16 พ.ย. 2020 เวลา 10:50 • ประวัติศาสตร์
สงครามนองเลือดของชิมแปนซี
ประเทศแทนซาเนียเคยเกิดสงครามระหว่างชิมแปนซีสองกลุ่มในอุทยานแห่งชาติ
กอมเบ (Gombe Chimpanzee War) ตั้งแต่ปี 1974-1978 เรื่องราวทั้งหมดนี้ได้รับการบันทึกโดย เจน กูดัลล์ (Jane Goodall) นักวานรวิทยาชาวอังกฤษที่ลงพื้นที่
สำรวจพฤติกรรมชิมแปนซีในท้องถิ่น
มูลเหตุสงครามเริ่มมาจากเกิดการแบ่งแยกกลุ่มของชิมแปนซีในพื้นที่ 'คาซาเคลา' (Kasakela) ทำให้มีชิมแปนซีส่วนหนึ่งค่อยๆ แยกตัวไปตั้งชุมชนใหม่ในพื้นที่ที่เรียกว่า 'คาฮามา' (Kahama) ราวต้นปี 1974
ไม่นานนักหลังแยกตัว ลิงชิมแปนซีฃจากกลุ่มคาฮามาก็เริ่มโดนชิมแปนซีจากกลุ่ม
เดิมลอบสังหารทีละตัว แม้ชิมแปนซีจากคาฮามาบางตัวจะพยายามผูกมิตรกับฝ่าย
คาซาเคลา แต่ก็ไม่ได้รับเมตตาจากศัตรูทั้งเด็กและตัวเต็มวัย โดยรวมแล้วฝ่าย
คาฮามาสูญเสียไปทั้งหมด 10 ตัว ในขณะที่ผู้รุกรานเสียชีวิตเพียงแค่ 1 ตัว
หลังการนองเลือดอันยาวนาน ในปี 1978 ชิมแปนซีจากคาซาเคลาจึงยกพวกมาต้อนเชลยศึกตัวเมียที่เหลือไปยังพื้นที่ของตน และเข้ายึดครองพื้นที่ในคาฮามาแทน แต่ก็ถูกชิมแปนซีเพื่อนบ้านอีกกลุ่มที่มีกำลังเหนือกว่าขับไล่จนต้องล่าถอยไปจากพื้นที่ในที่สุด
สงครามระหว่างชิมแปนซีครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์สงครามในธรรมชาติของชิม
แปนซีครั้งแรกที่นักวิจัยได้พบเห็นและติดตาม แม้จะมีข้อกล่าวหาอยู่นานว่าการให้
อาหารของ เจน กูดัลล์ น่าจะเป็นตัวการทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชิมแปนซีจน
เกิดเป็นสงคราม แต่หลายทศวรรษให้หลัง นักวิจัยกลับพบว่าชิมแปนซีมีการทำ
สงครามอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มกันในธรรมชาติจริงๆ แม้มนุษย์จะไม่ได้เข้าไป
ยุ่งเกี่ยวเลย พวกมันยังชอบทรมานศัตรูด้วยกันรุมกัดทึ้งอวัยวะเพศให้ขาดก่อน
จะรุมสังหารและกินเนื้อภายหลัง และพฤติกรรมการทำสงครามของชิมแปนซีอาจ
สะท้อนความรุนแรงที่มีในตัวมนุษย์ได้เช่นกัน
1
โฆษณา