยนะคะ เพราะ verbe ตัวนี้ จะเอาไปใช้กับหลายๆสถานการณ์มากเลย
หลักการกกระจาย มีดังต่อไปนี้
ถ้าขึ้นต้นด้วยประธานตัวไหน ให้ใช้ verbe ตัวนั้นต่อท้าย
Je (เฌอ) —————> suis (สวี)
Tu (ตู) —————> es (เอ)
il (อิว) —————> est(เล) *มีการเชื่อมเสียงระหว่าง ตัว l และ สระ e*
Elle (แอล) —————> est (เล) *มีการเชื่อมเสียงระหว่าง ตัว l และ สระ e*
On (อง) —————> est (เน) *มีการเชื่อมเสียงระหว่าง ตัว n และ สระ e*
Nous (นู) —————> sommes (ซอม)
Vous (วู) —————> êtes (แซต) *มีการเชื่อมเสียงระหว่าง ตัว s และ สระ ê*
ils (อิว) —————> sont (ซง) ออกเสียงสั้นๆ
Elles (แอล) —————> sont (ซง) ออกเสียงสั้นๆ
—> 2. v. avoir (แวบ อา-วัว) มีความหมาย คือ มี หรือ ในภาษาอังกฤษ คือ have นั้นเอง
*verbe ตัวนี้ ทุกๆคนต้องจำให้ได้เลยนะคะ เพราะ verbe ตัวนี้ก็ใช้บ่อยพอๆกับ verbe être เลย
*เรียกได้ว่า verbe ทั้ง 2 ตัวนี้เป็นหัวใจสำคัญของภาษาฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้*
หลักการกกระจาย มีดังต่อไปนี้
ถ้าขึ้นต้นด้วยประธานตัวไหน ให้ใช้ verbe ตัวนั้นต่อท้าย
Je (เฌอ) —————> ai (เอ)
*แต่ การออกเสียง ประธาน Je และ กริยา ai เราจะไม่อ่านว่า Je ai (เฌอ เอ) เพราะ เวลาอ่านออกมาแล้วเสียงมันไม่เพราะ อ่านแล้วมันจะไม่ละมุน และ ที่สำคัญคือ ในภาษาฝรั่งเศส การที่สระ ชน กับ สระ ต้องทำการลดรูปสระ ตัวหน้า เสมอ* เพราะฉะนั้น การเขียน หรือ อ่านที่ถูกต้องจะต้องเป็น J’ai (เช) นั้นเองค่ะ
Tu (ตู) —————> as (อา)
il (อิว) —————> a (ลา) *มีการเชื่อมเสียงระหว่าง ตัว l และ สระ a*
Elle (แอล) —————> a (ลา) *มีการเชื่อมเสียงระหว่าง ตัว l และ สระ a*
On (อง) —————> a (นา) *มีการเชื่อมเสียงระหว่าง ตัว n และ สระ a*
Nous (นู) —————> avons (ซา-วง) *มีการเชื่อมเสียงระหว่าง ตัว s และ สระ a*
Vous (วู) —————> avez (ซา-เว้) *มีการเชื่อมเสียงระหว่าง ตัว s และ สระ a*
ils (อิว) —————> ont (ซง) ออกเสียงยาว *มีการเชื่อมเสียงระหว่าง ตัว s และ สระ o*
Elles (แอล) —————> ont (ซง) ออกเสียงยาว *มีการเชื่อมเสียงระหว่าง ตัว s และ สระ o*
1
ในภาษาฝรั่งเศส สิ่งที่ยากในการออกเสียง และ การเขียน คือ เราต้องคำนึงถึงการเชื่อมเสียง ระหว่างพยัญชนะตัวสุดท้ายของคำแรก และ คำที่ขึ้นต้นด้วยสระ ในคำถัดไป เพราะ แถบจะทุกครั้งที่เราจะต้องเชื่อมเสียง เพื่อให้การออกเสียงออกมาละมุนที่สุดนั้นเองค่ะ
ตัวอย่างเช่น
—> J’ai vingt-six ans. : ทุกๆคนเห็นมั้ยคะ ว่ามีการเชื่อมเสียงกี่ตำแหน่งเอ่ย....ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก !!!
เฉลย มีการเชื่อมเสียงอยู่ 2 ตำแหน่งนั้นเองค่ะ ตำแหน่งแรก คือ Je และ ai พอมาเจอกัน เลยลดรูปเป็น J’ai (เช)
และ อีกตำแหน่งนึง คือ six (ซิกซ์) และ ans (ออง) พออ่านออกเสียงจะกลายเป็น “ซิกซ์-ซอง” นั้นเองค่ะ เพราะ ตัว x ในภาษาฝรั่งเศส ออกเสียงเป็น ซ.โซ่ พอมาเจอคำที่ขึ้นต้นด้วยสระอย่าง ans เลยเชื่อมเสียงกัน เป็น ซอง นั้นเองค่ะ
งง กันมั้ยเอ่ยย....อยากให้ทุกๆคนลองฝึกเขียนการกระจาย verbe ทั้ง 2 ตัวนี้ (être และ avoir) และ ลองฝึกอ่านประโยคต่างๆในภาษาฝรั่งเศส ที่มีคำเชื่อมเสียง กันบ่อยๆนะคะ เราจะได้จำได้ และ พูดฝรั่งเศส ได้ไหลลื่นมากขึ้นค่ะ
หากใครชื่นชอบ ขอฝากกดไลค์ กดแชร์ และ กดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ ขอขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านบทความของเรานะคะ ☺️☺️ ไว้พบกันใหม่ในตอนหน้าน้าาาา
โฆษณา